รพ.สังกัด สธ.ทั่วประเทศเริ่มติดป้ายประกาศยันไม่มีการล้มบัตรทอง หลังบางกลุ่มสร้างข่าวลือทำประชาชนเข้าใจผิด หวั่นมารักษาแล้วเสียเงิน ยันให้บริการฟรีตามเดิม แค่ขอให้ สปสช.ปรับแนวทางการบริหาร จัดสรรเงินลง รพ.ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
วันนี้ (11 ก.ค.) นพ.ธานินทร์ สีวราภรณ์สกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) กล่าวว่า ขณะนี้มีคนบางกลุ่มพยายามสร้างข่าวว่าจะมีการล้มระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ส่งผลให้ประชาชนผู้มารับบริการหลายพื้นที่เข้าใจผิด และสอบถามทางโรงพยาบาลจำนวนมากว่า จากนี้ไปต้องเสียค่ารักษาพยาบาลหรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่มีการล้มระบบบัตรทอง โรงพยาบาลยังคงให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ล่าสุด โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศได้ทำป้ายโปสเตอร์ขนาดใหญ่ และป้ายประกาศติดตามจุดต่างๆ ของโรงพยาบาล เพื่อยืนยันว่า การบริการสุขภาพเป็นบริการพื้นฐานที่รัฐจะต้องจัดให้ประชาชน และถือเป็นสิทธิที่ทุกคนจะได้รับ ยืนยันว่าจะดูแลผู้ป่วยทุกคนอย่างเต็มความสามารถ
นพ.ธานินทร์กล่าวว่า การที่ประชาคมสาธารณสุขออกมาเรียกร้องการปรับการบริหารของ สปสช. ไม่ได้หมายความว่าจะล้มระบบบัตรทอง แต่ประชาคมฯ และรพ.ต่างๆ มองว่าที่ผ่านมาการบริหารของ สปสช. ก่อปัญหามาก ทั้งการจัดสรรเงินลงพื้นที่ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย อย่างงบเหมาจ่ายรายหัวที่ให้ รพ.ตามจำนวนประชากรในพื้นที่ อย่างปี 2558 สปสช.ได้งบรายหัว 2,895 บาทต่อคนต่อปี หรือประมาณ 1.4 แสนล้านบาทในการดูแลประชาชนสิทธิบัตรทอง 48 ล้านคน แต่งบดังกล่าวรวมเงินเดือนบุคลากรสาธารณสุขด้วยอีก 3.6 หมื่นล้านบาท ทำให้เมื่อหักเงินเดือนออกมา เงินที่ไปถึง รพ.ต่อหัวประชากรก็น้อยลง และยังจัดสรรเงินไปให้มูลนิธิ หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่รพ. อีกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท สุดท้าย รพ.ได้รับงบค่าหัวอยู่ที่พันกว่าบาท หรือรพ.ขนาดเล็กบางแห่งได้ประมาณ 70-100 บาท ทำให้ที่ผ่านมา รพ.ขนาดใหญ่ต้องดูแลกันเองในพื้นที่ด้วยการเกลี่ยงบช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ รพ.สังกัด สธ.ทั่วประเทศ เช่น รพ.พระนครศรีอยุธยา รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ รพ.พะเยา รพ.ระยอง รพ.สุรินทร์ ฯลฯ ได้ติดประกาศให้ประชาชนผู้มารับบริการเชื่อมั่นเช่นกัน โดยระบุว่า ข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับปัญหาของระบบหลักประกันสุขภภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยเฉพาะประเด็นการโยกย้ายเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งต่อมามีความพยายามจะขยายความว่า จะมีการยุบกองทุนบัตรทอง สิ่งต่างๆ เหล่านี้อาจสร้างความสับสนและกังวลใจแก่ท่าน ทางรพ.ขอให้ความมั่นใจแก่ทุกท่าน ว่าเราจะดูแลทุกท่านอย่างเต็มความสามารถ ให้สมกับที่เป็นข้าราชการของแผ่นดิน และเรามีความภูมิใจที่ได้ให้บริการแก่ท่าน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสุขและความอุ่นใจให้กับประชาชนตามแนวทางของรัฐบาล
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (11 ก.ค.) นพ.ธานินทร์ สีวราภรณ์สกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) กล่าวว่า ขณะนี้มีคนบางกลุ่มพยายามสร้างข่าวว่าจะมีการล้มระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ส่งผลให้ประชาชนผู้มารับบริการหลายพื้นที่เข้าใจผิด และสอบถามทางโรงพยาบาลจำนวนมากว่า จากนี้ไปต้องเสียค่ารักษาพยาบาลหรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่มีการล้มระบบบัตรทอง โรงพยาบาลยังคงให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ล่าสุด โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศได้ทำป้ายโปสเตอร์ขนาดใหญ่ และป้ายประกาศติดตามจุดต่างๆ ของโรงพยาบาล เพื่อยืนยันว่า การบริการสุขภาพเป็นบริการพื้นฐานที่รัฐจะต้องจัดให้ประชาชน และถือเป็นสิทธิที่ทุกคนจะได้รับ ยืนยันว่าจะดูแลผู้ป่วยทุกคนอย่างเต็มความสามารถ
นพ.ธานินทร์กล่าวว่า การที่ประชาคมสาธารณสุขออกมาเรียกร้องการปรับการบริหารของ สปสช. ไม่ได้หมายความว่าจะล้มระบบบัตรทอง แต่ประชาคมฯ และรพ.ต่างๆ มองว่าที่ผ่านมาการบริหารของ สปสช. ก่อปัญหามาก ทั้งการจัดสรรเงินลงพื้นที่ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย อย่างงบเหมาจ่ายรายหัวที่ให้ รพ.ตามจำนวนประชากรในพื้นที่ อย่างปี 2558 สปสช.ได้งบรายหัว 2,895 บาทต่อคนต่อปี หรือประมาณ 1.4 แสนล้านบาทในการดูแลประชาชนสิทธิบัตรทอง 48 ล้านคน แต่งบดังกล่าวรวมเงินเดือนบุคลากรสาธารณสุขด้วยอีก 3.6 หมื่นล้านบาท ทำให้เมื่อหักเงินเดือนออกมา เงินที่ไปถึง รพ.ต่อหัวประชากรก็น้อยลง และยังจัดสรรเงินไปให้มูลนิธิ หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่รพ. อีกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท สุดท้าย รพ.ได้รับงบค่าหัวอยู่ที่พันกว่าบาท หรือรพ.ขนาดเล็กบางแห่งได้ประมาณ 70-100 บาท ทำให้ที่ผ่านมา รพ.ขนาดใหญ่ต้องดูแลกันเองในพื้นที่ด้วยการเกลี่ยงบช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ รพ.สังกัด สธ.ทั่วประเทศ เช่น รพ.พระนครศรีอยุธยา รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ รพ.พะเยา รพ.ระยอง รพ.สุรินทร์ ฯลฯ ได้ติดประกาศให้ประชาชนผู้มารับบริการเชื่อมั่นเช่นกัน โดยระบุว่า ข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับปัญหาของระบบหลักประกันสุขภภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยเฉพาะประเด็นการโยกย้ายเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งต่อมามีความพยายามจะขยายความว่า จะมีการยุบกองทุนบัตรทอง สิ่งต่างๆ เหล่านี้อาจสร้างความสับสนและกังวลใจแก่ท่าน ทางรพ.ขอให้ความมั่นใจแก่ทุกท่าน ว่าเราจะดูแลทุกท่านอย่างเต็มความสามารถ ให้สมกับที่เป็นข้าราชการของแผ่นดิน และเรามีความภูมิใจที่ได้ให้บริการแก่ท่าน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสุขและความอุ่นใจให้กับประชาชนตามแนวทางของรัฐบาล
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
