นายเสข วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในเนปาลอย่างเป็นทางการ 7,056 ราย บาดเจ็บ 14,123 คน บ้านเรือนพังทลาย 142,388 หลัง บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย 155,884 หลัง จำนวนคนไทยที่พำนักอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ 3 คน เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตฯ และครอบครัว อีก 11 คน
ขณะที่เช้าวันนี้ (4 พ.ค.) กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบิน C-130 จำนวน 2 ลำไปประเทศเนปาล พร้อมนำสิ่งของไปช่วยเหลือเนปาล อาทิ ผ้ายาง แผ่นปูรองนอน ผ้าห่ม อุปกรณ์ผลิตน้ำสะอาด และสิ่งของพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และขณะนี้มีคนไทยที่มีแหล่งพำนักในเนปาลแสดงความประสงค์จะส่งบุตรกลับประเทศไทย 3 คน พร้อมกับเครื่องบิน C-130 ที่เดินทางไปเนปาล
สำหรับการให้ความช่วยเหลือเนปาลในส่วนของไทย ประกอบด้วย หน่วยชุดบัญชาการกองทัพไทยได้ลงพื้นที่และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เมืองโตกา ซึ่งห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 5 กิโลเมตร โดยได้ให้การรักษาประชาชนเนปาล 173 คน และหน่วยแพทย์ทหารที่ไปตั้งศูนย์ที่สินธุปาลโชค และสินธุโกต ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุประมาณ 40 กิโลเมตร โดยระหว่างวันที่ 30 เมษายน-2 พฤษภาคม ได้ให้บริการรักษาผู้ป่วย 420 คน และได้ประสานงานกับโรงพยาบาลประจำเมืองสินธุปาลโชค เพื่อวางระบบการสนับสนับสนุนและการส่งผู้ป่วยจากโรงพยาบาลสนามไปดูแลรักษาต่อไป
ส่วนทีมแพทย์เดินเท้าได้ออกปฏิบัติงานในหมู่บ้านชุมชนบนเขา 10 หมู่บ้าน ซึ่งมีประชากรประมาณ 800 คน โดยได้ตรวจคัดกรองสุขภาพจิต ควบคุมป้องกันโรค และดูแลระบบสุขาภิบาลอาหารและน้ำ
นอกจากนี้ ทีมแพทย์ไทยร่วมประชุมกับกระทรวงสาธารณสุขเนปาล และศูนย์ส่วนหน้าขององค์การอนามัยโลก โดยองค์การอนามัยโลกแสดงความชื่นชมการทำงานของทีมแพทย์ไทยและขอบคุณรัฐบาลไทย โดยเฉพาะการดำเนินงานด้านสาธารณสุข เช่น การคัดกรองสุขภาพจิตประชาชน ทำให้พบผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพในระยะแรก และให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที
ขณะที่เช้าวันนี้ (4 พ.ค.) กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบิน C-130 จำนวน 2 ลำไปประเทศเนปาล พร้อมนำสิ่งของไปช่วยเหลือเนปาล อาทิ ผ้ายาง แผ่นปูรองนอน ผ้าห่ม อุปกรณ์ผลิตน้ำสะอาด และสิ่งของพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และขณะนี้มีคนไทยที่มีแหล่งพำนักในเนปาลแสดงความประสงค์จะส่งบุตรกลับประเทศไทย 3 คน พร้อมกับเครื่องบิน C-130 ที่เดินทางไปเนปาล
สำหรับการให้ความช่วยเหลือเนปาลในส่วนของไทย ประกอบด้วย หน่วยชุดบัญชาการกองทัพไทยได้ลงพื้นที่และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เมืองโตกา ซึ่งห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 5 กิโลเมตร โดยได้ให้การรักษาประชาชนเนปาล 173 คน และหน่วยแพทย์ทหารที่ไปตั้งศูนย์ที่สินธุปาลโชค และสินธุโกต ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุประมาณ 40 กิโลเมตร โดยระหว่างวันที่ 30 เมษายน-2 พฤษภาคม ได้ให้บริการรักษาผู้ป่วย 420 คน และได้ประสานงานกับโรงพยาบาลประจำเมืองสินธุปาลโชค เพื่อวางระบบการสนับสนับสนุนและการส่งผู้ป่วยจากโรงพยาบาลสนามไปดูแลรักษาต่อไป
ส่วนทีมแพทย์เดินเท้าได้ออกปฏิบัติงานในหมู่บ้านชุมชนบนเขา 10 หมู่บ้าน ซึ่งมีประชากรประมาณ 800 คน โดยได้ตรวจคัดกรองสุขภาพจิต ควบคุมป้องกันโรค และดูแลระบบสุขาภิบาลอาหารและน้ำ
นอกจากนี้ ทีมแพทย์ไทยร่วมประชุมกับกระทรวงสาธารณสุขเนปาล และศูนย์ส่วนหน้าขององค์การอนามัยโลก โดยองค์การอนามัยโลกแสดงความชื่นชมการทำงานของทีมแพทย์ไทยและขอบคุณรัฐบาลไทย โดยเฉพาะการดำเนินงานด้านสาธารณสุข เช่น การคัดกรองสุขภาพจิตประชาชน ทำให้พบผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพในระยะแรก และให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที