xs
xsm
sm
md
lg

พบเพิ่ม100ศพ ใต้กองหิมะ ไทยบริจาคพุ่ง111ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำรวจเนปาลและอาสาสมัครพบร่างผู้เสียชีวิตอีก 100 รายใต้กองหิมะที่ถมทับหมู่บ้านนักเดินป่า “ลังตัง “ ขณะที่เอกอัครราชทูตเมืองลุงแซมคุยเครื่องบินขนส่งอเมริกันที่เพิ่งเดินทางถึง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง “ฉับพลันทันที” ด้านรัฐมนตรีสารสนเทศของเนปาลออกมาพูดใหม่ว่า ต้องการความช่วยเหลือนานาชาติอย่างมหาศาล และยินดีให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างชาติอยู่ในเนปาลนานเท่าที่ปรารถนา รองโฆษกฯเผยยอดบริจาคเข้าบัญชี “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” ธนาคารกรุงไทย รวมทั้งสิ้น 111.8 ล้าน ไม่นับรวมสิ่งของบริจาคที่ ร 1 รอ. และ ราบ 11 อีก สั่งกองทัพไทย-3 เหล่าทัพหาทางลำเลียงสิ่งของโดยเร็ว เล็งศึกษาเส้นทางเรือหลังพบต้นทุนขนทางเครื่องบินพุ่ง-สนามบินกาฐมาณฑุแน่น ไทยเตรียมส่งทีมแพทย์อีก 2 ชุด ช่วยเหยื่อแผ่นดินไหวเนปาล วันที่ 7 พ.ค.นี้ กต.เผยองค์การอนามัยโลกชมทีมแพทย์ไทยช่วยเหลือทันท่วงที ระบุยอดคนตายจากเหตุแผ่นดินไหวในเนปาลพุ่งถึง 7,056 คน คนไทยขอส่งลูกขึ้นเครื่องบิน ทอ.กลับไทย 3 คน

ทางการเนปาลเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (4 พ.ค.) ว่า ขุดพบร่างผู้เสียชีวิตราว 100 ศพในหมู่บ้านลังตังในวันเสาร์และวันอาทิตย์ (2-3) โดยหมู่บ้านดังกล่าวห่างจากกาฐมาณฑุทางเหนือ 60 กิโลเมตร และเป็นเส้นทางเดินเขายอดนิยมของชาวตะวันตก ซึ่งถูกหิมะถล่มฝังมิดทั้งหมู่บ้าน รวมถึงเกสต์เฮาส์ทั้ง 55 หลัง

ในจำนวนผู้เสียชีวิตเหล่านี้เป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 7 ราย ทว่า สามารถระบุตัวตนได้เพียง 2 ราย นอกจากนั้น ยังไม่รู้แน่ชัดว่า มีคนอยู่ในหมู่บ้านมากน้อยเพียงใดขณะเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่บางคนระบุว่า อาจยังมีร่างผู้เสียชีวิตฝังอยู่ใต้หิมะประมาณ 120 รายหรือมากกว่านั้น

รัฐบาลเนปาลแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 25 เมษายน ล่าสุดเพิ่มเป็น 7,276 ราย บาดเจ็บกว่า 14,300 คน

มิเรนทรา ไรจาล รัฐมนตรีสารสนเทศเนปาล แถลงในวันเดียวกันว่า ในอีก 2-3 สัปดาห์ รัฐบาลจะต้องมีแผนฟื้นฟูประเทศที่เป็นรูปธรรม ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณมหาศาล จึงอยากเรียกร้องให้นานาชาติให้การสนับสนุนเนปาลในเรื่องนี้ด้วย

รัฐมนตรีเนปาลสำทับว่า เนปาลยินดีต้อนรับและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างชาติสามารถอยู่ในเนปาลนานเท่าที่ต้องการ คำพูดของเขาเปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามจากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งให้สัมภาษณ์ว่า เนปาลไม่ต้องการปฏิบัติการกู้ภัยจากต่างชาติอีกต่อไป และต้องการให้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นเดินทางกลับประเทศ

ทั้งนี้ นับจากเนปาลประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปีเมื่อปลายเดือนที่แล้ว มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยและบรรเทาทุกข์ 4,050 คนจาก 34 ประเทศเดินทางไปให้การช่วยเหลือ

ล่าสุดคือ ทหารอเมริกัน 100-120 คนที่เดินทางไปพร้อมกับเครื่องบิน 8 ลำเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งรวมถึงเครื่องฮิวอี้, ซี-17 และออสเปรย์ และคาดว่า ฮิวอี้จะเริ่มปฏิบัติภารกิจประเมินสถานการณ์เพื่อวางแผนการช่วยเหลือตั้งแต่เช้าวันจันทร์

ปีเตอร์ ดับเบิลยู. บ็อดดี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงกาฐมาณฑุ ให้สัมภาษณ์หลังจากทีมบรรเทาทุกข์ของอเมริกาเดินทางถึงเนปาลว่า เครื่องบินขนส่งสหรัฐฯ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทันทีทันใดในความพยายามช่วยเหลือเพื่อนำปฏิบัติการกู้ภัยและสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปแจกจ่ายในพื้นที่ห่างไกลของเนปาล

เจ้าหน้าที่เนปาลผู้หนึ่งเสริมว่า เครื่องบินอเมริกันอาจช่วยนำประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยด้วย

ขณะเดียวกัน องค์การพัฒนาเอกชน แฮนดิแคป อินเตอร์เนชันแนลรายงานว่า คนไข้ 12% หรือราว 3,000 คนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 4 แห่งในกาฐมาณฑุ แวลลีย์ มีอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง นอกจากนี้ยังมีคนไข้ที่จำเป็นต้องตัดอวัยวะทิ้งเพิ่มขึ้นและคาดว่า จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อนึ่ง วันอาทิตย์ที่ผ่านมา บริษัทที่บริหารจัดการการปีนเขาประกาศระงับเทศกาลปีนเขาเอเวอเรสต์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หลังจากเหตุหิมะถล่มหลังแผ่นดินไหวทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และนับจากนั้นได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกและการสั่นไหวตามมาไม่หยุดหย่อน

ยอดบริจาค “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล”พุ่ง111ล.

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มียอดเงินบริจาคผ่านสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ชื่อบัญชี "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล" ธนาคารกรุงไทย สาขา ทำเนียบรัฐบาล หมายเลขบัญชี 067-0-10330-6 นับสิ้นสุดเวลา 16.00 ของวันที่ 3 พ.ค. ได้รวมทั้งสิ้น111,887,641.25 บาท

นอกจากนี้ มีรายการสิ่งของจำเป็นพี่น้องประชาชน และบริษัทห้างร้าน นำไปมอบไว้ที่กรมทหารราบที่ 1 วิภาวดี และ กรมทาหารราบที่ 11 บางเขน อีกเป็นจำนวนมาก ขณะที่รัฐบาลโดยกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ กำลังบริหารจัดการการลำเลียงสิ่งของบริจาค ทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว โดยจัดตามลำดับความสำคัญ

อย่างไรก็ตาม พบว่าการขนส่งสิ่งของปริมาณมากมีความยากลำบากพอสมควร เนื่องจากมีต้นทุนค่าเชื้อเพลิง และที่สำคัญสนามบินกาฎมาณฑุ และเมืองใกล้เคียง มีความคับคั่งมาก การลงจอดและขนถ่ายสิ่งของเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้บัญชาให้กองทัพเรือ ศึกษาเส้นทาง และท่าเรือ สำหรับลำเลียงสิ่งของเข้าสู่เขตพื้นที่ภัยพิบัติโดยเร่งด่วน เพราะเป็นการขนส่งที่มีระวางบรรทุกได้จำนวนมาก

อย่าลืมคนที่เดือดร้อนในประเทศ

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ผมไม่อยากให้พวกเราไม่ลืมอยู่อย่างหนึ่งว่า ตอนนี้มีความเดือดร้อนของประชาชนในประเทศ ที่ประสบภัยพิบัติ พายุฤดูร้อน โดยผมได้สั่งการให้ผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ให้เร่งช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ให้ประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนดีๆ ก็ขอให้ช่วยรับทราบกันด้วย ว่าทุกส่วนราชการทำ แต่ถ้าใครก็ตาม แม้กระทั่งส่วนราชการเอง ที่ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดี ก็จะต้องถูกทำโทษอย่างชัดเจน และจริงจัง

ไทยเตรียมส่งทีมแพทย์อีก 2 ชุด

วานนี้ (4 พ.ค.) นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว (วอร์รูม) เนปาล ว่า ที่ประชุมได้รับการประสานจากทีมแพทย์ไทยหรือทีมเมิร์ทที่เนปาลว่า สธ.เนปาลจะให้ทีมแพทย์ไทยขยายความช่วยเหลือไปยังบริเวณเมืองพาชคาล (Pachkhal) ซึ่งมีจำนวนครอบครัวกว่า 1,500 หลังคาเรือน โดยอยู่ห่างจาก ต.ซิปากัตไปประมาณ 14 กิโลเมตร พบว่า บ้านเรืองพังเสียหายเป็นจำนวนมาก และยังมีผู้บาดเจ็บ ผู้สูญหาย โดยที่บริการด้านการแพทย์ยังคงเข้าไปไม่ถึง ทั้งนี้ วอร์รูมมีข้อสรุปว่าจะส่งทีมแพทย์ชุดปฏิบัติการของไทยไปช่วยเหลืออีก 2 ชุด ชุดละประมาณ 20 คน รวมเป็น 40 คน คือ 1.ทีมแพทย์ชุดปฏิบัติการที่พาสคาล ประกอบด้วย ทีมจาก รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รพ.ภูเก็ต กรมการแพทย์ และโรงพยาบาลในภูมิภาคสังกัด สป.สธ.

นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า และ 2.ทีมแพทย์ชุดปฏิบัติการที่ซิปากัต ซึ่งเป็นทีมที่สองที่จะเดินทางไปผลัดเปลี่ยนกับทีมแพทย์ชุดแรก ประกอบด้วยทีมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รพ.ศิริราช กรมการแพทย์ สป.สธ. ซึ่งทั้งสองทีมจะมีอาจารย์จากคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล ตัวแทนจากกรมสุขภาพจิต และกรมควบคุมโรคร่วมด้วย เพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม สุขภาพจิตและโรคติดต่อในเชิงรุก โดยทั้งหมดจะเดินทางในวันที่ 7 พ.ค.นี้ โดยจะมีการปฐมนิเทศในวันที่ 6 พ.ค. ส่วนการเดินทางยังต้องรอการประสานว่าจะเดินทางโดยสายการบินไทย หรือเครื่องบินของกองทัพอากาศ ส่วนทีมแพทย์ชุดแรกมีกำหนดการเดินทางกลับในวันที่ 9 พ.ค. เพื่อรอการถ่ายงานให้กับทีมแพทย์ชุดต่อไปก่อน

"ขณะนี้นับเป็นเวลา 10 วันแล้วหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว มีผู้เสียชีวิตทะลุ 7,000 ราย บาดเจ็บเกินกว่า 10,000 คน ซึ่งการบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวลดลง แต่พบโรคภัยไข้เจ็บมากขึ้น ดังนั้น ทีมแพทย์ฉุกเฉินจะลดลง โดยจะส่งอายุรแพทย์ แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป และแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวไปให้ความช่วยเหลือมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายในการให้ความช่วยเหลือคือ 1.สร้างการมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและชุมชนให้ร่วมดูแลสุขาภิบาล อนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บตามมา 2.ป้องกันภาวะความเครียดของผู้คนจากความสูญเสีย 3.ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานและถ่ายงานคืนให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ 4.พยายามสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน" นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ ได้ให้กรมควบคุมโรคเตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และไข้สมองอักเสบ ฉีดให้แก่ทีมแพทย์ที่กำลังจะเดินทางไปเนปาล และให้เฝ้าระวังทีมแพทย์ที่จะเดินทางกลับมาเป็นเวลา 30 วัน ส่วนกลุ่มผู้สื่อข่าวที่เดินทางไป จะทำคู่มือในการเฝ้าระวังตนเองจากโรคภัยไข้เจ็บมอบให้กับสมาคมผู้สื่อข่าว ส่วนกรมอนามัยได้ให้เตรียมเครื่องกรองน้ำสนามเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งไปพร้อมกับทีมแพทย์ชุดที่สอง"

วานนี้ (4พ.ค.) นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า พัฒนาการล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว และการช่วยเหลือคนไทยในประเทศเนปาลนั้น ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตในเนปาลอย่างเป็นทางการ 7,056 คน ผู้บาดเจ็บ 14,123 คน มีบ้านเรือนที่พังทลาย 142,388 หลัง และบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย 155,884 หลัง ส่วนคนไทยที่พำนักอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล มี 3 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ และครอบครัว รวมมีจำนวน 11 คน ทั้งนี้กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบิน ซี-130 จำนวน 2 ลำ ซึ่งบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานกองทัพอากาศ ไปยังเนปาล เมื่อเวลา 04.36 น. และ 04.54 น. และขณะนี้มีคนไทยที่พำนักในเนปาล แสดงความประสงค์จะส่งบุตรจำนวน 3 คน เดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศกลับสู่ประเทศไทย

นายเสข กล่าวอีกว่า สำหรับปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือเนปาลนั้น หน่วยชุดบัญชาการกองทัพไทย ได้ลงพื้นที่และให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยที่เมืองโตกา โดยได้ให้การรักษาชาวเนปาล 173 คน และหน่วยแพทย์ทหารที่ไปตั้งศูนย์ที่สินธุปาลโจก และสินธุโกต ได้ให้บริการรักษาผู้ป่วย 420 ราย ขณะที่ทีมแพทย์เดินเท้าได้ออกปฏิบัติงานในหมู่บ้านชุมชนบนเขา พร้อมกับตรวจคัดกรองสุขภาพจิต ควบคุมป้องกันโรค และดูแลระบบสุขาภิบาลอาหารและน้ำ

นอกจากนี้ทีมแพทย์ไทยยังได้ร่วมประชุมกับกระทรวงสาธารณสุขเนปาล และศูนย์ส่วนหน้าขององค์การอนามัยโลก ซึ่งองค์การอนามัยโลกแสดงความชื่นชมการทำงานของทีมแพทย์ไทย และขอบคุณรัฐบาลไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินงานด้านสาธารณสุข เช่น การคัดกรองสุขภาพจิตประชาชน ทำให้สามารถค้นหาผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพในระยะแรก และให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที
กำลังโหลดความคิดเห็น