พระมหาภูมิชาย เปิดผลวิจัย พบคนรุ่นใหม่เน้นบวชระยะสั้น 7 วัน - 1 เดือน อึ้ง! มาบวชเพราะศรัทธาในพุทธศาสนามีแค่ 4.7% ที่เหลือบวชเพราะแก้บน บวชตามประเพณี บวชหนีปัญหา ทำสงฆ์ไทยขาดคุณภาพ ต้นตอสงฆ์นอกรีต เผยใช้หลักสูตรนักธรรมชั้นตรีอบรมพระบวชใหม่ ช่วยเพิ่มศรัทธาต่อพุทธศาสนาและปัญญาได้
วันนี้ (18 พ.ค.) พระมหาภูมิชาย อคฺคปญฺโญ นักศึกษาปริญญาเอก พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) นำเสนอผลการวิจัยเรื่องกระบวนการพัฒนาศรัทธาและปัญญาของพระนวกะ ด้วยหลักสูตรการอบรมพระนวกะของคณะสงฆ์ไทย ในการแถลงข่าวประกาศผลงานวิจัย มจร. แก้ปัญหาสังคมไทย ดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2557 ในการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ มจร. ครั้งที่ 1 ณ มจร.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า เมื่อปี 2555 ได้สำรวจสภาพปัญหาของผู้ที่เข้ามาบวชใหม่ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 15 จำนวน 253 รูป พบว่า คนรุ่นใหม่จะเน้นบวชระยะสั้น ตั้งแต่ 7 วัน - 1 เดือน มากถึงร้อยละ 67.2 ส่วนศรัทธาที่เข้ามาบวชนั้น พบว่า มีเพียงร้อยละ 4.7 เท่านั้น ที่ศรัทธาอยากจะบวชในพระพุทธศาสนาจริงๆ นอกนั้นจะบวชเพื่อแก้บน บวชตามประเพณี บวชหนีปัญหา ส่งผลให้พระสงฆ์ขาดคุณภาพ เพราะขาดความรู้ ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาจริงๆ
พระมหาภูมิชาย กล่าวว่า ตนเห็นว่า ควรหาวิธีการเพิ่มศรัทธาและปัญญาให้แก่ผู้บวชใหม่ โดยได้ประชุมพระสังฆาธิการในภาค 15 ดำเนินการจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศรัทธาและปัญหาของพระนวกะขึ้นมาใหม่ โดยประยุกต์จากหลักสูตรนักธรรมชั้นตรี หลักสูตรวัดญาณเวศกวัน และวัดชลประทานรังสฤษดิ์ แล้วดำเนินการวิจัยโดยทดลองภาคทฤษฎี 5 วัน ภาคปฏิบัติ 7 วัน รวม 12 วัน กับกลุ่มพระนวกะจำนวน 62 รูป แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม 31 รูป กลุ่มทั่วไป 31 รูป พบว่า พระนวกะที่ผ่านการอบรมหลักสูตรดังกล่าว มีศรัทธาและปัญญาในพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้น โดยวัดจากการตอบแบบประเมินจำนวน 40 ข้อ ได้แก่ พระรัตนตรัย กรรม วิปัสสนา นิพพาน และดำเนินการวัดผลต่อเนื่องในกลุ่มควบคุมหลังจากบวชแล้ว 6 สัปดาห์ พบว่า หลักสูตรดังกล่าวสามารถพัฒนาศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญาของพระนวกะได้จริง
“อาตมาจะนำเสนอหลักสูตรดังกล่าวต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อนำเสนอต่อมหาเถรสมาคม (มส.) ในการขยายผลให้มีการใช้หลักสูตรดังกล่าวทั่วประเทศ ในการพัฒนาพระนวกะที่บวชใหม่ให้มีศรัทธาในการบวชต่อพระพุทธศาสนาจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่มาบวชเพื่อให้ผ่านไปเฉยๆ” พระมหาภูมิชาย กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (18 พ.ค.) พระมหาภูมิชาย อคฺคปญฺโญ นักศึกษาปริญญาเอก พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) นำเสนอผลการวิจัยเรื่องกระบวนการพัฒนาศรัทธาและปัญญาของพระนวกะ ด้วยหลักสูตรการอบรมพระนวกะของคณะสงฆ์ไทย ในการแถลงข่าวประกาศผลงานวิจัย มจร. แก้ปัญหาสังคมไทย ดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2557 ในการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ มจร. ครั้งที่ 1 ณ มจร.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า เมื่อปี 2555 ได้สำรวจสภาพปัญหาของผู้ที่เข้ามาบวชใหม่ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 15 จำนวน 253 รูป พบว่า คนรุ่นใหม่จะเน้นบวชระยะสั้น ตั้งแต่ 7 วัน - 1 เดือน มากถึงร้อยละ 67.2 ส่วนศรัทธาที่เข้ามาบวชนั้น พบว่า มีเพียงร้อยละ 4.7 เท่านั้น ที่ศรัทธาอยากจะบวชในพระพุทธศาสนาจริงๆ นอกนั้นจะบวชเพื่อแก้บน บวชตามประเพณี บวชหนีปัญหา ส่งผลให้พระสงฆ์ขาดคุณภาพ เพราะขาดความรู้ ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาจริงๆ
พระมหาภูมิชาย กล่าวว่า ตนเห็นว่า ควรหาวิธีการเพิ่มศรัทธาและปัญญาให้แก่ผู้บวชใหม่ โดยได้ประชุมพระสังฆาธิการในภาค 15 ดำเนินการจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศรัทธาและปัญหาของพระนวกะขึ้นมาใหม่ โดยประยุกต์จากหลักสูตรนักธรรมชั้นตรี หลักสูตรวัดญาณเวศกวัน และวัดชลประทานรังสฤษดิ์ แล้วดำเนินการวิจัยโดยทดลองภาคทฤษฎี 5 วัน ภาคปฏิบัติ 7 วัน รวม 12 วัน กับกลุ่มพระนวกะจำนวน 62 รูป แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม 31 รูป กลุ่มทั่วไป 31 รูป พบว่า พระนวกะที่ผ่านการอบรมหลักสูตรดังกล่าว มีศรัทธาและปัญญาในพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้น โดยวัดจากการตอบแบบประเมินจำนวน 40 ข้อ ได้แก่ พระรัตนตรัย กรรม วิปัสสนา นิพพาน และดำเนินการวัดผลต่อเนื่องในกลุ่มควบคุมหลังจากบวชแล้ว 6 สัปดาห์ พบว่า หลักสูตรดังกล่าวสามารถพัฒนาศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญาของพระนวกะได้จริง
“อาตมาจะนำเสนอหลักสูตรดังกล่าวต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อนำเสนอต่อมหาเถรสมาคม (มส.) ในการขยายผลให้มีการใช้หลักสูตรดังกล่าวทั่วประเทศ ในการพัฒนาพระนวกะที่บวชใหม่ให้มีศรัทธาในการบวชต่อพระพุทธศาสนาจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่มาบวชเพื่อให้ผ่านไปเฉยๆ” พระมหาภูมิชาย กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
