xs
xsm
sm
md
lg

ผญบ.ระยองจี้ทหารตรวจสอบเจ้าอาวาสวัด “หลวงปู่ทิม” ไม่โปร่งใส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระยอง - ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พร้อมผู้ช่วย และลูกบ้าน เข้ายื่นหนังสือให้ทหารดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ หรือวัดหลวงปู่ทิม และกรรมการวัด หลังพบปมไม่มีความโปร่งใสเกี่ยวกับการจัดซื้อที่ดิน การสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่ทิม และการก่อสร้างอาคารต่างๆ ภายในวัด

วันนี้ (4 ก.ย.) ที่ บก.ควบคุม ร้อย รส.ทร.ที่ 5 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) กองทัพเรือ บริเวณวัดเขาโพธิ์ ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นายเที่ยง อัมฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พร้อมด้วย นายประชุม งามศรี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 และตัวแทนชาวบ้าน เข้ายื่นหนังสือเรื่องความไม่โปร่งใสในการบริหารของคณะกรรมการวัดละหารไร่ร่วม (วัดหลวงปู่ทิม) และเจ้าอาวาส ให้ตรวจสอบพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่ชอบมาพากล

พร้อมรายชื่อชาวบ้านรวม 50 ราย โดย น.ต.วุฒิพล สุขผดุง ผบ.ร้อย รส.ทร.ที่ 5 และ ร.ท.ยุจชน กล้าหาญ นายทหารฝ่ายยุทธการ ร้อย รส.ทร.ที่ 5 เป็นผู้รับเรื่อง และกล่าวว่า ในเบื้องต้นให้ผู้ใหญ่บ้านไปยื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านค่าย เพื่อเป็นการดำเนินการแบบคู่ขนานไปพร้อมกัน

หนังสือร้องเรียนมีรายละเอียดรวม 10 ข้อ 1.การจัดซื้อที่ดินรวม 6 แปลง 2.การสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่ทิม แบบไม่มียอดจำนวนการสร้าง และส่วนใหญ่ไม่ได้พุทธาภิเษก 3.แต่งตั้งคณะกรรมการวัดโดยใช้อำนาจตนเอง แต่งตั้งจากบุคคลนอกพื้นที่ 4.การก่อสร้างแบบไม่ตั้งใจให้เสร็จ และใช้ระบบความคิดของตนเอง สร้างแล้วรื้อ สร้างแล้วทุบเหมือนมีอะไรแอบแฝง 5.พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างเพื่อบรรจุอัฐิหลวงปู่ทิม ที่ประชาชนสมทบทุนสร้างปล่อยทิ้งร้าง และให้คนงานก่อสร้างพาครอบครัวเข้าไปอยู่อาศัยในเจดีย์ ขัดต่อความรู้สึกต่อผู้ที่พบเห็น

6.ศาลพระเจ้าตากสิน สระน้ำวังสามพญา ที่ใช้ตักน้ำไปถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทิ้งไว้เหมือนบ่อขยะ 7.โรงเรียนปริยัติธรรมปล่อยทิ้งร้าง 8.ไล่ที่โรงเรียน รื้อสนามกีฬา แล้วบอกว่าจะสร้างให้ใหม่ 4-5 ปี แล้วยังไม่สร้าง 9.เรื่องการเงินและบัญชีของวัด ไม่เคยแจ้งยอดบัญชี ผู้ใดสอบถามก็ได้รับคำตอบว่าคุณมีอำนาจขนาดไหนที่จะมาตรวจสอบเงินของวัด และ 10.ใช้ระบบบริหารแบบเผด็จการมาตั้งแต่เข้ามาเป็นเจ้าอาวาส 20 ปีที่ผ่านมา เคยข่มขู่ชาวบ้านจะเอาที่ดินสาธารณะของหมู่บ้าน อ้างว่าสงฆ์เข้าไปทำกิจมา 5 ปี จะต้องเป็นทรัพย์ของสงฆ์

จึงถูกชาวบ้านลงชื่อร้องเรียนมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ดังนั้น เพื่อเป็นการธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา และองค์หลวงปู่ทิม มิควรให้ผู้ใดมาแสวงหาผลประโยชน์ ในการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่ทิมแบบไม่มีระบุว่าสร้างจำนวนเท่าไหร่

นายเที่ยง อัมฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือทหาร บก.ร้อย รส.ทร.ที่ 5 คือ ต้องการให้หน่วยทหารแก้ไขปรับปรุงการบริหารจัดการของเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ เนื่องจากในฐานะที่เป็นผู้นำท้องถิ่น เรื่องไปซื้อที่ดินจำนวนหลายแปลงซึ่งอยู่นอกวัด และอยู่นอกอำเภอบ้านค่าย แทนที่จะนำเงินดังกล่าวมาปรับปรุงสิ่งก่อสร้างที่ยังไม่เสร็จ

รวมทั้งเรื่องการเงินของวัดกรรมการส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ กรณีการสร้างวัตถุมงคล อยากให้มีการระงับการสร้างวัตถุมงคลบ้าง เพราะว่าเป็นการสร้างที่ไม่มีที่สิ้นสุด สร้างมาตลอด ยกตัวอย่างเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางวัดได้สร้างวัตถุมงคลจำหน่ายชุดละ 1,700 บาท ต่อมา เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม สร้างวัตถุมงคลจำหน่ายชุดละ 1,200 บาท เหรียญละ 3,000-3,500 บาท และ 90,000 บาท มีการสร้างตามยอดสั่งจอง

ผมมองว่าตราบใดยังมีคนสั่งจองก็สร้างไปเรื่อย ไม่มีที่สิ้นสุด รายได้ไม่เคยแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบว่า สร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้จะนำเงินรายได้ไปสร้างอะไร และบางรุ่นมีพิธีพุทธาภิเษกแต่บางรุ่นที่สร้างแบบไม่มีจำนวนจำกัด เพราะฉะนั้นที่สร้างเพิ่มมาภายหลังผมคาดว่าไม่ได้มีพุทธาภิเษก ซึ่งเป็นของที่ทำเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

ด้านพระครูวิจิต ธรรมาภิรัติ หรืออาจารย์เชย เจ้าอาวาสวัดละหารไร่ ชี้แจงว่า หลังอ่านหนังสือร้องเรียนให้มีการตรวจสอบนั้น ไม่มีความหนักใจสามารถชี้แจงได้ทุกข้อ บางเรื่องที่ดำเนินการไปนั้นมันเป็นที่ของวัด เดิมที่ดินของวัดมีจำนวน 8 ไร่ ต่อมา นายชินพร ซื้อที่ดินให้วัดอีก 8 ไร่ ที่ซื้อที่ดินไม่ได้ซื้อเป็นส่วนตัว แต่นำไปสร้างเมรุ สร้างโรงเรียน และที่พักคนงาน ไม่ได้ปิดบังอำพรางซ่อนเร้น

ส่วนเรื่องการเงินของวัดมีการจัดทำบัญชีรายงานเจ้าคณะจังหวัดตามขั้นตอนทุกปี ทำไมจะต้องไปชี้แจงประชาชน ส่วนกรณีสร้างรีสอร์ตเป็นหลังๆ ในที่ดินวัดนั้น ใช้สำหรับเป็นบ้านพักคนงานไม่ใช่รีสอร์ต สาเหตุที่ต้องสร้างเพราะว่าคนงานมาทำงานไม่มีที่พักจะให้พักในวัดก็จะปนกับพระ ทำให้คนงานต้องไปอาศัยบริเวณริมคลองเป็นภาพที่ไม่ดี จึงไปขอกระเบื้องมาจากร้านรับซื้อของเก่า ถ้าจะสร้างเป็นสลัมมันทำให้เสียงบประมาณ จึงสร้างให้มันดี และในอนาคตจะสร้างอาคารปฏิบัติธรรมบริเวณนี้ ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมเป็นผู้หญิงก็จะใช้เป็นที่พัก แต่คนมองเป็นรีสอร์ต จริงๆ แล้วสร้างอยู่ในกำแพงวัด คนที่ไม่รู้ข้อมูลจริงแล้วมาพูดเขาเรียกว่าเสียดสีหมิ่นประมาททำให้เสียหาย

สำหรับเรื่องการบีบไล่ที่โรงเรียน คนที่พูดไม่มีข้อมูลที่แท้จริง ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ของวัดไม่ใช่ที่ของโรงเรียนแล้วมากล่าวหานั้นเป็นการใส่ร้าย ถนนทางเข้าโรงเรียน มิเตอร์ไฟวัดก็ดำเนินการให้ทุกอย่าง ครูมาบอกว่า โรงเรียนจะทำถนนภายในประมาณ 100 เมตร เป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท แต่ไม่มีเงิน ทางวัดก็ให้โรงเรียนดำเนินการพร้อมจะจ่ายเงินให้

แต่ทางโรงเรียนเอาเปรียบมากไปทำถนนกว่า 200 เมตร คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 700,000 บาททางวัดก็จ่ายให้ พูดอย่างนี้เป็นการใส่ร้ายเจ้าอาวาสให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ข้อเรียกร้องทั้ง 10 ข้อสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ทั้งหมด

ส่วนกรณีเรื่องที่ดินของวัดตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ระบุว่า วัดให้มีที่ดินได้ไม่เกิน 50 ไร่ แต่ถ้าเสนอไปทางกรมการศาสนา จำนวน 50 ไร่ ก็จะต้องมีการสอบสวน ถ้ามีที่จำนวน 49 ไร่ก็ไม่ต้องมีการสอบสวน แต่ที่วัดมีทั้งหมด 80 ไร่ ส่วนที่เหลือก็ต้องซื้อเป็นชื่อเจ้าอาวาส ทรัพย์สินอันใดได้มาเมื่อเป็นพระทรัพย์สินนั้นต้องตกเป็นของสงฆ์ เมื่อเจ้าอาวาสมรณภาพ สมบัติทุกอย่างต้องตกเป็นของสงฆ์ทั้งหมด ไม่ใช่ของส่วนตัว


กำลังโหลดความคิดเห็น