xs
xsm
sm
md
lg

ป่วยฉี่หนูตายแล้ว 10 ราย ห่วงช่วงฝนตกสุดเสี่ยง อีสาน-ใต้ ป่วยพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สธ. เผยโรคฉี่หนูทำคนตายแล้ว 10 ราย พบมากสุดที่ภาคใต้ และอีสาน เตือนฤดูฝนยิ่งน่าห่วง ย้ำมีไข้สูง ปวดกล้ามเนื้อมากโดยเฉพาะโคนขา ให้รีบพบแพทย์ แจ้งประวัติลุยน้ำ ชี้ รักษาช้ารุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

นพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และรักษาการปลัด สธ. กล่าวว่า โรคที่เป็นห่วงและพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน ก็คือ โรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซีส ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 17 ก.ค. 2558 มีผู้ป่วยโรคฉี่หนูใน 55 จังหวัด รวม 662 ราย เสียชีวิต 10 ราย จังหวัดที่มีอัตราผู้ป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด ได้แก่ ระนอง ศรีสะเกษ พังงา นครศรีธรรมราช กาฬสินธุ์ พบผู้ป่วยโรคนี้มากที่สุดในกลุ่มเกษตรกรเกือบร้อยละ 60 รองลงมาคืออาชีพรับจ้าง และนักเรียน ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 44 - 64 ปี อายุต่ำสุดที่พบติดเชื้อ คือ 1 ขวบ สำหรับอาการป่วยของโรคฉี่หนูที่เป็นลักษณะเฉพาะ คือ มีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ตาแดงทั้ง 2 ข้าง ปวดกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะที่น่อง โคนขาทั้ง 2 ข้าง อาการดังกล่าวบางครั้งประชาชนอาจชะล่าใจ คิดว่าเป็นไข้ทั่วไป หรือปวดเมื่อยจากการขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ หากมีอาการป่วยและไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ขอให้รีบพบแพทย์ และแจ้งประวัติการลุยน้ำย่ำโคลนด้วยทุกครั้ง เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว หากไปรับการรักษาล่าช้า อาจทำให้เชื้อลุกลามทำลายอวัยวะภายใน เช่น ไต ปอด อาการจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า การป้องกันโรคดังกล่าว ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะแอ่งน้ำขังเล็ก ๆ เนื่องจากปริมาณเชื้อฉี่หนูจะมีความเข้มข้นสูง รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเดินย่ำโคลน พื้นดินชื้นแฉะ หากมีความจำเป็นต้องเดินลุย ควรสวมรองเท้าบูตยางป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำหรือดิน รวมทั้งป้องกันสิ่งของมีคมทิ่มแทง และให้รีบชำระล้างทำความสะอาดหลังเดินย่ำน้ำย่ำโคลนแล้ว ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครองดูแลเด็กเล็กใกล้ชิด เนื่องจากเด็กยังไม่รู้จักวิธีการป้องกันตัวเอง และดูแลบ้านให้สะอาด กำจัดขยะและเศษอาหารให้ถูกวิธี โดยใส่ในถุงพลาสติกหรือในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิดเพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหรือเป็นแหล่งอาหารของหนู

“โรคฉี่หนู เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในไตของหนูทุกชนิด เชื้อจะออกมากับฉี่ปนเปื้อนอยู่ในดินโคลน ชื้นแฉะ หรืออยู่ในแอ่งน้ำขังเล็ก ๆ มีชีวิตได้นานหลายวัน มีโอกาสติดต่อมาสู่คนได้ โดยไชเข้าทางบาดแผล หรือรอยถลอก รวมทั้งผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน จึงขอย้ำเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขัง หรือมีน้ำป่าไหลหลาก ขอให้หลีกเลี่ยงเดินลุยน้ำย่ำโคลน โดยเฉพาะผู้ที่มีบาดแผลหรือมีรอยถลอกที่บริเวณเท้าและขา ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้การป้องกันโรคแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โรคนี้มียารักษาหายขาด” อธิบดี คร. กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น