xs
xsm
sm
md
lg

ความจริง (เรื่องเอชไอวี/เอดส์) ที่อยากจะบอกกับพี่น้องแรงงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นิมิตร์ เทียนอุดม

น่าจะยังไม่ช้าเกินไปใช่ไหมครับที่ผมจะเขียนถึงเรื่องแรงงานไทยแม้ว่าจะผ่านพ้นวันแรงงานแห่งชาติ มาแล้ว เนื่องจากมีประเด็นเรื่องเอดส์กับแรงงานที่ผมเห็นว่าต้องมาบอกกล่าวพี่น้องกัน

จริงๆ ต้องบอกว่า วัยทำงานเป็นช่วงวัยที่แข็งแรงมาก ไม่ค่อยเจ็บป่วยด้วยโรคอะไร ทำให้ไม่ต้องไปรับบริการด้านสุขภาพที่โรงพยาบาลมากนักเมื่อเทียบกับประชากรวัยเด็กหรือวัยสูงอายุ (กรณีนี้เกี่ยวข้องกับเงินกองทุนประกันสังคมที่พี่น้องแรงงานจ่ายไปทุกเดือนๆ แต่สิทธิประโยชน์ไม่เทียบเท่ากับสิทธิการรักษาอื่นด้วย ขอเป็นฉบับหน้าค่อยว่ากันครับเรื่องนี้)

อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเก็บข้อมูลพบว่า ประชากรวัยแรงงานติดเชื้อเอชไอวี/ป่วยเอดส์ มากกว่าวัยอื่นๆ ขอย้ำว่า “พบ” นะครับ รับเชื้อมาเมื่อไหร่อันนี้ต้องไปนับย้อนหลังกันในแต่ละราย เพราะการตรวจพบ หมายความว่า ผู้รับบริการเดินเข้าไปตรวจเลือดเพราะรู้สึกว่าตัวเองมีความเสี่ยง หรือป่วยต้องเข้ารับการรักษาแล้ว และเมื่อพบว่าตัวเองติดเชื้อ เกือบทุกรายมีความกังวล เช่น จะทำงานเหมือนเดิมได้ไหม นายจ้างจะไล่ออกไหม จะรักษาอย่างไร เสียค่ายาเท่าไหร่ ???

ประเด็นเรื่องการทำงาน ย้ำนะครับว่า ผู้ติดเชื้อสามารถทำงานได้เหมือนเดิม ไม่เกี่ยงว่างานนั้นจะหนัก-เบา ต้องใช้แรงมากหรือน้อย เพราะเท่าที่ผมรู้จักผู้ติดเชื้อ เขาก็ทำงานได้ปกติ เคยทำสวน ทำไร่ ทำนา แบกหาม ก่อสร้าง ก็ยังทำได้เหมือนเดิมในรายที่ทำงานบริษัท ห้างร้านต่างๆ และมีความกังวลใจว่าจะถูกเลิกจ้างหรือเปล่า ต้องเข้าใจก่อนครับว่าเรื่องผลเลือดเป็นสิทธิของเราที่บอกหรือไม่บอกใคร และหากบริษัทแอบตรวจเลือดเอชไอวีกับพนักงานถือว่ามีความผิด เรามีสิทธิที่จะไม่ตรวจและยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ เช่น มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ หรือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน

ส่วนเรื่องสุขภาพ ต้องบอกว่า การรู้ผลเลือดเร็วเป็นเรื่องดีนะครับ เพราะการรู้ผลเอชไอวีก่อนที่เราจะป่วย ทำให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ที่จะป่วยก็กินยาป้องกันไว้ก่อน ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายจ่ายยาต้านไวรัสให้กับทุกคนที่ตรวจแล้วพบว่าติดเชื้อเอชไอวีโดยไม่ต้องดูระดับค่าภูมิต้านทาน (CD4) เพราะมีข้อมูลที่แน่ชัดว่าการเริ่มกินยาต้านไวรัสเร็วจะช่วยไม่ให้ป่วยในขณะเดียวกันก็ช่วยลดการส่งต่อเชื้อเอชไอวีไปยังคู่ด้วย และอีกเรื่องหนึ่งคือ การจัดการกับใจของตนเอง ถ้ามีข้อมูลเก่า ว่าเอดส์เป็นแล้วตาย รักษาไม่หาย มันทำให้ใจเสีย...จิตตก ผมก็ขอบอกว่า “เอดส์ รู้เร็ว รักษาได้” การรักษาด้วยยาต้านไวรัส อย่างเคร่งครัด ทำให้ ผู้ติดเชื้อฯมีอายุขัยยืนยาว เหมือนกับคนทั่วไป แต่ในช่วงแรกของการเริ่มรักษา อาจจะยากและพบกับภาวะเจ็บป่วย หรือ มีอาการข้างเคียงของยา ซึ่งต้องอดทนและเชื่อมั่นในการรักษาครับ เพราะว่ามีผู้ติดเชื้อกว่า 200,000 คนที่มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตดีขึ้นหลังจากเริ่มรักษาและอยู่กับการรักษามาอย่างต่อเนื่อง

และแม้ว่ายาต้านไวรัสจะต้องกินไปตลอดชีวิต พี่น้องแรงงานก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายครับเพราะสิทธิประกันสังคมครอบคลุมการรักษาเอชไอวี/เอดส์ ทุกอย่างตามแนวทางการรักษาของประเทศแต่จะยกเว้นการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี ที่ต้องไปใช้สิทธิการตรวจจากระบบหลักประกันสุขภาพ และอย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีบางโรงพยาบาลไม่จ่ายยาต้านไวรัสให้กับผู้ที่ตรวจเลือดแล้วพบว่าติดเชื้อเอชไอวีโดยให้เหตุผลว่า ค่าภูมิต้านทาน (CD4) ยังสูงอยู่ ถ้าเป็นกรณีนี้ ต้องรีบค้านหมอนะครับ บอกได้เลยว่ากระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายจ่ายยาต้านไวรัสให้กับผู้ติดเชื้อเอชไอวีในทุกระดับ CD4

หากค้านแล้วหมอยังไม่จ่ายยาต้านไวรัสให้ ให้ร้องเรียนไปที่สำนักงานประกันสังคม หมายเลขโทรศัพท์ 084-751-7278 เพื่อให้ประกันสังคมดำเนินการกับโรงพยาบาลนะครับ
การรักษาด้วยยาต้านไวรัสถือว่าเป็นแนวทางการรักษาที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน และมีการพิสูจน์แล้วว่าผู้ติดเชื้อที่ได้กินยาต้านไวรัสและรักษาอย่างต่อเนื่องจะแข็งแรง สามารถใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิม ดังนั้น อย่าหลงเชื่อกับคำโฆษณาใดๆ ที่บอกว่าอาหารเสริมตัวนั้นตัวนี้จะช่วยรักษาเอชไอวีให้หายขาดได้

เสียตังค์ฟรี และไม่เห็นผลใดๆ ครับ
 
 
 
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น