เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี ยื่น อย. ตรวจสอบ “อาหารเสริม” อ้างเพิ่มค่า CD4 ลดผลข้างเคียงยาต้านไวรัส ชี้มีผู้ป่วยเอดส์อายุ 15 - 16 ปี เข้ามาสอบถามมาก ห่วงหยุดยา ส่งผลต่อการรักษา ทำให้ตายเร็วขึ้น เล็งนำเข้าหารือในคณะอนุฯ ส่งเสริมคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ ด้าน อย. เผยส่งทีมตรวจสอบบริษัทแล้ว กำลังรวบรวมข้อมูล
นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรณีบริษัทผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรายหนึ่งเปิดเผยผลศึกษาสารสกัดจากพืชไทย สามารถช่วยเพิ่มระดับเซลล์เม็ดเลือดขาว หรือ ค่า CD4 ได้ 5 เท่า และช่วยลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวี เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ซึ่งหลังจากที่มีข่าวเช่นนี้ออกมา ส่งผลให้มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งเข้ามาสอบถามกับทางเครือข่ายฯ และแพทย์ที่รักษา ซึ่งล้วนตั้งข้อสงสัยว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะเป็นทางออกของผู้ติดเชื้อหรือไม่ โดยไม่ต้องรับประทานยาต้านไวรัสอีก ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอายุเพียง 15 - 16 ปี เท่านั้น ถือว่าน่าห่วงมาก เพราะหากหยุดยาจะส่งผลต่อการรักษา และอาจนำไปสู่เชื้อดื้อยา จนเสียชีวิตเร็วขึ้น
นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า อยากให้ อย. ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ว่า เป็นการโฆษณาอวดอ้างเกินจริงหรือไม่ ถึงแม้บริษัทจะระบุว่าไม่ได้โฆษณา เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของสื่อ แต่จากการพิจารณาทั้งตัวเอกสาร และคลิปวีดิโอ พบว่ามีการอ้างถึงสรรพคุณเรื่องการเพิ่มของค่า CD4 จริง ซึ่งเรื่องนี้สำคัญ เพราะค่า CD4 สัมพันธ์กับเชื้อไวรัสเอชไอวี ส่งผลให้ผู้ป่วยอาจเข้าใจผิดและคิดว่าไม่จำเป็นต้องกินยาต้านไวรัส ทั้งนี้ ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ ที่มี นายจอน อึ๊งภากรณ์ เป็นประธาน จะประชุมหารือในวันที่ 29 เม.ย. โดยจะนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือว่าจะมีมาตรการอย่างไรด้วย เนื่องจากเป็นอนุกรรมการหนึ่งในคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะทำหน้าที่ในการดูแลคุ้มครองผู้ป่วยเอชไอวี
“เรื่องกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นสิ่งสำคัญ ที่เราต้องหามาตรการป้องกัน เพราะแม้จะยื่นจดทะเบียนกับ อย.เป็นอาหารเสริม แต่หากมีโฆษณาเช่นนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ทราบว่า อย. อยู่ระหว่างตรวจสอบเรื่องนี้ การมายื่นหนังสือก็เพื่อให้กำลังใจ และสนับสนุนในการเอาผิดผลิตภัณฑ์อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงทั้งหมด” นายอภิวัฒน์ กล่าว
นพ.บุญชัย กล่าวว่า อย. ได้ส่งทีมไปตรวจสอบกับบริษัทดังกล่าว และลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งผลิต เบื้องต้นอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล อย่างไรก็ตาม การขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แม้จะไม่ใช่ยา แต่หากมีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงในแง่การรักษาก็ต้องถือว่าผิด ส่วนจะผิดระดับใดต้องรอตรวจสอบก่อน เบื้องต้นขอให้ผู้ติดเชื้อฯ อย่าหลงเชื่อ เพราะการดูแลรักษาตามหลักการแพทย์ คือ การให้ยาต้านไวรัสฯ ยังเป็นแนวทางรักษาที่ดีที่สุด และไม่ควรหยุดใช้ยา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
