หมอชนบทเข้าพบ “ปิยะสกล” จี้เดินหน้าตั้งสอบวินัยปลัด สธ. ก่อนเกษียณ ผลักดันปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพ ย้ำ ไม่ควรแยกเงินเดือนออกจากงบรายหัว หวั่น รพ. เล็กไร้คนปฏิบัติงาน ด้าน รมว.สธ. ขอทำงานมองประชาชนเป็นหลัก ยินดีแก้ปัญหา แต่ทุกฝ่ายต้องทำงานร่วมกัน ลดอัตตา ความไม่พอใจ
วันนี้ (31 ส.ค.) เมื่อเวลา 07.30 น. กลุ่มชมรมแพทย์ชนบท นำโดย นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เดินทางเข้าพบ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ) และคณะที่ปรึกษา เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาระบบสาธารณสุขไทย โดย นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวภายหลังหารือว่า รมว.สธ. ให้การตอบรับดีมาก โดยชมรมฯ เสนอให้มีการปฏิรูประบบสาธารณสุข โดยเฉพาะเรื่องระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมา ถูกมองว่า งบประมาณไม่พอ แต่จริง ๆ แล้วเพียงพอ ซึ่งอยู่ที่ความร่วมมือของทางฝั่ง สธ. มากกว่า เพราะไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลชายแดน หรือโรงพยาบาลห่างไกลที่มีปัญหาเรื่องงบ ที่ผ่านมา ได้วางหลักเกณฑ์และจัดสรรงบประมาณช่วยเหลืออยู่แล้ว หากฝั่ง สธ. ดำเนินการก็จะไม่มีปัญหา ส่วนข้อเสนอให้แยกเงินเดือนบุคลากรสาธารณสุขออกจากงบเหมาจ่ายรายหัว มองว่าไม่ควรอยก เพราะจะทำให้บุคลากรแห่ไปยัง รพ. ใหญ่ ทำให้ รพ. เล็ก อยู่ไม่ได้ เพราะไม่มีงบส่วนนี้เข้ามา จึงอยากให้ปฏิรูประบบอย่างเท่าเทียม และฝากเรื่องตั้งปลัด สธ. คนใหม่ต้องไม่สืบทอดอำนาจจากใคร
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขอให้ นพ.ปิยะสกล มาเดินหน้าเรื่องการตรวจสอบวินัยร้ายแรงของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กรณีรับค่าพาหนะแล้วยังใช้รถหลวง ซึ่งสมัย นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน เป็น รมว.สธ. ก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นและพบว่ามีมูลความผิด จึงอยากให้เดินหน้าเรื่องนี้ต่อ และตั้งกรรมการสิบวินัยภายใน 30 วัน ที่เหลือก่อน นพ.ณรงค์ จะเกษียณอายุราชการมิเช่นนั้นจะถือว่า รมว.สธ. เลือกปฏิบัติและฝ่าฝืนคำสั่งนายกรัฐมนตรี
นพ.ประสงค์ ปานไทยสน ผอ.รพ.ปราณบุรี กล่าวว่า ปัญหาประชาชนเคลื่อนย้ายบ่อย เพราะต้องไปทำงานต่างถิ่น ทำให้พบประชาชนในสิทธิบัตรทอง ซึ่งไปทำงานนอกพื้นที่แล้วไม่สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลของรัฐได้ เพราะสิทธิการรักษาอยู่อีกที่หนึ่ง จึงขอให้ รมว.สธ. ช่วยผลักดัน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรับบริการทางการแพทย์ได้
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า การทำงานจำเป็นต้องบูรณาการร่วมกันอย่างจริงใจ เช่น เขตสุขภาพ อยากให้มองเรื่องผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก อย่ามองแต่เรื่องงบประมาณ เพราะในภาวะที่ทรัพยากรมีอย่างจำกัดจำเป็นต้องช่วยกันทำงาน ซึ่งการที่ตนเข้ามารับตำแหน่งจะขอรับฟังและนำประเด็นต่าง ๆ มาพิจารณา แต่การทำงานร่วมกันจำเป็นต้องคุยกันด้วยความเป็นเหตุเป็นผล ลดอัตตา ลดความไม่พอใจเป็นการส่วนตัวลง ถึงจะสามารถทำงานร่วมกันได้ และการเข้ามาพูดคุยกันนั้น ตนเปิดรับและสามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ทุกเดือน แต่การมาหารือกันอยากให้หาวิธีการแก้ไขปัญหาเข้ามาด้วย อย่าหามาแต่ปัญหา ซึ่งการทำงานต้องพิจารณากันไป แต่รับปากว่าจะช่วยแก้ปัญหา และยืนยันว่า ตนเป็นคนรักษาสัจจะ ส่วนกรณีปลัด สธ. ได้มอบให้ นพ.ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วย รมว.สธ. ไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
