xs
xsm
sm
md
lg

8 ค่านิยมผิดๆ ที่พ่อแม่ใส่ให้ลูก/ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


คุณแม่คุณพ่อเป็นตัวอย่างที่ลูกคอยเฝ้ามองและประพฤติปฏิบัติตาม ค่านิยมของพ่อแม่จะซึมซับและฝังลึกในตัวของลูก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่าง เรื่องความสามารถ และอีกหลายๆ เรื่องที่ลูกได้เห็นและทำตามจากการเลียนแบบคุณพ่อคุณแม่ การให้รางวัลและการลงโทษไม่ใช่การสอนที่ดีที่สุด แต่การสร้างค่านิยมทางบวกรวมทั้งการเป็นตัวอย่างที่ดีต่างหากที่เป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าเพราะจะทำให้ลูกมีทั้งความสุข และความพอใจในสิ่งในกำลังมาถึงในอนาคต ลองมาดูกันว่าค่านิยมใดบ้างที่ไม่ควรสร้างให้แก่ลูก

1. วิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง การตัดสินตัวเองไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา และน้ำหนักตัว ล้วนแล้วแต่เป็นนิสัยที่ส่งต่อไปถึงลูกโดยเฉพาะลูกผู้หญิงจะมีอิทธิพลต่อสิ่งที่แม่พูดและทำ จะทำให้ลูกดูถูกตัวเองและรู้สึกด้อยคุณค่าทุกครั้งเมื่อมองตัวเองในกระจก ทั้งยังส่งผลต่อการไม่รักตัวเองและทำให้รู้จักคุณค่าของตัวเองลดน้อยลง รวมทั้งอาจส่งผลให้ลูกเป็นโรคอะนอเร็กเซีย Anorexia Nervosa (โรคอยากผอม) ซึ่งส่งผลเสียอย่างมากและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

2. ทานอาหารโดยใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง เราคงเคยได้ยินหลายคนพูดว่า “วันนี้โมโหคนหมดอารมณ์กินเลย” อย่าใช้อาหารเป็นเครื่องต่อรอง หรือใช้ความรู้สึกเศร้าหรือผิดหวังมาคู่กับการทานอาหาร เพราะนั่นคือสิ่งที่เรากำลังส่งข้อความหรือพูดกับลูกว่าอาหารคือสิ่งที่ทำให้มีความรู้สึกดีขึ้น ให้เราเติมอารมณ์ที่หดหู่โดยวิธีอื่น เช่นแทนที่จะใช้อาหารเป็นเครื่องต่อรอง เราลองใช้วิธีออกไปเดินเล่น หรือคุยระบายกับเพื่อนแทน เพราะลูกจะเก็บนิสัยที่ดีและไม่ดีจากพ่อแม่ไปปฏิบัติตาม

3. ชอบส่งข้อความ ตรวจอีเมล คุยโทรศัพท์ เล่นเฟซบุ๊ก ตลอดเวลา เป็นการไม่ยุติธรรมกับลูกที่จะส่งข้อความหรือโทรศัพท์เป็นเวลานานในระหว่างช่วงเวลารับประทานอาหารหรือเมื่อกำลังใช้เวลากับลูก เรากำลังสร้างลักษณะนิสัยบางอย่างที่มีอิทธิพลต่อลูก เราต้องมีกฎประจำบ้านสำหรับตัวคุณพ่อคุณแม่เองและตัวลูกด้วย เด็กที่ใช้เวลาเล่นเกม หรือจ้องจอภาพมากเกินไปมักมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ ขาดสมาธิในการเรียนและเรื่องน้ำหนัก

4. มีค่านิยมเรื่องวัตถุนิยมและความสวยงาม เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบแต่งตัว รักสวยรักงาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าอย่าให้เรื่องพวกนี้มามีอิทธิพลมากเกินไปต่อลูก การจัดงานปาร์ตี้ สนุกสนานสร้างเรื่องวัตถุนิยมเป็นคุณค่าที่มากกว่าความงามภายในเป็นการส่งเสริมลูกในทางที่ไม่ถูกต้อง แทนการแต่งหน้า ทาปากตลอดเวลา พาลูกให้ออกไปเดินเล่น เล่นกีฬา ลูกจะเรียนรู้ว่าเราสามารถเป็นผู้ที่เข็มแข็ง แข็งแรงและเป็นสุภาพสตรีได้ในเวลาเดียวกัน

5. ใช้วิธีการดื่มหรือจิบไวน์เพื่อเพิ่มความรู้สึกดีขึ้น การสร้างค่านิยมว่าแอลกอฮอร์เป็นสิ่งที่ช่วยให้มีความสุขเป็นค่านิยมที่ผิด หากวันไหนที่คุณพ่อคุณแม่กลับบ้านแล้วพูดว่า วันนี้เหนื่อยจังขอจิบซักแก้ว เรากำลังปลูกฝังค่านิยมว่าการดื่มช่วยลดความเครียด เช่นเดียวกับการใช้กาแฟช่วยให้ตาสว่างและทำงานได้ดี แทนที่จะทำอย่างนั้น เราควร ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายร่วมกันทั้งครอบครัว สิ่งเหล่านั้นจะทำให้มีความสุข ผ่อยคลายและเติมกำลังได้มากกว่า

6. ทำทุกอย่างเป็นการแข่งขัน โดยการเปรียบเทียบลูกกับเพื่อนคนอื่น พี่น้อง หรือเพื่อนบ้านตลอดเวลา แทนที่จะใช้การเปรียบเทียบให้เสริมค่านิยมทางบวก ชมเชยเมื่อลูกทำได้ดี และมีความพยายาม ให้ลูกได้สนุกมากกว่าการแข่งขัน สร้างแรงจูงใจที่ดี หรือให้ลูกแข่งกับตัวเองแทนการแข่งขันกับคนอื่น ช่วยลูกหากิจกรรมในการแสดงความมีน้ำใจต่อผู้อื่น เช่น การเป็นอาสาสมัครดูแลน้อง เป็นต้น

7. ชอบทะเลาะและพูดจาประชด หากคุณพ่อคุณแม่ชอบทะเลาะกันและพูดประชดประชันกัน ลูกจะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำได้เมื่อโมโห และทุกครั้งเมื่อเครียดลูกจะแสดงอารมณ์เช่นนี้ออกมาด้วย ดังนั้น การทะเลาะกันต่อหน้าลูกเป็นการสร้างค่านิยมที่มีผลทางลบ และเป็นอันตรายในอนาคตของลูกอีกด้วย

8. การนินทา การวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น หรือล้อเลียน ผู้ด้อยโอกาสหรือคนพิการล้วนแล้วแต่เป็นค่านิยมที่ไม่ถูกต้อง ลูกจะติดกับสิ่งเหล่านี้ซึ่งเป็นการดูถูกผู้อื่น และเป็นค่านิยมที่ผิดๆที่พ่อแม่ควรพึงระวัง

หากคุณพ่อคุณแม่เคยทำในข้อไหนที่กล่าวมาแล้ว ให้เรามาพิจารณาตนเองและเริ่มต้นใหม่ เพื่อการสร้างค่านิยมที่ดี ให้กับลูก เพื่อที่ลูกจะเป็นคนที่มีความสมบูรณ์ทั้งใจและกาย อีกทั้งเป็นที่รักของคนทั้งในครอบครัวและคนรอบข้างอีกด้วย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวเสมอค่ะ

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น