xs
xsm
sm
md
lg

คนรักหลักประกันหนุนห้ามเก็บเงินผู้ป่วยฉุกเฉิน คุม รพ.เอกชนไม่เน้นกำไร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กลุ่มคนรักหลักประกันออกแถลงการณ์หนุนชมรมแพทย์ชนบท เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ห้ามเก็บเงินผู้ป่วยกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต หากพ้นภาวะฉุกเฉินให้ส่งต่อ รพ. ตามสิทธิ พร้อมคุมการทำธุรกิจ รพ.เอกชน ไม่มุ่งเน้นผลกำไร

วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ได้ออกแถลงการณ์กรณีการแก้ปัญหาค่ารักษาพยาบาลเอกชนแพง โดยได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่แสดงความรับผิดชอบในการจะแก้ไขปัญหา โดยขอสนับสนุนให้ รมว.สาธารณสุข ออกประกาศกระทรวงตามข้อเสนอของ ชมรมแพทย์ชนบท และกลุ่มผู้เสียหายทางการแพทย์ กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ทั้งห้ามเก็บเงินผู้ป่วยและญาติกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ภายในเวลา 72 ชั่วโมง การส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิที่ต้องจัดหาเตียงสำรองให้เพียงพอ การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการสถานพยาบาล ปรับคณะกรรมการสถานพยาบาลในส่วนผู้ทรงคุณวุฒิให้เป็นผู้แทนจากภาคประชาชนที่เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์เป็นผู้เสนอ เร่งออก พ.ร.บ. ยาฉบับใหม่ ที่ไม่มีการตัดกลไกการควบคุมราคายา ควบคุมการทำธุรกิจ รพ.เอกชน ไม่ให้มุ่งเน้นผลกำไร ยกเลิกการสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล และเร่งรัดการออกกฎหมายควบคุมการควบรวมกิจการการแข่งขันทางการค้า เป็นต้น

แถลงการณ์

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ

18 พฤษภาคม 2558

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพขอแสดงความขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในขั้นต้น ต่อข้อเรียกร้องที่ต้องการให้รัฐบาลพัฒนากลไกควบคุมค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลเอกชน

อย่างไรก็ตาม ขอย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการเร่งด่วนเพิ่มเติมที่สามารถตอบสนองต่อปัญหาอย่างชัดเจน และทันต่อกาล ในการนี้ ขอสนับสนุนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศกระทรวงตามข้อเสนอของ ชมรมแพทย์ชนบท และกลุ่มผู้เสียหายทางการแพทย์ กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน

ดังนี้

ข้อเสนอระยะสั้น

1. ให้ รมว.สธ. ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ตามมาตรา 35(4) ประกอบมาตรา 36 ของ พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 โดยมีสาระสำคัญดังนี้

1.1 ให้โรงพยาบาลทุกแห่ง ทั้งภาครัฐ และเอกชน ยุติการเรียกเก็บเงินกับผู้ป่วยและญาติในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ภายในเวลา 72 ชั่วโมง หรือจนกว่าสัญญาณชีพจะอยู่ในภาวะคงที่หรือปลอดภัยเพียงพอที่จะนำส่งไปรับการรักษาพยาบาลต่อในโรงพยาบาลต้นสังกัดตามสิทธิของผู้ป่วย ยืนยันขอให้ดำเนินกระบวนการให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

1.2 ให้โรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นมีหน้าที่ในการส่งต่อผู้ป่วยไปยัง รพ. ตามสิทธิ
1.3 ให้ 3 กองทุนหลักประกันสุขภาพ (สปสช. สปส. กรมบัญชีกลาง) ดำเนินการจัดหาเตียงสำรองให้เพียงพอ หากจัดหาให้ไม่ได้ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
1.4 ให้ภาครัฐดำเนินการทำข้อตกลงกับ รพ.เอกชน เกี่ยวกับอัตราค่ารักษาพยาบาลในกรณีฉุกเฉินของ 3 กองทุน และให้มีบทลงโทษสำหรับรพ.เอกชนที่ไม่ทำตามเงื่อนไขดังกล่าวอย่างเด็ดขาด

2. กระทรวงสาธารณสุขต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า โรงพยาบาลไม่มีสิทธิบังคับผู้ป่วยและญาติให้เซ็นรับสภาพหนี้ เพราะเป็นสิทธิของประชาชนในการใช้บริการ รพ.เอกชน ในกรณีฉุกเฉินตามมาตรา 36 และตามประกาศว่าด้วยการใช้บริการในกรณีฉุกเฉิน 3 กองทุน
3. ห้ามสถานพยาบาลกักตัวผู้ป่วยหากไม่เป็นเหตุอันก่อให้เกิดภาวะคุกคามต่อชีวิต หากฝ่าฝืนถือเป็นความผิดทางอาญา

ข้อเสนอระยะกลาง (ภายในเวลา 3 เดือน)

1. ให้กระทรวงสาธารณสุข ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการหนึ่งชุดที่มีองค์ประกอบจากทุกฝ่าย และมีสัดส่วนภาคประชาชนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็น ประธาน เพื่อติดตามตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการสถานพยาบาลตามข้อ 1. และให้
คณะกรรมการสถานพยาบาลรายงานผลดำเนินการต่อกรรมการชุดนี้ทุก 2 เดือน และดำเนินการเผยแพร่ผลการดำเนินงานผ่านสื่อสาธารณะทุกครั้ง

2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปรับคณะกรรมการสถานพยาบาลในมาตรา 7(2) ตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ในส่วนผู้ทรงคุณวุฒิอื่นจำนวน 5 คน ให้เป็นผู้แทนจากภาคประชาชนที่เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ และภาคีเครือข่ายเป็นผู้เสนอ

3. ให้คณะกรรมการสถานพยาบาลทำหน้าที่ ตามมาตรา 11(4) ในการควบคุมหรือการพิจารณาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินการ ของสถานพยาบาล ให้รวมถึง การวินิจฉัย การรักษา ที่มากเกินความจำเป็น ค่ารักษาพยาบาล ค่ายา หรือค่าใช้จ่ายทางการแพทย์อื่นๆ ที่แพงเกินจริง

4. การดำเนินการเรื่องราคายา ให้มีการบังคับใช้ clinical practice guideline อย่างเคร่งครัด และการให้มีการใช้ยาชื่อสามัญ (generic) เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วย

5. ขอให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เร่งรัดการออก พระราชบัญญัติยา ที่มีการเสนอขอปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์โดยภาคประชาชน ทั้งนี้ ต้องยืนยันไม่ให้มีการตัดเรื่องกลไกการควบคุมราคายา ตามที่กลุ่มบริษัทยาคัดค้านไว้

6. เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบและลดเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและการปฏิรูปประเทศ จึงควรให้มีการเปิดเผยข้อมูลประโยชน์ทับซ้อนของแพทย์หรือผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาล สนช. สปช. และแพทยสภา

ข้อเสนอระยะยาวใน 1 ปี

1. ควบคุมการทำธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ไม่ให้มุ่งเน้นผลกำไร แต่มุ่งเน้นการดำเนินการทางมนุษยธรรม ด้วยการสร้างแรงจูงใจให้มีการสำรองเตียงสำหรับผู้ป่วยคนไทยในทุกสิทธิ ทั้งในกรณีฉุกเฉิน และการรับส่งต่อจากโรงพยาบาลภาครัฐในกรณีอื่นๆ โดยให้กองทุนหลักประกันสุขภาพร่วมกับตัวแทนโรงพยาบาลเอกชน ในการกำหนดราคาในการรักษาพยาบาลที่เป็นธรรมไม่ค้ากำไรเกินควรและไม่โกงราคา

2. ยกเลิกการสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล และเร่งรัดการออกกฎหมายควบคุมการควบรวมกิจการการแข่งขันทางการค้า

3. เปิดให้มีการสมัครใจของโรงพยาบาลเอกชนที่จะดำเนินการด้านบริการสาธารณะให้เป็นการดำเนินการแบบองค์กรสาธารณประโยชน์ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น

ทั้งนี้ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ เห็นด้วยในการปรับปรุงคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสุขภาพ ระบบสาธารณสุข ระบบวิชาชีพการสาธารณสุขต่างๆ โดยดำเนินการปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ไม่เห็นด้วยที่จะดำเนินการโดยใช้มาตรการ ม.44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 แต่ควรเป็นไปแบบประชาธิปไตยอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น