กพย.วอนนายกฯ เร่งออก พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่ เน้นเปิดเผยโครงสร้างรายาคา ชี้เป็นกลไกคุมราคาที่ต้นทาง พร้อมเผย เตรียมส่งข้อมูลเสริม สธ. หามาตรการคุมค่ารักษา รพ.เอกชน พร้อมจี้ ก.พาณิชย์คุมเข้มค่ายา-บริการ
วันนี้ (9 พ.ค.) ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) กล่าวถึงปัญหาโรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลแพง โดยส่วนหนึ่งเป็นเราราคายาสูงกว่าท้องตลาดจำนวนมากว่า ปัญหายาแพงเพราะปัจจุบันมีการผูกขาดยาจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาได้เรียกร้อง และผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่บรรจุเรื่องการเปิดเผยโครงสร้างราคายาลงไปด้วยเพื่อให้ทราบต้นทุนที่แท้จริงในการผลิตยา แต่ถูกขัดขวางมาตลอด โดยอ้างว่าเหตุที่ยาแพงเป็นเพราะการลงทุนศึกษาวิจัย แต่อันที่จริงมีการศึกษาพบว่าเหตุที่ยามีราคาแพงเป็นเพราะลงทุนส่งเสริมการขายมากกว่า ดังนั้น เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา กพย.จึงได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้เร่งพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่ โดยเน้นในเรื่องการเปิดเผยโครงสร้างราคายาเพราะสำคัญมาก
นอกจากนี้ ปัญหายาแพงยังเกิดจากการควบคุมที่ปลาย ที่มีกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ดูแล โดยอาศัย พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการควบคุมอย่างเป็นเรื่องเป็นราว มีการบังคับให้ติดราคาสินค้าและห้ามขายเกินราคาที่กำหนด แต่เกณฑ์มาตรฐานกลับไม่มี ถือเป็นปัญหามาก ซึ่งวันนี้ในโรงพยาบาลเอกชนขายยาแพงมากทั้งในส่วนของยาที่มีสิทธิบัตรและไม่มีสิทธิบัตร สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าระบบการควบคุมโรงพยาบาลเอกชนของประเทศไทยอ่อนแอมาก มีแค่การขึ้นทะเบียนและตรวจสอบรายปีว่ามีเครื่องมือครบหรือไม่ มีคุณภาพหรือไม่เท่านั้น ตรงนี้กระทรวงพาณิชย์ควรต้องมีหน้าที่เฝ้ารังราคายาในโรงพยาบาลเอกชน และร้านยาอย่างจริงจัง แล้ว กพย.จะเป็นอีกหนึ่งแรงที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบด้วย
“โครงสร้างราคายาเป็นอย่างแรกที่ต้องมีการเปิดเผยและควบคุมเพราะนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ขึ้นราคำได้โดยที่ชาวบ้านไม่รู้เลย และควรดูเรื่องการตรวจวินิจฉัยโรคเกินจำเป็น เพราะพบว่าการมีการเก็บค่าอุปกรณ์บางอย่างแพงมากทั้งที่ไม่ใช่ชนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น เลนส์แก้วตาเทียม ข้อกระดูก แพงมาก ตอนนี้เราเองก็คุยกันอยู่ว่าจะทำอย่างไร แต่เรื่องราคายานี่เรามอนิเตอร์แน่นอน” ภญ.นิยะดากล่าว และว่าเบื้องต้นได้เตรียมจัดส่งข้อมูลการเฝ้าระวังเรื่องการใช้ยา และราคายาที่ กพย.ได้มีการศึกษาเอาไว้บ้างแล้วนั้นส่งให้กับกระทรวงสาธารณสุขในสัปดาห์หน้าเพื่อเสริมสิ่งที่กระทรวงจะดำเนินการ และหากต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติม กพย.ก็ยินดีที่จะไปให้ข้อมูลและร่วมปฏิบัติงาน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
