xs
xsm
sm
md
lg

ศึกหนัก สสส.!! คตร.ชี้งานไม่สร้างเสริมสุขภาพ CEO ร่อน จม.สั่งเช็กกระแสโจมตี หึ่ง! ส่อฟรีซ 3 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สะพัด! จดหมายเวียนผู้จัดการ สสส. ส่งถึงคนทำงาน สั่งสอดส่องสื่อ - โซเชียลมีเดีย หวั่นกระแสโจมตี หลัง คตร. ตรวจสอบงาน สสส. ไม่เข้าข่ายสร้างเสริมสุขภาพ เชื่อถูกธุรกิจมืดแทรกแซง พร้อมตั้งทีมสื่อสารเฉพาะกิจ รวบรวมผลงานเชิงบวกต่อประเทศทำความเข้าใจสังคม วิพากษ์สนั่นกระแสฟรีซ สสส. 3 เดือน ห้ามทำงาน ห้ามให้งบเครือข่าย ระหว่างหน่วยงานสุขภาพอื่น และ สธ. ตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในสังคมออนไลน์มีการส่งต่อข้อความในลักษณะจดหมายเวียน ซึ่งคาดว่าเป็นของ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ถึงบุคลากร สสส. ทุกคน โดยเนื้อหาระบุถึงวิกฤตใหม่ที่ สสส. กำลังเผชิญ คือ ผลการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ที่มีการกล่าวหาว่า งาน สสส. อยู่นอกขอบข่ายการสร้างเสริมสุขภาพ เช่น การตั้งศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน เป็นบทบาทของกระทรวงคมนาคม งานสวดมนต์ข้ามปี เป็นงานของกรมการศาสนา หรืองานพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงร่วมกับกระทรวงต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดล้วนไม่ใช่บทบาท สสส. เป็นต้น ซึ่ง สสส. ยังไม่ทันได้ชี้แจง คตร. ก็สรุปผลและส่งรายงานต่อนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ข้อความในจดหมายยังระบุอีกว่า การตรวจสอบของ คตร. ครั้งนี้ เชื่อว่าไม่เป็นไปตามปกติ อาจมีการแทรกแซงโดยธุรกิจที่เสียประโยชน์ และมีความเสี่ยงสูงที่ สสส. อาจจะถูกทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง โดยอาจเสนอให้ สสส. เข้าสู่ระบบบริหารราชการปกติ หรือแทรกแซงการทำงานของ สสส. ให้ไม่สามารถดำเนินการได้เหมือนเดิม ซึ่งจากการได้หารือด่วนกับผู้บริหารทุกคน เพื่อวางแผนรับมือกับสถานการณ์ เป็นไปได้ว่าช่วง 1 - 2 สัปดาห์นี้ อาจมีการโจมตีการทำงานของ สสส. ออกมาทางสื่อและโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างกระแสและความชอบธรรมในการทำลาย สสส. โดยขณะนี้ได้ตั้งทีมสื่อสารเฉพาะกิจ เพื่อรวบรวมข้อมูลและประเด็น จัดทำชุดสื่อสารที่ตรงจุด เข้าใจง่าย หากมีการโจมตี สสส. ก็จะตอบโต้และสื่อสารให้กับสังคมเข้าใจโดยเร็วและทันสถานการณ์

นอกจากนี้ ยังระบุว่า สิ่งที่ชาว สสส. ต้องช่วยกันทำ คือ เตรียมข้อมูลการทำงานของ สสส. ที่ส่งผลกระทบเชิงบวกที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ ผลงานเด่นของแต่ละสำนัก และชี้แจงประเด็นที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ คตร. มีคำถามและตั้งข้อสังเกตทุกประเด็น คอยสอดส่องสื่อต่าง ๆ ที่มีประเด็นเชิงลบกับ สสส. แล้วช่วยกันส่งข่าวให้ทีมสื่อสารกลางได้รับทราบอย่างรวดเร็ว ช่วยเตรียมข้อมูลผลงานของสำนัก พร้อมหลักฐานอ้างอิงที่สนับสนุนผลงานอย่างเป็นรูปธรรม และช่วยกันทำความเข้าใจกับภาคีและสังคม เมื่อทีมสื่อสาร สสส. ให้สัญญาณ เชื่อว่า ครั้งนี้ สสส. จะผ่านวิกฤตไปด้วยความร่วมมือของทุกคนเหมือนทุกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการกระจายจดหมายเวียนดังกล่าว ได้มีการกระจายไปยังนอกหน่วยงาน และวิพากษ์วิจารณ์ว่า อีกไม่นาน คตร. จะส่งรายงานถึงนายกรัฐมนตรี และอาจมีคำสั่งให้บุคลากร สสส. หยุดการทำงาน 3 เดือน โดยหยุดให้การสนับสนุนงบประมาณเครือข่าย สสส. ต่าง ๆ และอาจให้หน่วยงานด้านสุขภาพอื่น ๆ รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เข้าไปตรวจสอบตรงนี้ ให้แล้วเสร็จ 3 เดือน จากนั้นจึงจะเดินหน้างาน สสส.ต่อไป จนเกิดข้อวิตกว่าจะมีการล้วงลูกหรือไม่

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องนี้ต่อ ทพ.กฤษดา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่แหล่งข่าวใน สสส. ระบุว่า เรื่องผลการตรวสอบของ คตร. เป็นเรื่องจริง ซึ่ง สสส. ยังต้องชี้แจง แต่ขณะนี้ยังชี้แจงไม่เป็นที่เรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวสอบถาม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถึงกรณีกระแสข่าวให้ สธ.เข้ามาตรวจสอบ สสส. นพ.ปิยะสกล กล่าวสั้นๆ ว่า ข่าวลือก็ปล่อยให้ลือไปก่อน ถ้าลือเสร็จเมื่อไรค่อยมาว่ากันอีกที

พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ที่ปรึกษาสมาพันธ์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) กล่าวว่า บทบาทของ สสส. ตั้งขึ้นมาเพื่อต้องการให้ใช้เงินภาษีบาปฟื้นฟูสุขภาพประชาชน หรือรณรงค์ให้ประชาชนลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ อยู่ภายใต้การดูแลของนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นหน่วยงานพิเศษในยุคที่เริ่มก่อตั้ง แต่ปัจจุบันกลับมีการใช้เงินแบบให้ใครก็ได้ที่ต้องการทำกิจกรรมแล้วมีการระบุว่าเพื่อสุขภาพ ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการดูแลให้ชัดเจน ขณะนี้ สสส. ยังได้รับเงินจากภาษีบาปเพิ่มขึ้นจากเริ่มต้นที่ประมาณ 1 พันล้านบาท เป็นประมาณ 4 พันล้านบาทแล้ว การได้รับเงินมากขึ้นส่งผลให้ต้องเร่งใช้เงินให้หมด ดังนั้น สสส. ในปัจจุบัน จึงถูกมองว่าเป็นหน่วยงานที่เอากระแสมากกว่าผลงาน บางครั้งก็มีการไปทำงานทับเส้นหน่วยงานอื่น นอกจากนี้ การใช้เงินของสสส.ก็ตรวจไม่ได้ สตง.ยังเคยระบุว่า สสส.ตรวจสอบลำบาก การนำเงินไปใช้บางโครงการไม่ชัดเจน

บางโครงการของกลุ่มเอ็นจีโอบางกลุ่มที่มีการทำเรื่องมาเสนอของบประมาณจาก สสส. ก็มีการเปลี่ยนเพียง พ.ศ. แต่ชื่อโครงการไม่เปลี่ยน สะท้อนให้เห็นว่า หากโครงการสำเร็จก็คงไม่ของบซ้ำ นอกจากนี้ ยังมีเอ็นจีโอกลุ่มที่ไม่ใช่พวกพ้องออกมาโจมตีว่า สสส. อาจให้เงินเฉพาะกลุ่มของพวกพ้อง ดังนั้น ช่วงหลังกระทรวงการคลังจึงมีความพยายามที่จะดึงงบ สสส. มาไว้ที่กระทรวงการคลังแล้วให้ สสส. ไปเบิกงบหากต้องการใช้ ทั้งนี้ หากเอาเงินไปไว้ที่กระทรวงการคลัง สตง. ก็จะสามารถตรวจสอบได้ เพราะเวลาจะนำเงินออกไปใช้จะมีเลขกำกับ และขอสนับสนุนให้นำเงินไปไว้ที่กระทวงการคลังเพื่อให้เงินจำนวนมหาศาลนี้เกิดประโยชน์กับประชาชนสูง” พญ.ประชุมพร กล่าว

อ่านจดหมายเวียนฉบับเต็ม

ถึง ชาว สสส. ทุกคน

จากเหตุการณ์หลายเดือนก่อนที่ สสส. อยู่ในวิกฤติของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อยกเลิก Earmarked tax และพวกเราก็สามารถฝ่าฟันวิกฤติครั้งนั้นได้ ด้วยความร่วมมือของทุกคน

ครั้งนี้เราเจอความเสี่ยงครั้งใหม่ เมื่อคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้ถูกส่งมาตรวจสอบการทำงานของ สสส. ซึ่งทีม สสส. ได้มีการชี้แจงและทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ ที่มาตรวจสอบ จนเกิดความเข้าใจเป็นอย่างดี และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ไม่ติดใจประเด็นการทำงานของ สสส. แล้ว แต่เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ผมและคณะได้เข้าไปรับทราบผลการตรวจสอบเบื้องต้นจาก คตร. ซึ่งผลที่ออกมาเบื้องต้นไม่ positive กับ สสส. ในหลายประเด็น โดยมีการกล่าวหาว่า งาน สสส. อยู่นอกขอบข่ายการสร้างเสริมสุขภาพ เช่น การตั้งศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน เป็นบทบาทของกระทรวงคมนาคมไม่ใช่ สสส. หรือ งานสวดมนต์ข้ามปี เป็นงานของกรมศาสนา ไม่ใช่ บทบาท สสส. หรือ งานพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงร่วมกับกระทรวงต่างๆ ไม่ใช่บทบาท สสส. เป็นต้น

ในการพบ คตร. วันนั้นประธานได้นัดหมาย ให้ สสส. ไปชี้แจงรายละเอียดการทำงานในครั้งต่อไป แต่ทีมงาน สสส. ยังไม่ทันได้ไปชี้แจงแต่อย่างใด คตร. ก็สรุปผลและส่งรายงานต่อนายกเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อหลายวันที่ผ่านมา

ทำให้เรามีความเชื่อว่าการตรวจสอบ ของ คตร. ครั้งนี้ไม่เป็นไปตามปกติ อาจมีการแทรกแซงโดยธุรกิจที่เสียประโยชน์ และมีความเสี่ยงสูงที่ สสส. อาจจะถูกทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงโดยอาจเสนอให้ สสส. เข้าสู่ระบบบริหารราชการปกติ หรือแทรกแซงการทำงานของ สสส. ให้ไม่สามารถดำเนินการได้เหมือนเดิม

และเช้านี้ผมได้หารือด่วนกับผู้บริหารทุกคน เพื่อวางแผนรับมือกับสถานการณ์ครั้งนี้อย่างจริงจัง โดยการวิเคราะห์สถานการณ์ วิเคราะห์ scenario ที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงแนวทางที่พวกเราจะต้องร่วมมือ ร่วมแรง และร่วมใจกัน อีกครั้ง เพื่อฟันฝ่าวิกฤตนี้ ให้ได้

ในช่วง 1 - 2 สัปดาห์นี้เป็นไปได้อาจมีการโจมตีการทำงานของ สสส. ออกมาทางสื่อ และ social media อีกระลอก เพื่อสร้างกระแสและความชอบธรรมในการทำลาย สสส.

สิ่งที่พวกเราจะต้องช่วยทำกันในช่วง 1 - 2 สัปดาห์นี้ คือ การเตรียมข้อมูลการทำงานของ สสส ที่ส่งผลกระทบเชิงบวก ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและต่อประเทศ ผลงานเด่นของแต่ละสำนัก และชี้แจงประเด็นที่ สตง. และ คตร. มีคำถามและตั้งข้อสังเกตุทุกประเด็น

ขณะนี้เราได้ตั้งทีมสื่อสารเฉพาะกิจ ซึ่งประกอบด้วย CC SM ศรร. และฝ่ายนวัตกรรม เพื่อรวบรวมข้อมูลและประเด็น และจัดทำชุดสื่อสารที่ตรงจุด เข้าใจง่าย ให้พร้อม และหากมีการโจมตี สสส. ทางสื่อ หรือ social media ออกมาเราก็จะตอบโต้และสื่อสารประเด็นให้กับสังคมเข้าใจโดยเร็ว และทันต่อสถานะการณ์

สิ่งที่อยากให้ชาว สสส ทุกคนช่วยกัน คือ
- สอดส่องสื่อต่างๆ หรือ social media ที่มีประเด็นเชิงลบกับ สสส แล้วช่วยกันส่งข่าว ให้ทีมสื่อสารกลางได้รับทราบอย่างรวดเร็ว
- ช่วยเตรียมข้อมูลผลงานของสำนัก พร้อมหลักฐานอ้างอิงที่สนับสนุนผลงานอย่างเป็นรูปธรรม
- ช่วยกันทำความเข้าใจกับภาคีและสังคม เมื่อทีมสื่อสาร สสส. ให้สัญญาน

พวกเราพบวิกฤตร่วมกันมาหลายครั้ง และเราก็สามารถผ่านวิกฤตเหล่านั้นมาได้ทุกครั้ง และครั้งนี้ผมก็เชื่อมั่นว่าเราจะผ่านไปได้ ด้วยความร่วมมือของพวกเราทุกคน

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น