วานนี้ (3 พ.ค.) กระทรวงการต่างประเทศแถลงเหตุแผ่นดินไหวและการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล ฉบับที่ 10 โดยระบุว่า
กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งข้อมูลและพัฒนาการล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวและการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล ดังนี้
๑. ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการกว่า ๖,๒๕๐ คน บาดเจ็บ ๑๔,๓๕๗ คน จำนวนบ้านเรือนพังทลาย ๑๖๐,๗๘๖ หลัง จำนวนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ๑๔๓,๖๗๓ หลัง
๒. จำนวนคนไทยที่พำนักอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ ยังไม่เปลี่ยนแปลงจากการรายงานเดิม คือ ๘ คน เจ้าหน้าที่และครอบครัวของสถานเอกอัครราชทูตฯ อีก ๑๑ คน
๓. ขณะนี้ไม่มีคนไทยแจ้งขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี สถานเอกอัครราชทูตไทยยังคงเปิดศูนย์ช่วยเหลือที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทยในกรุงกาฐมาณฑุต่อไป
๔. ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติในเนปาล ได้มีการประชุมทางไกลผ่านวีดีโอ (videoconference) กับศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เป็นประจำวันทุกวันเพื่อติดตามและประเมินการดำเนินการของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง
๕. การปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือเนปาลในส่วนของไทย
๕.๑ หน่วยชุดบัญชาการกองทัพไทยได้ร่วมกับทีมเนปาล ญี่ปุ่นและเม็กซิโก ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ๑๐ กิโลเมตร ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่พบผู้รอดชีวิตหรือบาดเจ็บเพิ่มเติม
๕.๒ หน่วยแพทย์ทหารที่ไปตั้งที่สินธุปาลโจก และสินธุโกต ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ประมาณ ๔๐กิโลเมตร ได้ทำการรักษาพยาบาลจำนวน ๑๘๑ คน นอกจากนี้ ได้จัดชุดแพทย์เผชิญเหตุบริการทางการแพทย์ให้กับผู้ประสบภัยในศูนย์อพยพและพื้นที่ต่างๆ ทั้งนี้ ทีมแพทย์ไทยเป็นชาติแรกที่เข้าไปในพื้นที่ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางไป- กลับ กว่า ๙ ชั่วโมง และได้มอบยาและเวชภัณฑ์ให้กับผู้นำหมู่บ้านด้วย
๕.๓ หน่วยแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งเต็นท์หน่วยแพทย์ขนาดใหญ่ทั้งหมด ๒ หลังอยู่บริเวณเชิงสะพานแม่น้ำอินทรปตี ตำบลซิปปะกัต จังหวัดสินธุปาลโจก ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ประมาณ ๖๐ กิโลเมตร ซึ่งมีบ้านเรือนกระจายเป็นหย่อมๆ และได้รับความเสียหายถึงร้อยละ ๙๐ โดยมีแพทย์และล่ามอาสาสมัครจากประเทศเนปาลและศรีลังกามาร่วมปฏิบัติงาน มีผู้ป่วยมารับการรักษากว่า ๑๗๐ ราย ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว ประมาณ ๘๐ กว่าราย รองลงมาเป็นโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย และโรคระบบทางเดินหายใจ
๕.๔ วานนี้ ทีมแพทยสภาประกอบด้วยแพทย์ ๔ คนคณะของมหาเถรสมาคม นำโดยพระเทพโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล เดินทางถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งทีมแพทยสภาจะตั้งฐานช่วยเหลือโดยเน้นการช่วยในระยะปานกลาง
๖. กองทัพอากาศจะส่งเครื่องบิน C-130 ๒ ลำ ที่เดินทางมาประเทศเนปาล ในวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ คาดว่าจะเดินทางออกจากสนามบินกองทัพอากาศในช่วงเวลาเช้าตรู่ โดยจะนำสิ่งของช่วยเหลือเนปาลเพิ่มเติม อาทิ เต็นท์ ผ้าพลาสติกปูนอนขนาดใหญ่ น้ำดื่ม อุปกรณ์ผลิตน้ำดื่ม รวมทั้งสิ่งของพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกด้วย
๗. เงินบริจาคเข้าบัญชี "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล" ณ เวลา ๑๖.๐๐ น. (๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘) จำนวน ๑๐๖,๗๔๗,๑๒๖.๓๙ บาท
กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งข้อมูลและพัฒนาการล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวและการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล ดังนี้
๑. ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการกว่า ๖,๒๕๐ คน บาดเจ็บ ๑๔,๓๕๗ คน จำนวนบ้านเรือนพังทลาย ๑๖๐,๗๘๖ หลัง จำนวนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ๑๔๓,๖๗๓ หลัง
๒. จำนวนคนไทยที่พำนักอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ ยังไม่เปลี่ยนแปลงจากการรายงานเดิม คือ ๘ คน เจ้าหน้าที่และครอบครัวของสถานเอกอัครราชทูตฯ อีก ๑๑ คน
๓. ขณะนี้ไม่มีคนไทยแจ้งขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี สถานเอกอัครราชทูตไทยยังคงเปิดศูนย์ช่วยเหลือที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทยในกรุงกาฐมาณฑุต่อไป
๔. ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติในเนปาล ได้มีการประชุมทางไกลผ่านวีดีโอ (videoconference) กับศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เป็นประจำวันทุกวันเพื่อติดตามและประเมินการดำเนินการของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง
๕. การปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือเนปาลในส่วนของไทย
๕.๑ หน่วยชุดบัญชาการกองทัพไทยได้ร่วมกับทีมเนปาล ญี่ปุ่นและเม็กซิโก ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ๑๐ กิโลเมตร ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่พบผู้รอดชีวิตหรือบาดเจ็บเพิ่มเติม
๕.๒ หน่วยแพทย์ทหารที่ไปตั้งที่สินธุปาลโจก และสินธุโกต ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ประมาณ ๔๐กิโลเมตร ได้ทำการรักษาพยาบาลจำนวน ๑๘๑ คน นอกจากนี้ ได้จัดชุดแพทย์เผชิญเหตุบริการทางการแพทย์ให้กับผู้ประสบภัยในศูนย์อพยพและพื้นที่ต่างๆ ทั้งนี้ ทีมแพทย์ไทยเป็นชาติแรกที่เข้าไปในพื้นที่ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางไป- กลับ กว่า ๙ ชั่วโมง และได้มอบยาและเวชภัณฑ์ให้กับผู้นำหมู่บ้านด้วย
๕.๓ หน่วยแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งเต็นท์หน่วยแพทย์ขนาดใหญ่ทั้งหมด ๒ หลังอยู่บริเวณเชิงสะพานแม่น้ำอินทรปตี ตำบลซิปปะกัต จังหวัดสินธุปาลโจก ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ประมาณ ๖๐ กิโลเมตร ซึ่งมีบ้านเรือนกระจายเป็นหย่อมๆ และได้รับความเสียหายถึงร้อยละ ๙๐ โดยมีแพทย์และล่ามอาสาสมัครจากประเทศเนปาลและศรีลังกามาร่วมปฏิบัติงาน มีผู้ป่วยมารับการรักษากว่า ๑๗๐ ราย ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว ประมาณ ๘๐ กว่าราย รองลงมาเป็นโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย และโรคระบบทางเดินหายใจ
๕.๔ วานนี้ ทีมแพทยสภาประกอบด้วยแพทย์ ๔ คนคณะของมหาเถรสมาคม นำโดยพระเทพโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล เดินทางถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งทีมแพทยสภาจะตั้งฐานช่วยเหลือโดยเน้นการช่วยในระยะปานกลาง
๖. กองทัพอากาศจะส่งเครื่องบิน C-130 ๒ ลำ ที่เดินทางมาประเทศเนปาล ในวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ คาดว่าจะเดินทางออกจากสนามบินกองทัพอากาศในช่วงเวลาเช้าตรู่ โดยจะนำสิ่งของช่วยเหลือเนปาลเพิ่มเติม อาทิ เต็นท์ ผ้าพลาสติกปูนอนขนาดใหญ่ น้ำดื่ม อุปกรณ์ผลิตน้ำดื่ม รวมทั้งสิ่งของพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกด้วย
๗. เงินบริจาคเข้าบัญชี "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล" ณ เวลา ๑๖.๐๐ น. (๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘) จำนวน ๑๐๖,๗๔๗,๑๒๖.๓๙ บาท
