xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นประกาศโซนนิงห้ามขายเหล้าอาจไม่คลอด เผยคำสั่ง คสช.เข้มข้นกว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เครือข่ายเหล้าขอบคุณนายกฯ ใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งเสริม คุมเข้ม เพิ่มจากประกาศห้ามขายเหล้ารอบสถานศึกษา 300 เมตร แต่ห่วงช่วงยังไม่บังคับใช้ เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจต่างกัน หวั่นนายกฯ ลงนามแล้ว แต่ประกาศอาจไม่คลอด

นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจแอลกอฮอล์ กล่าวว่า คำสั่ง คสช. ฉบับที่ 22/2558 เป็นการประมวลกฎหมายเดิมที่มีอยู่ แต่เน้นการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น แต่ที่กังวลคือ ข้อ 6 ที่ระบุกว้าง ๆ ว่า ห้ามมิให้สถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หรือหอพักในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หากฝ่าฝืนให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องสั่งเพิกถอนใบอนุญาต หรือสั่งปิดสถานประกอบการ และห้ามไม่ให้เปิดบริการอีก คือ ไม่ได้ระบุว่าห้ามร้านเหล้าขายรอบสถานศึกษาในรัศมีเท่าไร และไม่ได้กำหนดว่าเป็นสถานศึกษาระดับใดได้ ดังนั้น หากพูดกว้างจะรวมไปถึงศูนย์เด็กเล็ก อนุบาล ได้ทั้งหมด ซึ่งหากมีรายละเอียดในการบังคับใช้ก็จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานได้สะดวกมากขึ้น

“แม้ล่าสุดนายกฯ จะลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ห้ามร้านค้าขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ หรือรอบสถานศึกษาระยะ 300 เมตร เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2558 แต่ตามขั้นตอนต้องรออีก 30 วันนับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น ประกาศดังกล่าวยังใช้ไม่ได้ และเมื่อมีคำสั่งของคสช. ออกมาคู่ขนาน อาจทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานสับสน ว่า จะมีการตรวจจับร้านค้าที่ฝ่าฝืนขายเหล้าตามข้อต่าง ๆ อย่างไร เพราะเจ้าหน้าที่อาจใช้ดุลพินิจไม่เหมือนกัน บางคนอาจตรวจจับในรัศมี 300 เมตร แต่บางคนอาจตรวจจับในรัศมี 50 - 100 เมตร ก็มี” นายคำรณ กล่าวและว่า อยากให้มีความชัดเจน ทั้งนี้ จะมีการประชุมกับในเครือข่ายว่า ระหว่างที่ยังไม่ประกาศใช้โซนนิงห้ามขายเหล้ารอบสถานศึกษา จะมีมาตรการอะไรที่จะอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้บ้าง เพราะล่าสุดมีกระแสข่าวว่า แม้นายกฯจะลงนามแล้ว แต่อาจไม่สามารถประกาศใช้โซนนิงห้ามขายเหล้าฯ ได้ง่าย ๆ ซึ่งทำให้หวาดหวั่นเหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯลงนามในประกาศแล้ว มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการทบทวนประกาศอีก นายคำรณ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ จึงอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องยืนยันเรื่องนี้ให้ชัดเจน นอกจากนี้ ในเร็ว ๆ นี้ ทางเครือข่ายอาจขอเข้าพบกับทาง รมว.สาธารณสุข รมว.ศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือถึงแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผอ.สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า ประกาศฉบับนี้ ตามมาตรา 44 เป็นคำสั่งเสริมตามกรณีห้ามขายเหล้ารอบสถานศึกษา 300 เมตร ซึ่งผ่านคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ซึ่งนายกฯ ก็ได้ลงนามแล้ว ว่าตรงจุดไหนห้ามขายและหากทำผิดก็จะใช้มาตรา 44 ในการควบคุมอย่างเคร่งครัด เป็นต้น ซึ่งต้องขอขอบคุณนายกฯ ที่เป็นห่วงประชาชนจริง ๆ ที่ประกาศมาแล้วกลัวไม่มีใครปฏิบัติจึงออกมาตรา 44 มากำชับ ซึ่งขณะนี้ในเรื่องประกาศห้ามขายเหล้ารอบสถานศึกษา 300 เมตร ก็เหลือเพียงรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น ซึ่งต่อไปเครือข่ายภาคประชาชนก็จะช่วยกันเฝ้าระวัง และจากการหารือกันหลายฝ่าย โดยเฉพาะกรมสรรพสามิตที่ต่อไปกรมสรรพสามิตจะไม่ออกใบอนุญาตให้กับร้านเหล้าในเขต 300 เมตร รอบสถานศึกษา ซึ่งหากร้านเหล้าฝืนเปิดโดยไม่มีใบอนุญาตก็จะผิดอยู่แล้ว และยิ่งมีมาตรา 44 มากำชับก็ยิ่งเข้มงวดขึ้นและได้ผลดีขึ้น

นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า คำสั่งของ คสช.ที่ไม่ได้กำหนดรัศมีจากรอบสถานศึกษานั้น เป็นการมอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องใช้ "ดุลพินิจ" โดยจะมีการปรึกษาหารือกันในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ สธ. กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจริงๆ แล้วคำสั่งคสช. เป็นการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น ถือว่าดีในทางปฏิบัติมาก เพราะเป็นกฎหมายที่อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ จึงมีศักดิ์ของกฎหมายสูงกว่าประกาศสำนักนายกฯ ห้ามขายเหล้ารอบสถานศึกษา 300 เมตร ซึ่งครอบคลุมแค่สถาบันอุดมศึกษาและอาชีวศึกษา แต่คำสั่ง คสช.ครอบคลุมระดับการศึกษาทุกระดับไม่มีข้อยกเว้น จึงต้องใช้ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. เป็นหลัก แต่ข้อดีของประกาศสำนักนายกฯคือ ไม่ต้องใช้ดุลพินิจโดยอิสระ เพราะมีข้อจำกัดการใช้ขอบเขตการควบคุมชัดเจนกว่า ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการก็จะทราบว่าขอบเขตของการห้ามชัดเจนว่าระยะไหนขายได้หรือไม่ได้

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น