เนปาลเบรกไทยขยายทีมช่วยเหลือไปพาชคาล เหตุอยากให้ดูแลพื้นที่ซิปปะกัตตามเดิมก่อน พร้อมมอบภารกิจเพิ่มเติมเป็นศูนย์ประสานทีมแพทย์นานาชาติที่จะขึ้นเขาหิมาลัยผ่านทางซิปปะกัต เผยทีมแพทย์ผลัดเปลี่ยนชุดสอง เตรียมเดินทาง 7 พ.ค. นี้
วันนี้ (5 พ.ค.) นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว (วอร์รูม) ที่ประเทศเนปาล ว่า ได้รับรายงานจากทีมแพทย์ไทยที่ตั้งโรงพยาบาลสนามประจำอยู่ ต.ซิปปะกัต อ.สินธุ ปาโชค ว่า ผู้ป่วยมีจำนวนน้อยลง ทั้งที่บาดเจ็บและไม่บาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ไทยยังคงดำเนินตามภารกิจเดิมทั้ง 4 ด้านอยู่ คือ 1. การให้บริการทางการแพทย์ 2. การให้บริการสาธารณสุขเชิงรุก ทั้งการควบคุมโรค อนามัยสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม และสุขภาพจิต 3. การสร้างระบบสุขภาพชุมชนร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อพัฒนาหน่วยบริการและกำลังคนให้เข้มแข็ง และ 4. การถอดบทเรียนข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย นอกจากนี้ สธ. เนปาล และองค์การอนามัยโลกที่ตั้งศูนย์อยู่ที่กรุงกาฐมาณฑุ ยังเพิ่มอีก 1 ภารกิจให้ทีมแพทย์ไทย คือ เป็นศูนย์ประสานทีมแพทย์นานาชาติที่เข้ามายังพื้นที่ ซิปปะกัต เพราะเป็นปากทางในการขึ้นเทือกเขาหิมาลัย
นพ.วชิระ กล่าวว่า สำหรับทีมแพทย์ชุดที่สอง ขณะนี้ได้รายชื่อแล้ว 24 คน จะจัดพิธีปฐมนิเทศเพื่อเตรียมความพร้อมในวันที่ 6 พ.ค. เวลา 10.00 น. และจะเดินทางไปกรุงกาฐมาณฑุในวันที่ 7 พ.ค. ด้วยเครื่องบินของการบินไทย เวลา 10.00 น. และไปรับมอบภารกิจต่อจากทีมแพทย์ชุดแรกที่ ต.ซิปปะกัต ทันที โดยทีมแพทย์ชุดแรกทั้ง 19 คน หลังจากส่งต่อภารกิจแล้ว จะเดินทางออกจากพื้นที่ในวันที่ 8 พ.ค. โดยมาพักที่กรุงกาฐมาณฑุก่อน จากนั้นจึงเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 9 พ.ค. ส่วนการเปิดทีมใหม่ในการขยายพื้นที่ไปยังพาชคาลนั้นยังไม่สามารถกำหนดเวลาได้ เพราะรัฐบาลเนปาลยังต้องการให้ทีมแพทย์ไทยดูแลอยู่ในพื้นที่เดิมไปก่อน อย่างไรก็ตาม จะยังมีการประสานกันอย่างต่อเนื่องว่าจะเพิ่มภารกิจใดๆ ให้กับไทยอีกบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีทางการเนปาลขอให้ทีมแพทย์นานาชาติงดส่งทีมช่วยเหลือ นพ.วชิระ กล่าวว่า สาเหตุดังกล่าวเพราะขณะนี้ทีมแพทย์นานาชาติที่มาตั้งโรงพยาบาลสนามมีเป็นจำนวนมากแล้วถึง 58 แคมป์ น่าจะเพียงพอ ทั้งนี้ หากมีภารกิจเพิ่มเติมที่จะมอบหมายก็จะมีการประสานมอบหมายให้ สำหรับทีมที่อยากให้กลับคือทีมกู้ชีพกู้ภัย
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ที่เนปาลยังไม่มีโรคใดระบาดเป็นพิเศษ ดังนั้น ในการเฝ้าระวังทีมแพทย์ไทยที่เดินทางกลับมาก็จะเน้นในเรื่องของอาการไข้ โรคติดต่อนำโดยแมลง หรือโรคในระบบทางเดินอาหาร สำหรับก่อนเดินทางไปกรมฯ จะมีการฉีดวัคซีนให้ก่อนตามมาตรฐาน ส่วนผู้สื่อข่าวที่เดินทางกลับมาก็ขอให้สังเกตอาการไข้เป็นหลักเช่นกัน หากมีอาการก็ให้พบแพทย์แล้วแจ้งประวัติการเดินทาง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (5 พ.ค.) นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว (วอร์รูม) ที่ประเทศเนปาล ว่า ได้รับรายงานจากทีมแพทย์ไทยที่ตั้งโรงพยาบาลสนามประจำอยู่ ต.ซิปปะกัต อ.สินธุ ปาโชค ว่า ผู้ป่วยมีจำนวนน้อยลง ทั้งที่บาดเจ็บและไม่บาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ไทยยังคงดำเนินตามภารกิจเดิมทั้ง 4 ด้านอยู่ คือ 1. การให้บริการทางการแพทย์ 2. การให้บริการสาธารณสุขเชิงรุก ทั้งการควบคุมโรค อนามัยสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม และสุขภาพจิต 3. การสร้างระบบสุขภาพชุมชนร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อพัฒนาหน่วยบริการและกำลังคนให้เข้มแข็ง และ 4. การถอดบทเรียนข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย นอกจากนี้ สธ. เนปาล และองค์การอนามัยโลกที่ตั้งศูนย์อยู่ที่กรุงกาฐมาณฑุ ยังเพิ่มอีก 1 ภารกิจให้ทีมแพทย์ไทย คือ เป็นศูนย์ประสานทีมแพทย์นานาชาติที่เข้ามายังพื้นที่ ซิปปะกัต เพราะเป็นปากทางในการขึ้นเทือกเขาหิมาลัย
นพ.วชิระ กล่าวว่า สำหรับทีมแพทย์ชุดที่สอง ขณะนี้ได้รายชื่อแล้ว 24 คน จะจัดพิธีปฐมนิเทศเพื่อเตรียมความพร้อมในวันที่ 6 พ.ค. เวลา 10.00 น. และจะเดินทางไปกรุงกาฐมาณฑุในวันที่ 7 พ.ค. ด้วยเครื่องบินของการบินไทย เวลา 10.00 น. และไปรับมอบภารกิจต่อจากทีมแพทย์ชุดแรกที่ ต.ซิปปะกัต ทันที โดยทีมแพทย์ชุดแรกทั้ง 19 คน หลังจากส่งต่อภารกิจแล้ว จะเดินทางออกจากพื้นที่ในวันที่ 8 พ.ค. โดยมาพักที่กรุงกาฐมาณฑุก่อน จากนั้นจึงเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 9 พ.ค. ส่วนการเปิดทีมใหม่ในการขยายพื้นที่ไปยังพาชคาลนั้นยังไม่สามารถกำหนดเวลาได้ เพราะรัฐบาลเนปาลยังต้องการให้ทีมแพทย์ไทยดูแลอยู่ในพื้นที่เดิมไปก่อน อย่างไรก็ตาม จะยังมีการประสานกันอย่างต่อเนื่องว่าจะเพิ่มภารกิจใดๆ ให้กับไทยอีกบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีทางการเนปาลขอให้ทีมแพทย์นานาชาติงดส่งทีมช่วยเหลือ นพ.วชิระ กล่าวว่า สาเหตุดังกล่าวเพราะขณะนี้ทีมแพทย์นานาชาติที่มาตั้งโรงพยาบาลสนามมีเป็นจำนวนมากแล้วถึง 58 แคมป์ น่าจะเพียงพอ ทั้งนี้ หากมีภารกิจเพิ่มเติมที่จะมอบหมายก็จะมีการประสานมอบหมายให้ สำหรับทีมที่อยากให้กลับคือทีมกู้ชีพกู้ภัย
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ที่เนปาลยังไม่มีโรคใดระบาดเป็นพิเศษ ดังนั้น ในการเฝ้าระวังทีมแพทย์ไทยที่เดินทางกลับมาก็จะเน้นในเรื่องของอาการไข้ โรคติดต่อนำโดยแมลง หรือโรคในระบบทางเดินอาหาร สำหรับก่อนเดินทางไปกรมฯ จะมีการฉีดวัคซีนให้ก่อนตามมาตรฐาน ส่วนผู้สื่อข่าวที่เดินทางกลับมาก็ขอให้สังเกตอาการไข้เป็นหลักเช่นกัน หากมีอาการก็ให้พบแพทย์แล้วแจ้งประวัติการเดินทาง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่