พบอัตราตายจากอุบัติเหตุเมืองกาญจน์ แซงอัตราตายระดับประเทศ สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน คาดเปิดเออีซี - เขตเศรษฐกิจพิเศษ อุบัติเหตุทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น รพ.พหลฯ เร่งแก้ปัยหา เทงบ 293 ล้านบาท ยกระดับศูนย์อุบัติเหตุ ดูแลประชาชน นักท่องเที่ยว จัดหาแพทย์เฉพาะทาง - ครุภัณฑ์เพิ่มเติม พัฒนาหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินพื้นที่ป่าเขา และจำนวนทีมแพทย์ฉุกเฉินในจุดเสี่ยง
นพ.สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบัน จ.กาญจนบุรี มีประชากรราว 1 ล้านคน แต่ในอีก 4 - 5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มเป็นประมาณ 1.5 ล้านคน จากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนช่วงปลายปี 2558 และการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมกับเมืองทวาย ประเทศพม่า ซึ่งปัญหาสุขภาพอย่างหนึ่งที่จะตามมา คือ อุบัติเหตุจากการจราจรและท่องเที่ยว เนื่องจากมีการพัฒนาระบบคมนาคม ถนนมีขนาดใหญ่ขึ้น รถมีปริมาณมากขึ้น รพ.พหลฯ จึงมีแผนพัฒนาโรงพยาบาลเพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว โดยพัฒนาศูนย์อุบัติเหตุจากระดับ 3 ให้กลายเป็นระดับ 1 ใช้งบ 293 ล้นบาท ในการก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุแบบบูรณาการ 7 ชั้น ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2560
“นอกจากนี้ จะจัดหาบุคลากรเฉพาะทางเพิ่มเติม คือ นิติเวช ศัลยศาสตร์ทรวงอก ศัลยศาสตร์ตกแต่ง เวชศาสตร์ฉุกเฉิน วิสัญญีวิทยา และรังสีวิทยา รวมทั้งครุภัณฑ์โดยใช้งบในปี 2560 - 2562 กว่า 100 ล้านบาท เช่น เครื่องผ่าตัดทั่วไประบบไฟฟ้าพร้อมรีโมตคอนโทล เครื่องดมยาสลบ เตียงผู้ป่วย เครื่องช่วยหายใจ เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจ และเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น” นพ.สมเจตน์ กล่าว
นพ.กิตติ อินทราสุขพร รอง ผอ.รพ.พหลฯ กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2558 จ.กาญจนบุรี มีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยในพื้นที่อยู่ที่ 21 คนต่อแสนประชากร สูงกว่าอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งประเทศซึ่งอยู่ที่ 18 - 19 คนต่อแสนประชากร ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานกำหนดไม่ควรเกิน 12 คนต่อแสนประชากร ซึ่งการพัฒนาระบบคมนาคมดังกล่าวคาดว่าจะมีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ รพ.พหลฯ ได้พัฒนาศูนย์อุบัติเหตุ ซึ่งจะดูแลทั้งอุบัติเหตุจราจร ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เป็นต้น โดยจะมีการพัฒนาเรื่องหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินในพื้นที่ป่าเขา ซึ่งร่วมมือกับกรมป่าไม้ และพัฒนาเรื่องการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) เพราะปัญหาอุบัติเหตุจราจรพบว่าส่วนใหญ่เป็นการเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินยังกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เมืองมากกว่า จุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ เช่น สังขละบุรี ทองผาภูมิ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบัน จ.กาญจนบุรี มีประชากรราว 1 ล้านคน แต่ในอีก 4 - 5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มเป็นประมาณ 1.5 ล้านคน จากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนช่วงปลายปี 2558 และการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมกับเมืองทวาย ประเทศพม่า ซึ่งปัญหาสุขภาพอย่างหนึ่งที่จะตามมา คือ อุบัติเหตุจากการจราจรและท่องเที่ยว เนื่องจากมีการพัฒนาระบบคมนาคม ถนนมีขนาดใหญ่ขึ้น รถมีปริมาณมากขึ้น รพ.พหลฯ จึงมีแผนพัฒนาโรงพยาบาลเพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว โดยพัฒนาศูนย์อุบัติเหตุจากระดับ 3 ให้กลายเป็นระดับ 1 ใช้งบ 293 ล้นบาท ในการก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุแบบบูรณาการ 7 ชั้น ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2560
“นอกจากนี้ จะจัดหาบุคลากรเฉพาะทางเพิ่มเติม คือ นิติเวช ศัลยศาสตร์ทรวงอก ศัลยศาสตร์ตกแต่ง เวชศาสตร์ฉุกเฉิน วิสัญญีวิทยา และรังสีวิทยา รวมทั้งครุภัณฑ์โดยใช้งบในปี 2560 - 2562 กว่า 100 ล้านบาท เช่น เครื่องผ่าตัดทั่วไประบบไฟฟ้าพร้อมรีโมตคอนโทล เครื่องดมยาสลบ เตียงผู้ป่วย เครื่องช่วยหายใจ เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจ และเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น” นพ.สมเจตน์ กล่าว
นพ.กิตติ อินทราสุขพร รอง ผอ.รพ.พหลฯ กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2558 จ.กาญจนบุรี มีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยในพื้นที่อยู่ที่ 21 คนต่อแสนประชากร สูงกว่าอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งประเทศซึ่งอยู่ที่ 18 - 19 คนต่อแสนประชากร ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานกำหนดไม่ควรเกิน 12 คนต่อแสนประชากร ซึ่งการพัฒนาระบบคมนาคมดังกล่าวคาดว่าจะมีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ รพ.พหลฯ ได้พัฒนาศูนย์อุบัติเหตุ ซึ่งจะดูแลทั้งอุบัติเหตุจราจร ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เป็นต้น โดยจะมีการพัฒนาเรื่องหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินในพื้นที่ป่าเขา ซึ่งร่วมมือกับกรมป่าไม้ และพัฒนาเรื่องการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) เพราะปัญหาอุบัติเหตุจราจรพบว่าส่วนใหญ่เป็นการเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินยังกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เมืองมากกว่า จุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ เช่น สังขละบุรี ทองผาภูมิ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
