“สมยศ” ระบุคำสั่ง คสช.แก้ปัญหาเด็กแว้น-ควบคุมสถานบันเทิง ทำให้ตำรวจทำงานได้ง่ายขึ้นและเป็นไปอย่างเคร่งครัด
วันนี้ (24 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งมาตรา 44 แก้ปัญหาเด็กแว้น พร้อมควบคุมสถานบริการห้ามจำหน่ายสุราใกล้สถานศึกษาและหอพักว่า ได้สั่งการให้ทางสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ (สยศ.) ออกคำสั่งแจ้งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามคำสั่งของ คสช. เพื่อให้การควบคุมเป็นไปอย่างเคร่งครัด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นปัญหาและเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อน เรื่องศีลธรรมที่ไม่เหมาะสมของนักศึกษาที่เข้าไปใช้สถานที่ดังกล่าว ถือว่าทาง คสช.ได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม แก้ปัญหาการมั่วสุมของนักศึกษาที่เป็นอนาคตของประเทศชาติ จะได้ไม่เป็นแหล่งมั่วสุม ค้าแอลกอฮอล์ หรือแม้กระทั่งนำไปสู่การจำหน่ายยาเสพติด ถ้าอยู่ภายใต้คำสั่ง คสช. ทุกร้านต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน ไม่ว่าเป็นร้านอะไรก็แล้วแต่ เช่น ห้ามจำหน่ายสุราในวัด สถานที่ศึกษา สถานที่ราชการ ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อในสถานที่เหล่านั้นก็ไม่สามารถจำหน่ายได้
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ส่วนระยะห่างของสถานศึกษาเป็นไปตามกฎหมาย แต่ต้องอยู่ในดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐว่าขนาดไหนถึงจะเหมาะสม ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เพราะฉะนั้นสถานที่เหล่านี้เมื่อเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ของสังคม ผู้ที่ประกอบธุรกิจก็ตระหนักและต้องปรับตัว ถ้าเห็นว่าเป็นสิ่งไม่ดี สังคมไม่ยอมรับ ก็ควรปฏิบัติตัวตามกฎหมาย ตำรวจและเจ้าหน้าของรัฐหน่วยอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ในอดีตที่ผ่านมาตำรวจได้ดำเนินการมาโดยตลอด แต่มีหลายหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กรมสรรพสามิตที่ออกใบอนุญาตจำหน่ายสุรา หรือสำนักงานกรุงเทพมหานคร ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อไปทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน วันนี้ชัดเจนจากคำสั่ง คสช.ว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ จะต้องไปศึกษาและทำความเข้าใจกับคำสั่ง คสช.ฉบับนี้ให้ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะคำสั่ง คสช.เป็นกฎหมาย เป็นหน้าที่ของประชาชนต้องปฏิบัติตาม เรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งพูดแต่เป็นเรื่องที่พูดกันมาหลายปีแล้ว จะมาบอกว่าไม่เข้าใจกฎหมาย แล้วก็ไม่ปฏิบัติตาม ไม่เป็นไร เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีหน้าที่จับก็จับไป สถานที่ใดถูกจับซ้ำสองแล้วสถานที่นั้นจะไม่สามารถใช้ประกอบธุรกิจนั้นได้อีก 5 ปี ก็คิดดูเองแล้วกัน ส่วนขั้นตอนการดูแลเด็กแว้นเป็นไปตาม คสช.ชัดเจน ลูกถูกจับครั้ง 1 พ่อแม่โดนเรียกมาเตือน ลูกถูกจับครั้งที่ 2 พ่อแม่โดนด้วย ร้านที่จำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถที่ส่อไปในทางส่งเสริมก็โดนด้วย คำสั่งนี้ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจง่ายขึ้น เป็นการป้องกันที่ต้นตอการรวมกลุ่มของรถที่ส่อหรือจะนำไปสู่การแข่งขัน ก็สามารถดำเนินการได้ เชื่อว่าคำสั่งนี้ครอบคลุม สามารถจำแนกได้ชัดเจนว่าควรจะดำเนินการอย่างไร พูดง่ายๆ คือไม่ต้องรอให้มีการเเข่ง