xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อลูกน้อยเป็นภูมิแพ้อาหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โดย...พญ.รัตนา เพ็ญศรีชล กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลเวชธานี

หน้าที่สำคัญสำหรับการเป็นพ่อเป็นแม่นั้น คือ การเลี้ยงดูลูก อบรมสั่งสอน และแน่นอนว่าหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุดนั้นคือ การรับประทานอาหารนั่นเอง เพราะปัจจุบันนี้โรคภูมิแพ้อาหารในเด็กเกิดขึ้นมากมาย และอาจจะสร้างความทุกข์ใจให้กับคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่าน รวมถึงสร้างความทรมานให้กับลูกน้อย

อาการภูมิแพ้ในเด็กเกิดสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรกเกิด มีโอกาสที่จะแพ้นมวัวได้เช่นกัน ส่วนอาหารอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับว่า ได้รับเมื่อไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นหลังจากที่ได้รับประทานอาหารตามวัยนั้นคือประมาณ 4 - 6 เดือนขึ้นไป หรือบางคนอาจจะแพ้อาหารผ่านน้ำนมแม่ได้

สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากทารกมีการพัฒนาระบบทางเดินการย่อยอาหารและทางเดินอาหารที่ไม่สมบูรณ์เมื่อมีอาหารเข้าไปผ่านลำไส้และเข้าสู่กระแสเลือดก็จะไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ก่อให้เกิดปฎิกิริยาภูมิแพ้ตามมาได้ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดแต่เชื่อว่า เป็นจากพันธุกรรม คือมีประวัติพ่อ แม่ หรือพี่ น้องเป็นภูมิแพ้อาหาร ภูมิแพ้จมูก หรือเป็นหอบหืด

ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่นคุณแม่รับประทานอาหารขณะตั้งครรภ์ ถ้าคุณแม่รับประทานอาหารบางอย่างที่มากเกินไป หรือจนเกินความจำเป็นอาหารเหล่านั้นก็อาจจะไปกระตุ้นในทารกในครรภ์เกิดเป็นภูมิแพ้ตามมาได้เหมือนกัน

วิธีการสังเกตลูกน้อยมีอาการภูมิแพ้อาหารเกิดได้จากทุกส่วนของร่างกาย แบ่งเป็น 3 ระบบใหญ่ ได้แก่ 1. ทางผิวหนัง 2. ระบบทางเดินอาหาร 3. ระบบทางเดินหายใจ

การแพ้แบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ 1. แพ้แบบเฉียบพลัน มักจะเกิดเป็นนาที หรือเป็นชั่วโมงหลังจากการรับประทานอาหารเด็กก็จะมีอาการเป็นผื่น ลมพิษ หน้าบวม ตาบวม ถ้ามีอาการมาก ๆ จะแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ถึงขั้นความดันตก ช็อก กระทั่งเสียชีวิตได้เลย 2. แพ้แบบสะสมอาการเกิดขึ้นได้หลายลักษณะ หลังรับประทานอาหารใช้เวลาเป็นวันถึงหลายสัปดาห์ โดยแพ้แบบสะสมแบ่งออกได้ 3 ระบบ คือ 1. ระบบผิวหนัง : ผื่นแดงคันเป็น ๆ หาย ๆ ตามใบหน้า, ข้อพับ เรื้อรัง (ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง) โดยไม่ตอบสนองต่อยาทา หรือรักษาหายยาก 2. ระบบทางเดินอาหาร : อาเจียน , ถ่ายเหลวเรื้อรัง ,น้ำหนักไม่ขึ้น, ถ่ายเป็นมูกเลือด โดยไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ 3. ระบบทางเดินหายใจ : เป็นหวัดเรื้อรังรักษาหายยาก

การรักษาปัจจุบัน แพทย์จะให้งดและหลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ แม้จะยังมีโอกาสหายได้เมื่อโตขึ้น แต่ช่วงแรก ๆ ก็จะให้งดไปก่อนจนกว่าภูมิต้านทานจะดีขึ้นแล้วจะหายไปเอง แต่ว่าบางคนที่มีอาการไม่มากเราอาจจะค่อย ๆ ให้อาหารที่เค้าแพ้ แต่เป็นอาหารที่ผ่านความร้อนสูง เพื่อทำให้โปรตีนในอาหารนั้นเปลี่ยนสภาพไปอาจจะทำให้เด็กหายจากการแพ้อาหารได้เร็วขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณจารณ์ของแพทย์

วิธีการตรวจภูมิแพ้ในเด็กแรกเกิด แพทย์จะตรวจโดยการสะกิดผิวหนังในเด็กโดยไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร แค่งดในกลุ่มยาแก้แพ้ลงอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ส่วนการตรวจเลือดไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร และไม่ต้องงดยาแพ้สามารถมาตรวจได้เลยเมื่อร่างกายพร้อม

อาหารกลุ่มเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่มักจะหายแพ้เมื่อโตขึ้น คือ นมวัว ไข่ขาว/ไข่แดง ถั่วเหลือง และแป้งสาลี

อาหารกลุ่มเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่มีโอกาสแพ้ไปตลอดชีวิต คือ ถั่วเปลืองแข็งต่าง ๆ ถั่วลิส่ง และอาหารทะเล

การป้องกันเมื่อเกิดภูมิแพ้
- ทานนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน
- เริ่มอาหารเสริมตามวัยอายุ 4 - 6 เดือน
- เริ่มจากอาหารเสี่ยงแพ้น้อย เช่น ข้าว ผักเขียวอ่อน ผักเขียวเข้ม ผักสีเหลือง เนื้อสัตว์ เช่น ปลาน้ำจืด ไก่ หมู
- อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนอายุ 1 ปี ถั่วลิสง ถั่วเปลือกแข็ง เสี่ยงแพ้และสำลักได้ อาหารทะเลยกเว้นปลาทะเล

สุดท้ายอยากให้คุณแม่ทุกท่านที่ตั้งครรภ์อยู่ต้องดูแลตัวเองให้ดีรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ รับประทานเท่าที่จำเป็นและพอดี อย่ารับประทานมากเกินไป เพียงเท่านี้ก็จะป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ในอาหารได้

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น