บอร์ด สปสช. เพิ่มสิทธิประโยชน์ยาราคาแพง บัญชี จ (2) อีก 4 รายการ ในโรคมะเร็งเต้มนม มะเร็งเม็ดเลือดขาว และตับอักเสบ เผย HITAP ประเมินมีความคุ้มค่า ช่วยยืดชีวิตผู้ป่วย ประหยัดงบประมาณจากการที่ไม่ต้องรักษาแบบประคับประคอง ด้านแพทย์มะเร็งชี้เป็นนิมิตร์หมายใหม่ เหตุเพิ่มยามุ่งเป้าตัวใหม่ แถมต่อรองได้ราคาถูกลง
ภญ.เนตรนภิส สุชนวนิช รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ปี 2558 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้อนุมัติเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านยาที่มีราคาสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงอีก 4 รายการ ซึ่งเป็นทั้งรายการยาใหม่ และรายการยาเดิมที่มีข้อบ่งใช้ โดยทั้ง 4 รายการเป็นยาในกลุ่มบัญชี จ (2) ซึ่งเป็นยาจำเป็นที่มีราคาสูงมาก มีผู้ป่วยจำนวนไม่มาก แต่มีปัญหาในการเข้าถึง มีความเหมาะสมในการใช้เพียงบางข้อบ่งใช้ มีแนวโน้มที่จะมีการใช้ยาไม่สมเหตุผล หากไม่มีระบบการจัดการเป็นพิเศษ และมีการกำกับดูแลการใช้ยาอย่างเข้มแข็ง ซึ่งจะส่งผลต่อภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และระบบหลักประกันสุขภาพได้ ซึ่งยาที่เพิ่มใหม่ 4 รายการ ได้แก่ 1. ยาทราสทูซูแมบ (Trastuzumab) เป็นยารักษามะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น 2. ยานิโลทินิบ (Nilotinib) รักษาผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดมัยอีลอยด์ กรณีที่ไม่สามารถใช้ยาอิมาทินิบ (Imatinib) ที่เป็นยารักษาพื้นฐานได้ 3. ยาดาซาทินิบ (Dasatinib) ใช้รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในรายที่ไม่สามารถใช้ยาอิมาทินิบและยานิโลทินิบได้ และ 4. ยาเพคอินเตอร์เฟอรอน (Peginterferon) ยารักษาไวรัสตับอักเสบซี ซึ่งอยู่ในสิทธิประโยชน์มาตั้งแต่ปี 2556 แต่บอร์ด สปสช. มีมติขยายข้อบ่งใช้เพิ่มขึ้น ในผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีร่วมด้วย และผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี สายพันธุ์ 1 หรือ 6
“ยาทั้ง 4 ตัวโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ประเมินว่า มีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ อย่างยาทราสทูซูแมบ ช่วยยืดชีวิตผู้ป่วยจาก 9.11 ปี เป็น 14.12 ปี โดยในปี 2558 ตั้งเป้าการเข้าถึงของผู้ป่วย 175 ราย งบประมาณ 80.90 ล้านบาท และในปี 2559 ตั้งเป้าการเข้าถึงผู้ป่วย 350 ราย งบประมาณ 162.80 ล้านบาท ขณะที่ยาเพคอินเตอร์เฟอรอนนั้น เมื่อใช้รักษาในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีร่วมด้วย เปรียบเทียบกับการรักษาแบบประคับประคองตามปกติ พบว่า ช่วยประหยัดงบประมาณภายใน 5 ปี ได้ถึง 317 ล้านบาท ส่วนกลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี สายพันธุ์ 1 หรือ 6 เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาแบบประคับประคอง ช่วยประหยัดงบประมาณภายใน 5 ปี ได้ถึง 678 ล้านบาท โดยประมาณค่ายาและค่าตรวจจะอยู่ที่ 88,904,400 ล้านบาท” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
พญ.สุดสวาท เลาหวินิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รพ.ราชวิถี กล่าวว่า ยาทราสทูซูแมบ เป็นยามุ่งเป้า Targeted therapy ตัวใหม่ ที่บอร์ด สปสช. เพิ่มสิทธิ ซึ่งถือว่าเป็นนิมิตร์หมายใหม่ที่ดีมาก เนื่องจากยานี้ เป็นยาในบัญชียา จ (2) ใช้ในมะเร็งเต้านมระยะแรกที่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองเป็นบวก และมี HER2 เป็นบวก ซึ่ง สปสช. ก็ได้ไปต่อรองราคายาลงมาได้ถูกลงจากราคาเดิมประมาณ 40% ถือได้ว่ามาตรฐานการรักษาผู้ป่วยมะเร็งของบ้านเราก็ก้าวขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับแต่ก่อนเราจะเห็นคนไข้มาหาแพทย์ในระยะท้ายๆ ระยะที่ 3 หรือ 4 ปัจจุบันสามารถรักษามะเร็งเต้านมระยะแรกที่มีต่อมน้ำเหลืองเป็นบวกได้ดีขึ้น
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่