จากกรณี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เสนอคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีและการจัดสรรเงินจากผู้เสียภาษีอากร ไม่ให้หน่วยงานใดจัดเก็บและนำเงินไปใช้ได้ ซึ่งจะกระทบต่อ 3 องค์กรที่ได้รับการจัดสรรเงินผ่านระบบการเก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ (Earmarked Tax) คือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) และองค์กรสนับสนุนการกีฬาฯ
ทั้งนี้ หากยกเลิกระบบ Earmarked Tax ไป ผู้ที่จะได้รับประโยชน์เต็ม ๆ คือ ธุรกิจบุหรี่ข้ามชาติและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการจ่ายภาษี Earmarked Tax ให้ สสส. 2% ไทยพีบีเอส 1.5% แต่ไม่เกิน 2,000 ล้านบาทต่อปี และกองทุนพัฒนากีฬาฯ เป็นการเก็บเพิ่มจากการเสียภาษีปกติ 100% เต็มให้กับกระทรวงการคลัง ซึ่งหากยกเลิกภาษีบาปเงินที่จ่ายเพิ่มเติมจาก 100% ก็จะกลับไปสู่ธุรกิจบุหรี่และแอลกอฮอล์ เป็นการยกผลประโยชน์ให้กว่า 10,000 ล้านบาท