xs
xsm
sm
md
lg

ทีดีอาร์ไอแจงงานวิจัยไม่เคยพูด “บัตรทอง” ตายสูงกว่า ขรก.ไม่หมกเม็ดผลวิจัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ทีดีอาร์ไอแจงอีกรอบ ย้ำ งานวิจัยไม่เคยพูดผู้ป่วยบัตรทองตายสูงกว่าข้าราชการ ติง “อานนท์ - อภิวัฒน์” ใช้ความเห็นส่วนตัว ยันไม่เคยหมกเม็ดผลการวิจัย และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ตีความตรงไปตรงมาไม่เอาใจผู้ว่าจ้าง

จากกรณี ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้า) และ ศ.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้นำผลการวิจัยเรื่อง ผลลัพธ์ทางสุขภาพและความเป็นธรรมทางสุขภาพ ซึ่งจัดทำโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ซึ่งพบว่า ผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไป ในสิทธิบัตรทองมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไปในสิทธิข้าราชการ และมีการตั้งคำถามว่าทีดีอาร์ไอมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะมีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นผู้สนับสนุนในการทำวิจัย

นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ หนึ่งในผู้วิจัยเรื่องดังกล่าวของทีดีอาร์ไอ ได้เขียนบทความชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง มีเนื้อหาโดยสรุปว่า ทีดีอาร์ไอขอชี้แจงใน 3 ประเด็นข้อกล่าวหา คือ 1. ทีดีอาร์ไอไม่เปิดเผยผลการศึกษาหรือเปิดเผยผลการศึกษาล่าช้า ซึ่งที่จริงแล้วมีการเปิดให้ดาวน์โหลดในเว็บไซต์ทีดีอาร์ไอตั้งแต่ มี.ค. 2558 และส่งให้ห้องสมุด 15 แห่ง รวมถึงห้องสมุดของนิด้า ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ ดร.อานนท์ ก็มีการทำหนังสือตอบรับว่าได้รับรายงานดังกล่าวแล้ว การเปิดเผยผลการศึกษาต่อสาธารณะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติขององค์กร ให้ประชาชนตรวจสอบได้ สวนข้อมูลดิบงานวิจัยที่เรียกร้องให้ทีดีอาร์ไอเปิดเผย เนื่องจากทีดีอาร์ไอไม่ใช่เจ้าของข้อมูลจึงไม่มีสิทธิในการเปิดเผย ผู้สนใจจึงควรขอจากหน่วยงานเจ้าของข้อมูล คือ สปสช. กรมบัญชีกลางและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

2. ห้ามอ้างอิงหรือวิจารณ์งานของทีดีอาร์ไอ เนื่องจากทีดีอาร์ไอไม่ให้ตีความว่าผู้ป่วยบัตรทองไม่ได้ตายมากผิดปกติ เพราะผิดวัตถุประสงค์หลักของการวิจัย ข้อเท็จจริงคือ ไม่มีนักวิชาการใดในทีดีอาร์ไอที่ห้ามผู้อื่นวิจารณ์หรืออ้างอิงงานของตน มีแต่บอกว่า การสรุปผลการศึกษาวิจัยควรพิจารณาตามหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เป็นอยู่อย่างตรงไปตรงมา ไม่พึงคาดเดาเกินกว่าที่ข้อมูลสามารถอธิบายได้ อย่างที่ระบุว่า ทีดีอาร์ไอได้รายงานอัตราการตายของผู้ป่วยที่ใช้สิทธิบัตรทองสูงผิดปกติ ก็ไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีที่ใดในรายงานที่ชี้ว่า อัตราการตายของผู้ป่วยที่ใช้สิทธิบัตรทอง “สูงผิดปกติ” จึงไม่ควรเอาความคิดเห็นตนเองไปอ้างเสมือนเป็นผลงานวิจัย หากเป็นการกระทำโดยเจตนา น่าจะถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์ทางวิชาการ และไม่มีจริยธรรม

3. ทีดีอาร์ไอมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก สปสช. ข้อเท็จจริงคือ หน้าปกรายงานก็ปรากฏชัดเจนว่ารับทุนจาก สปสช. และมูลนิธิร็อคกีเฟลเลอร์ ส่วน นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการทีดีอาร์ไอ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการ สปสช. ก็ไม่ได้อยู่ในคณะผู้วิจัย และไม่มีหน้าที่และไม่อยู่ในฐานะใดๆ ที่จะสั่งให้ สปสช. ให้เงินสนับสนุนแก่ทีดีอาร์ไอ ที่สำคัญการการตีความข้อมูลต้องทำอย่างตรงไปตรงมา โดยปราศจากอคติ ไม่เกี่ยวกับว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง การที่ทีดีอาร์ไอได้รับความเชื่อถือจากสังคม เพราะนักวิจัยมีความตรงไปตรงมา ไม่ต้องเอาใจหน่วยงานผู้ว่าจ้าง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดขึ้นได้เพราะไม่มีหน่วยงานใดที่ครอบงำการให้ทุนทีดีอาร์ไอ เนื่องจากทีดีอาร์ไอมีนโยบายกระจายการรับทุนวิจัยจากหน่วยงานจำนวนมาก และไม่มีนโยบายการตั้งเป้าเพิ่มรายได้ เนื่องจากเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ทีดีอาร์ไอจึงเป็นฝ่ายเลือกหน่วยงานผู้ว่าจ้าง ไม่น้อยกว่าที่ผู้ว่าจ้างเป็นฝ่ายเลือกทีดีอาร์ไอ

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น