xs
xsm
sm
md
lg

จี้พัฒนา 30 บาท กวักมือเรียก “คนชั้นกลาง-คนรวย” เสนอร่วมจ่ายเพิ่มเงินในระบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“อัมมาร” จี้ รพ.รัฐ - สปสช.พัฒนาบริการสิทธิบัตรทองให้น่าใช้ กวักมือเรียก “คนชั้นกลาง - คนรวย” กลับเข้าระบบ ดึง รพ.เอกชน ร่วมรับผู้ป่วยบัตรทองมากขึ้น เสนอของบรัฐเพิ่ม เติมเงินในระบบ ให้ประชาชนร่วมจ่ายล่วงหน้าก่อนป่วยแบบประกันสังคม

ศ.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีความล้มเหลวของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ทำให้คนชั้นกลางหรือคนรวยหันไปใช้บริการ รพ.เอกชน มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการรอคอยคิวการรักษาพยาบาล โดยจะต้องดึงคนกลุ่มนี้กลับเข้าสู่ระบบให้ได้ ว่า สิทธิบัตรทองถือว่าเป็นสิทธิพื้นฐานของคนไทยทุกคน ไม่ใช่แค่คนจนเท่านั้นที่มีโอกาสใช้ การดึงกลุ่มคนชั้นกลางและคยรวยกลับเข้าสู่ระบบบัตรทองจึงจะทำให้บัตรทองเป้นสิทธิของคนไทยอย่างแท้จริง แต่ รพ.รัฐและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะต้องพัฒนาระบบบริการให้น่าใช้ ผู้มารับบริการรู้สึกมีความสุขที่จะมาใช้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องการรอคิวนาน เพราะแน่นอนว่าหากดึงคนกลุ่มนี้กลับเข้ามาสู่ระบบคนไข้ย่อมต้องมีมากขึ้นด้วย

จะต้องทำบริการสิทธิบัตรทองให้ดี กวักมือเรียกคนกลุ่มนี้กลับเข้ามา นอกจากนี้ อาจใช้แนวทางการประสานกับ รพ.เอกชน ระดับทั่วไป หรือระดับกลางให้เข้าร่วมกับระบบบัตรทองมากขึ้น ซึ่งจากการได้พูดคุยกับ รพ.เอกชน เขาก็พร้อม แต่จะต้องทำให้เห็นว่าเขาจะได้คนไข้มาดูแลจำนวนหนึ่ง” ศ.อัมมาร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากดึง รพ.เอกชน มาร่วมระบบบัตรทอง รพ.เอกชน จะรับได้กับงบเหมาจ่ายรายหัวหรือการคิดค่ารักษาตามกลุ่มโรคดีอาร์จีที่เฉลี่ยแล้วอาจไม่คุ้มกับต้นทุนหรือไม่ ศ.อัมมาร กล่าวว่า หากงบประมาณไม่เพียงพอก็ต้องมีการเติมเงินในระบบ โดยอาจของบประมาณจากรัฐมากขึ้น หรือคนชั้นกลางและคนรวยที่เราจะดึงเขากลับสู่ระบบอาจจะต้องมีการสนับสนุนทางการเงิน หรือ การร่วมจ่าย แต่ไม่ใช่การร่วมจ่าย ณ จุดบริการ แต่เป็นการจ่ายแบบล่วงหน้าก่อนป่วยรูปแบบเดียวกับสิทธิประกันสังคม ซึ่งก็ต้องมาคิดหารูปแบบในการร่วมจ่าย เพราะต้องเข้าใจว่าสิทธิบัตรทองส่วนใหญ่เป็นคนทั่วไป ไม่ได้อยู่ในภาคเอกชนแบบมนุษย์เงินเดือน ที่มีนายจ้างทำหน้าที่ในการจ่ายเงินสมทบก็อาจทำให้มีความลำบากในการเก็บ

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น