ศธ. เปิดตัวระบบ DLIT พัฒนาการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยยอดจากการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ตั้งเป้าพัฒนาสู่ ร.ร. ขนาดกลางและ ขนาดใหญ่ 15,553 โรง มั่นใจช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาได้
วันนี้ (11 มิ.ย.) พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แถลงข่าวการเปิดระบบการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ Distance Learning Information Technology (DLIT) ว่า ตามที่รัฐบาลมีมติให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ขยายผลโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม Distance Learning Television : DLTV จากโรงเรียนวังไกลกังวล ไปยังโรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศ จำนวน 15,369 โรง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษาจนประสบความสำเร็จ ทั้งช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนครู ครูสอนไม่ครบชั้น และขาดแคลนครูในสาขาวิชาหลัก ทำให้นักเรียนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และเรียนกับครูที่สอนตรงวิชาเอก ทั้งนี้ ศธ. จึงมีความต้องการให้การดำเนินการดังกล่าวประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น จึงจัดทำโครงการการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยี หรือ Distance Learning Information Technology (DLIT) ขึ้น เพื่อเป็นการต่อยอดโครงการการศึกษาทางไกล โดยนำไปใช้ในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่อีก ประมาณ 15,553 โรง ครอบคลุมโรงเรียนสังกัด สพฐ. ทั่วประเทศ โดย สพฐ. จะจัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนนำไปซื้ออุปกรณ์
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า สำหรับระบบ DLIT จะเป็นระบบเครื่องมือที่มีเนื้อหาและเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างครบวงจรครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาหลัก ประกอบด้วย 5 รูปแบบ คือ 1. ห้องเรียน DLIT เป็นการถ่ายทอดการจัดการเรียนรู้หัวข้อเรื่องที่ยากของ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้จากครูต้นแบบของโรงเรียนชั้นนำ อาทิ เตรียมอุดมศึกษา สามเสนวิทยาลัย ราชวินิต สวนกุหลาบ ฯลฯ ไปยังห้องเรียนปลายทางตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 6, 2. คลังสื่อการสอน เป็นสื่อการสอนที่ทำให้เด็กเรียนรู้อย่างสนุกและเข้าใจบทเรียนมากขึ้น ซึ่งจะครอบคลุมใน 5 กลุ่มสาระฯ 3. ห้องสมุดดิจิตอล เป็นคลังข้อมูลสำหรับการค้นคว้าเนื้อหานอกห้องเรียน 4. การพัฒนาวิชาชีพครู เป็นสื่อวิดีทัศน์ให้ครูเห็นรูปแบบตัวอย่างการสอนของครูเก่ง และ 5. คลังข้อสอบ รวบรวมข้อสอบหลากหลายตั้งแต่ชั้น ป.1 - ม.6 เพื่อใช้ประเมินตนเองตลอดภาคเรียน
ทั้งนี้ ในภาคเรียนที่ 1/2558 จะมีโรงเรียนต้นแบบ 65 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมดำเนินการภายใต้ระบบ DLIT สามารถรับชมได้ทางออนไลน์ที่ www.dlit.ac.th ขณะเดียวกัน แม้จะเป็นระบบออฟไลน์โรงเรียนก็สามารถนำไปใช่ในการเรียนการสอนได้ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นว่า ระบบดังกล่าวที่นำมาใช้จะช่วยสร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เกิดการเปลี่ยนแปลงการสอนของครูทั่วประเทศ และนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษา และนำไปสู่เป้าหมายการปฏิรูปการศึกษาที่ต้องการให้การปฏิรูปเกิดจากในห้องเรียนได้อย่างแท้จริง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (11 มิ.ย.) พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แถลงข่าวการเปิดระบบการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ Distance Learning Information Technology (DLIT) ว่า ตามที่รัฐบาลมีมติให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ขยายผลโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม Distance Learning Television : DLTV จากโรงเรียนวังไกลกังวล ไปยังโรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศ จำนวน 15,369 โรง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษาจนประสบความสำเร็จ ทั้งช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนครู ครูสอนไม่ครบชั้น และขาดแคลนครูในสาขาวิชาหลัก ทำให้นักเรียนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และเรียนกับครูที่สอนตรงวิชาเอก ทั้งนี้ ศธ. จึงมีความต้องการให้การดำเนินการดังกล่าวประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น จึงจัดทำโครงการการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยี หรือ Distance Learning Information Technology (DLIT) ขึ้น เพื่อเป็นการต่อยอดโครงการการศึกษาทางไกล โดยนำไปใช้ในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่อีก ประมาณ 15,553 โรง ครอบคลุมโรงเรียนสังกัด สพฐ. ทั่วประเทศ โดย สพฐ. จะจัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนนำไปซื้ออุปกรณ์
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า สำหรับระบบ DLIT จะเป็นระบบเครื่องมือที่มีเนื้อหาและเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างครบวงจรครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาหลัก ประกอบด้วย 5 รูปแบบ คือ 1. ห้องเรียน DLIT เป็นการถ่ายทอดการจัดการเรียนรู้หัวข้อเรื่องที่ยากของ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้จากครูต้นแบบของโรงเรียนชั้นนำ อาทิ เตรียมอุดมศึกษา สามเสนวิทยาลัย ราชวินิต สวนกุหลาบ ฯลฯ ไปยังห้องเรียนปลายทางตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 6, 2. คลังสื่อการสอน เป็นสื่อการสอนที่ทำให้เด็กเรียนรู้อย่างสนุกและเข้าใจบทเรียนมากขึ้น ซึ่งจะครอบคลุมใน 5 กลุ่มสาระฯ 3. ห้องสมุดดิจิตอล เป็นคลังข้อมูลสำหรับการค้นคว้าเนื้อหานอกห้องเรียน 4. การพัฒนาวิชาชีพครู เป็นสื่อวิดีทัศน์ให้ครูเห็นรูปแบบตัวอย่างการสอนของครูเก่ง และ 5. คลังข้อสอบ รวบรวมข้อสอบหลากหลายตั้งแต่ชั้น ป.1 - ม.6 เพื่อใช้ประเมินตนเองตลอดภาคเรียน
ทั้งนี้ ในภาคเรียนที่ 1/2558 จะมีโรงเรียนต้นแบบ 65 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมดำเนินการภายใต้ระบบ DLIT สามารถรับชมได้ทางออนไลน์ที่ www.dlit.ac.th ขณะเดียวกัน แม้จะเป็นระบบออฟไลน์โรงเรียนก็สามารถนำไปใช่ในการเรียนการสอนได้ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นว่า ระบบดังกล่าวที่นำมาใช้จะช่วยสร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เกิดการเปลี่ยนแปลงการสอนของครูทั่วประเทศ และนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษา และนำไปสู่เป้าหมายการปฏิรูปการศึกษาที่ต้องการให้การปฏิรูปเกิดจากในห้องเรียนได้อย่างแท้จริง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่