“สมยศ” เผยให้การบ้าน 5 รอง ผบ.ตร.จัดทำวิสัยทัศน์ ยันไม่มีสเปก ผบ.ตร.คนใหม่ แต่ต้องเป็นที่ยอมรับ มีผลงานประจักษ์ทำงานกับรัฐบาลได้
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีหนังสือสั่งการถึงรอง ผบ.ตร.ทั้ง 5 คน เพื่อเสนอวิสัยทัศน์ประกอบการพิจารณาคัดเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ว่า เมื่อวานที่ผ่านมาตนได้ทำหนังสือเวียนถึงรอง ผบ.ตร.5 คนที่อยู่ในข่ายและสามารถได้รับการพิจารณาให้เป็น ผบ.ตร.เพื่อให้ทำวิสัยทัศน์เสนอถึงตนภายในวันที่ 1 ส.ค. 2558 โดยรูปแบบในการนำเสนอก็แล้วแต่ละท่านที่จะคิดว่าอะไรที่ทำให้เกิดคุณประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน เพื่อนข้าราชการตำรวจ และกับองค์กรตำรวจ ก็เป็นสิ่งที่ดี ตนเชื่อว่าทุกคนมีความรู้ความสามารถและมีความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี คงทำมาได้ตรงเป้าหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวได้คาดหวังหรือไม่ว่า ผบ.ตร.คนใหม่จะต้องมีทิศทางและนำพาองค์กร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ก็คาดหวังว่า ผบ.ตร.ที่จะมารับช่วงต่อจากตน คงจะมีสิ่งดีๆ ให้แก่พี่น้องประชาชน เพื่อนข้าราชการตำรวจ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เมื่อถามว่าตอนนี้มีสเปกใครในใจ ผบ.ตร.กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะยังไม่ได้อ่านวิสัยทัศน์ ต้องรอดูวิสัยทัศน์ก่อน พยายามรวบร่วมหรือดูผลงานของแต่ละคนในอดีตว่าใครได้เคยทำอะไรไว้บ้าง และอาจจะมีการพูดคุยกับเพื่อนข้าราชการตำรวจ แต่พูดในมุมกว้างไม่ได้เน้นลงไปว่าคนนี้เหมาะหรือไม่ คือจะไม่มีคำถามแบบนี้กับเพื่อนข้าราชการตำรวจ หรือรอง ผบ.ตร. หรือใครก็แล้วแต่เด็ดขาด เพราะว่ามันเป็นการทำให้มีการนำข้อมูลด้านอื่นๆ มาประกอบ
เมื่อถามต่อว่าจำเป็นต้องเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากกองทัพด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ในส่วนนี้ตนมองว่าคงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะว่าใครก็แล้วแต่ที่ทำงานให้พี่น้องประชาชน เพื่อนข้าราชการตำรวจ และที่สำคัญคือสามารถทำงานร่วมกับรัฐบาลได้
ส่วนเรื่องความโดดเด่นผลงานของ รอง ผบ.ตร.5 ท่านจะพิจารณาส่วนไหนเป็นหลักนั้น พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ต้องดูเรื่องความเหมาะสม และก็การเป็นที่ยอมรับ และที่สำคัญคือต้องมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในอดีต และก็ต้องสามารถทำงานร่วมกับรัฐบาลได้ ถามต่อว่าต้องมีการคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ก็มีการหารือบ้าง เพราะพล.อ.ประวิตรเป็นผู้บังคับบัญชา และเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) แต่ท่านคงไม่ลงมาชี้แนะหรือไม่ลงมากำหนดกะเกณฑ์ว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะว่าตามกฎหมายแล้วเป็นหน้าที่ของ ผบ.ตร.ที่จะนำเสนอชื่อผู้ที่ได้รับสมควรแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร.คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช.
ทั้งนี้ คสช.มีการคุยกันหรือไม่ว่า ผบ.ตร.คนต่อไปจะต้องเป็นหนึ่งใน คสช. พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังไม่เคยมีใครคุย ถามต่อว่าความอาวุโสจำเป็นไหมในการพิจารณา ผบ.ตร.กล่าวว่า พิจารณาทุกด้าน ทั้งเรื่องอาวุโส เรื่องความรู้ความสามารถ ความเหมาะสม ความเป็นที่ยอมรับ และสามารถทำงานร่วมกับคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่วมกับรัฐบาลได้ ถามต่อว่าให้ความสำคัญกับการจบนักเรียนเตรียมทหารด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ไม่ใช่ประเด็น เพราะในอดีตที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาที่เป็น ผบ.ตร.หลายท่านก็ไม่ได้เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ
เมื่อถามว่าตรงนี้คาดว่าจะนำเข้าเสนอคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ได้ประมาณช่วงไหน พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนคิดว่าการแต่งตั้ง ผบ.ตร. คงจะเสร็จสิ้นก็กลางเดือนส.ค. คงไม่เกินวันที่ 20 ส.ค. หรือประมาณบวกลบประมาณนั้น เมื่อถามว่า ผบ.ตร.จะมีการเสนอชื่อ 1 คน 2 คน หรือทั้ง 5 คน ให้ ก.ต.ช.พิจารณาเห็นชอบ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า คงจะเสนอคนเดียว ถามต่อว่าตอนนี้มีกระแสข่าวเยอะแยะว่ามีการต่อรองกันว่าคนนี้จะเป็น 1 ปีก่อน พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินว่าใครต่อรองกับใครที่ไหนอย่างไร เรื่องแบบนี้มันต่อรองได้ที่ไหน “คนคำนวณไม่เท่าฟ้าลิขิต คนคิดไม่เท่าลิขิตฟ้า” คิดกันได้แต่มันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น