หมอชนบทล้วงลูก รมว.สธ.เผยผลสอบปลัด สธ.ผิดวินัย “หมอณรงค์” ยึดทำงานเป็นหลัก

หมอชนบทล้วงลูก รมว.สธ. เผยผลสอบปลัด สธ. เสร็จแล้ว พบผิดวินัยร้ายแรง เตรียมจี้ “รัชตะ” สอบวินัยร้ายแรง “หมอณรงค์” หวั่นหลักฐานถูกทำลาย ด้านปลัด สธ. บอกขอทำงานเป็นหลักก่อนเกษียณ เล็งอุ้มหมออนามัยให้ดีขึ้น ขณะที่ “หมอเจตน์” ชี้ปัญหา สธ. เห็นต่างเพราะโครงสร้างต้องแก้ไข ไม่เกี่ยวตัวบุคคล เสนอมี คกก.สธ.แห่งชาติ ตัดสินนโยบายทั้ง สธ. และ สปสช.

วันนี้ (6 ส.ค.) นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งให้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กลับมาปฏิบัติราชการที่ สธ. ตามเดิม ว่า ส่วนตัวเห็นว่าช่วงที่ นพ.ณรงค์ ไม่อยู่ งานของ สธ. เดินหน้าด้วยดี ความขัดแย้งกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ก็ดีขึ้น หาก นพ.ณรงค์ กลับมาแล้วปฏิบัติตามเงื่อนไข 3 ข้อได้ ก็ไม่น่ามีปัญหา แต่หลายฝ่ายลงความเห็นว่าไม่น่าจะทำได้ ส่วนที่ยื่นให้ รมว.สาธารณสุข ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง นพ.ณรงค์ มีพฤติกรรมส่อผิดวินัยข้าราชการนั้น เบื้องต้นทราบว่าผลสอบเสร็จแล้ว และมีมูลว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง โดยวันที่ 7 ส.ค. จะมาทวงถาม รมว.สาธารณสุข ว่า เมื่อผลสอบออกแล้วได้ดำเนินการสอบวินัยร้ายแรง นพ.ณรงค์ หรือยัง ซึ่งเรื่องนี้ต้องสอบโดยเร็ว เพราะเป็นยุค คสช. ที่ต้องการให้เรื่องปราบทุจริตเสร็จโดยเร็ว หากไม่ปฏิบัติก็จะมีความผิดด้วย นอกจากนี้ ชมรมฯ จะนำหลักฐานเพิ่มเติมไปมอบให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย

“ผลสอบมีมูลความผิดชัดเจนว่าผิดวินัยร้ายแรง เนื่องจากรับเงินค่ารถแล้ว แต่ยังใช้รถหลวงในลักษณะที่จงใจ เพราะว่ามีหลักฐาน เช่น รถที่ซื้อมาใหม่มีการดัดแปลงทำเบาะกว้างขึ้น ทำที่ใส่ถุงกอล์ฟและเสื้อผ้าด้านหลังรถ ทั้งนี้ เรื่องนี้ รมว.สาธารณสุข ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และเราก็อยากให้มีความชัดเจนเร็ว ๆ เพราะหวั่นว่าจะมีการข่มขู่พยานและมีการทำลายหลักฐานมากขึ้น และมีคนออกมาพูดว่ามีหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว

นพ.ณรงค์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ตนไม่ทราบ และไม่ขอออกความเห็น ขณะนี้ยึดงานเป็นหลัก เนื่องจากจะเกษียณใน ก.ย. นี้แล้ว เหลือเวลาไม่ถึง 2 เดือน จึงอยากทำงานโดยก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยจากการประชุมผู้บริหาร สธ. เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ก็ชัดเจนว่าต้องเดินหน้าทำงาน ทั้งเรื่องแผนเงินบำรุง แผนการซื้อยาและเวชภัณฑ์ และแผนกำลังคน สิ่งสำคัญต้องมาพิจารณาถึงงบขาลง ไปยังโรงพยาบาลในปีงบประมาณ 2559 ว่า จะจัดสรรอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งก็น่าจะเป็นไปตามมติบอร์ด สปสช. เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2558 แต่ก็ไม่ทราบว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร มีการเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง ก็คงต้องไปคุยกัน แต่เน้นการจัดสรรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการดำเนินคดีฟ้องร้องกลับชมรมแพทย์ชนบทหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีการตั้งทนายเพื่อถามหลักฐาน นพ.ณรงค์ ยิ้ม และกล่าวเพียงว่า ตนดูงานเป็นหลักเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงที่ผ่านมามีเสียงสะท้อนจากหมออนามัยว่าไม่ได้รับการดูแล นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการพูดคุยมานานแล้ว ถึงการพัฒนาทศวรรษหมออนามัยให้ดียิ่งขึ้น และครั้งนี้ก็จะมีการประสานการทำงานทั้งหมออนามัย และทีมหมอครอบครัว เพราะเป็นจุดเชื่อมโยงกัน ต้องมาพูดคุยกันให้การทำงานเดินหน้าได้

เมื่อถามว่าเป็นครั้งแรกหรือไม่ที่จะพัฒนาหมออนามัยควบคู่กับนโยบายรัฐมนตรี สธ. เรื่องทีมหมอครอบครัว นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ทั้งหมดทำมาตลอด ตอนนี้ก็ทำต่อไป พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และดูแลหมออนามัย ในเรื่องกำลังคน รวมถึงนักวิชาการต้องเพียงพอด้วย

ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานกรรมมาธิการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาปัญหาใน สธ. เกิดขึ้น เพราะมีคนเห็นต่างกัน แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คนไม่เห็นด้วยกับแพทย์ชนบทก็มี และนับวันปัญหาก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น เชื่อว่า หากยังไม่แก้ปัญหาที่โครงสร้างของกระทรวง ความขัดแย้งก็จะไม่หมดไป ดังนั้น จึงไม่ใช่ว่าเป็น นพ.ณรงค์ หรือ นพ.วินัย มาทำงานแล้วเกิดปัญหา แต่ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้บริหารก็ยังต้องเจอปัญหา การเปลี่ยนคนจึงไม่ได้ช่วยยุติปัญหา แต่ต้องแก้ที่ระบบ ซึ่งการปฏิรูปในระดับนโยบาย กมธ.สธ. ได้นำเสนอไปแล้วว่าควรมีคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อให้เป็นหน่วยงานที่ตัดสินนโยบายทั้ง สธ. และ สปสช. ซึ่งเสนอผ่านคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญไปแล้ว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่