ASTVผู้จัดการรายวัน-ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบกลุ่มเรือประมงเถื่อนขัดขวางการทำประมงถูกกฎหมายออกหาปลาในทะเล ย้ำหากผิดต้องดำเนินคดี ลั่นต้องบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามที่ประชาคมโลกยอมรับ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มคนเรือประมงรวมตัวปิดอ่าวขัดขวางไม่ให้กลุ่มเรือประมงที่ถูกกฎหมายออกหาปลาในทะเลว่า หากมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือใช้อิทธิพลบังคับเรือประมงไม่ให้ออกจับปลาถือว่าไม่ถูกต้อง และถ้าตรวจสอบพบว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้ ตำรวจในพื้นที่ต้องดำเนินการ ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายการข่าวต้องติดตามหาข้อมูล ความชัดเจน พิสูจน์ทราบว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นใคร หากพบว่าการกระทำเข้าข่ายความผิดต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยต้องดูว่าสิ่งที่คนเหล่านั้นทำ ทำให้ใครเดือดร้อน หรือเกิดความเสียหายต่อภาพรวมหรือไม่ หรือทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบอย่างไรหรือไม่ ถ้าไปบังคับขู่เข็ญไม่ให้เรือประมงออกหาปลา แล้วเรือประมงเหล่านั้นมาร้องทุกข์กล่าวโทษ เป็นหน้าที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อมูลว่ากลุ่มที่ออกมาขัดขวางเป็นกลุ่มสมาคมเรือประมง ต้องมีการพูดคุยกับกลุ่มนี้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีจุดประสงค์เรื่องนี้ชัดเจนว่าต้องการทำให้ถูกกฎหมาย ให้เป็นไปตามที่ประชาคมโลกยอมรับ มีกติกาชัดเจน หากไม่ยอมรับตรงนี้ เราก็ไม่สามารถอยู่ในสังคมโลกกับเขาได้ หากฝืนอีกหน่อยธุรกิจการประมงและที่เกี่ยวเนื่องจะขายให้ประเทศอื่นไม่ได้ ถึงเวลานั้นความเดือดร้อนผู้ประกอบการประมงทั่วประเทศ การกระทำใดหากให้ผู้อื่นเดือดร้อนไม่ควรทำ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปรับตัว แรกๆ อาจอึดอัดกับกฎหมาย กฎระเบียบที่ออกมา แต่นี่คือกติกาของสังคมโลกยอมรับถือปฏิบัติกัน ไม่เช่นนั้นเราอยู่ร่วมกับเขาไม่ได้
"ผมว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ทำ ก็ต้องการทำให้สังคมชาวโลกเห็นว่าเรามีการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์หรือที่เกี่ยวข้อง เรามีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่หมักหมมมาเป็นระยะเวลายาวนานให้มีมาตรฐานเช่นประเทศเจริญแล้ว ผมว่าการบังคับใช้กฎหมายที่ทำอยู่ขณะนี้กำลังถูกต้องแล้ว เราต้องทำ” พล.ต.อ.สมยศกล่าว
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มคนเรือประมงรวมตัวปิดอ่าวขัดขวางไม่ให้กลุ่มเรือประมงที่ถูกกฎหมายออกหาปลาในทะเลว่า หากมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือใช้อิทธิพลบังคับเรือประมงไม่ให้ออกจับปลาถือว่าไม่ถูกต้อง และถ้าตรวจสอบพบว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้ ตำรวจในพื้นที่ต้องดำเนินการ ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายการข่าวต้องติดตามหาข้อมูล ความชัดเจน พิสูจน์ทราบว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นใคร หากพบว่าการกระทำเข้าข่ายความผิดต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยต้องดูว่าสิ่งที่คนเหล่านั้นทำ ทำให้ใครเดือดร้อน หรือเกิดความเสียหายต่อภาพรวมหรือไม่ หรือทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบอย่างไรหรือไม่ ถ้าไปบังคับขู่เข็ญไม่ให้เรือประมงออกหาปลา แล้วเรือประมงเหล่านั้นมาร้องทุกข์กล่าวโทษ เป็นหน้าที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อมูลว่ากลุ่มที่ออกมาขัดขวางเป็นกลุ่มสมาคมเรือประมง ต้องมีการพูดคุยกับกลุ่มนี้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีจุดประสงค์เรื่องนี้ชัดเจนว่าต้องการทำให้ถูกกฎหมาย ให้เป็นไปตามที่ประชาคมโลกยอมรับ มีกติกาชัดเจน หากไม่ยอมรับตรงนี้ เราก็ไม่สามารถอยู่ในสังคมโลกกับเขาได้ หากฝืนอีกหน่อยธุรกิจการประมงและที่เกี่ยวเนื่องจะขายให้ประเทศอื่นไม่ได้ ถึงเวลานั้นความเดือดร้อนผู้ประกอบการประมงทั่วประเทศ การกระทำใดหากให้ผู้อื่นเดือดร้อนไม่ควรทำ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปรับตัว แรกๆ อาจอึดอัดกับกฎหมาย กฎระเบียบที่ออกมา แต่นี่คือกติกาของสังคมโลกยอมรับถือปฏิบัติกัน ไม่เช่นนั้นเราอยู่ร่วมกับเขาไม่ได้
"ผมว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ทำ ก็ต้องการทำให้สังคมชาวโลกเห็นว่าเรามีการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์หรือที่เกี่ยวข้อง เรามีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่หมักหมมมาเป็นระยะเวลายาวนานให้มีมาตรฐานเช่นประเทศเจริญแล้ว ผมว่าการบังคับใช้กฎหมายที่ทำอยู่ขณะนี้กำลังถูกต้องแล้ว เราต้องทำ” พล.ต.อ.สมยศกล่าว