xs
xsm
sm
md
lg

ลิฟต์ค้าง-ลิฟต์ตก กลัวที่แคบในลิฟต์ ช่วยเหลืออย่างไร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สพฉ. เผยไฟฟ้าดับ ลิฟต์ค้าง เสี่ยงเกิดภาวะคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ แนะคลายเสื้อผู้ป่วย ประคองยืนไว้ตลอดเวลา ห้ามนั่งหรือนอน ระบุเมื่อออกจากลิฟต์ให้รีบพาไปที่อากาศถ่ายเท พร้อมแนะวิธีรับมืออาการเครียดกลัวที่แคบ ลิฟต์ตก

นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ปัจจุบันอาคารสูงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราต้องหันมาใช้ลิฟต์กันมากขึ้น แม้อันตรายที่เกิดขึ้นจากลิฟต์จะเกิดไม่บ่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นลิฟต์ค้าง ประตูลิฟต์หนีบ หรือลิฟต์ตก ทั้งนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินคือตั้งสติ และอย่าพยายามงัดประตูลิฟต์โดยพลการเด็ดขาด โดยหากลิฟต์ค้างมักไม่ค่อยมีอันตราย เนื่องจากลิฟต์มีพัดลมที่สามารถระบายอากาศได้เพียงพอ แต่หากไฟฟ้าดับและพัดลมระบายอากาศหยุดทำงาน คนที่ติดอยู่ในลิฟต์ส่วนใหญ่ มักจะประสบกับภาวะการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ คือ จะมีอาการมึนงง สับสน ปากเริ่มมีสีคล้ำ ให้รีบคลายเสื้อของผู้ป่วยให้หลวม ไม่ควรจับนอนหรือนั่ง แต่ควรประคองให้ยืนไว้ เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หนักกว่าอากาศ บริเวณพื้นจึงมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาก จากนั้นเมื่อนำผู้ป่วยออกมาได้แล้ว ให้รีบพาไปอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก อย่ามุง หรือหากมีออกซิเจนให้รีบให้ในทันที และ โทร. แจ้งสายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ แต่หากหัวใจหยุดเต้นควรรีบช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) โดยเร็ว

นพ.อนุชา กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีอาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้ คือ ความเครียดจากการกลัวที่แคบ (Agoraphobia) ทำให้หายใจเร็ว ซึ่งจะทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดถูกขับออกมากับลมหายใจมาก ส่งผลให้เลือดมีความเป็นกรดลดลง จึงเกิดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อคล้ายตะคริวหรือที่เรียกว่าอาการมือจีบ โดยการปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือ ให้นำถุงพลาสติก หรือถุงกระดาษ เจาะรูเล็ก ๆ มาครอบปากและจมูก ให้ผู้ป่วยหายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์ที่หายใจออกมามากให้ย้อนกลับเข้าไป โดยต้องเปิดให้หายใจในอากาศปกติเป็นระยะ และที่สำคัญคือต้องทำให้ผู้ป่วยผ่อนคลายด้วย แต่อย่างไรก็ตาม หากมีอาการบ่อย ๆ ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อรักษาจากสาเหตุที่แท้จริง

หากต้องเผชิญกับอันตรายกับ “ลิฟต์ตก” ซึ่งสมาคมลิฟต์แห่งประเทศไทย ระบุว่า โอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก เนื่องจากลิฟต์รุ่นใหม่ ๆ จะมีระบบล็อก แต่หากเกิดขึ้นให้ผู้ประสบเหตุกดปุ่มให้ลิฟต์จอดทุกชั้น เพราะเมื่อไฟฟ้าสำรองทำงานจะหยุดลิฟต์จากการร่วงลงมา และให้หาที่จับให้แน่น พิงหลัง และศีรษะเข้ากับผนังให้เป็นเส้นตรง เพื่อช่วยป้องกันหลังและกระดูก และควรงอเข่า สิ่งสำคัญคือควรปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันอันตราย เช่น ไม่ขึ้นลิฟต์เกินจำนวนคนที่ระบุไว้, อย่าพิงประตูลิฟต์ขณะยืนรอ เนื่องจากประตูลิฟต์ไม่ได้แข็งแรงและไม่ได้ออกแบบมารับน้ำหนักคนพิงจึงอาจพังได้, ประตูลิฟต์อาจหนีบคนได้หากระบบเซ็นเซอร์เสีย และหากไฟไหม้ห้ามใช้ลิฟต์เด็ดขาดเพราะอาจสำลักควันในปล่องลิฟต์ หรือลิฟต์ไปเปิดในชั้นที่ไฟกำลังไหม้ทำให้คนในลิฟต์เสียชีวิตทันทีได้” เลขาธิการ สพฉ. กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น