เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการรายวัน - เนปาลเผยทัพเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินสามารถจัดส่งความช่วยเหลือถึงมือผู้รอดชีวิตในถิ่นทุรกันดารได้แล้ว และสถานการณ์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติทีละน้อย ตัวเลขเหยื่อเพิ่มเป็น 7,557 ราย อังกฤษเตือนความเสี่ยงโรคระบาดรุนแรง ทั้งอหิวาต์ บิด และโรคที่แพร่กระจายทางน้ำอื่นๆ กำชับต้องหามาตรการรับมือโดยด่วนก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูฝนในเดือนหน้า ขณะที่เนปาลเบรกไทยขยายทีมช่วยเหลือไปพาชคาล เหตุอยากให้ดูแลพื้นที่ซิปปะกัตตามเดิมก่อน พร้อมมอบภารกิจเพิ่มเติมเป็นศูนย์ประสานทีมแพทย์นานาชาติที่จะขึ้นเขาหิมาลัยผ่านทางซิปปะกัต เผยทีมแพทย์ผลัดเปลี่ยนชุดสอง เตรียมเดินทาง 7 พ.ค.นี้
วานนี้ (5 พ.ค.) นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว (วอร์รูม) ที่ประเทศเนปาล ว่า ได้รับรายงานจากทีมแพทย์ไทยที่ตั้งโรงพยาบาลสนามประจำอยู่ ต.ซิปปะกัต อ.สินธุ ปาโชค ว่า ผู้ป่วยมีจำนวนน้อยลง ทั้งที่บาดเจ็บและไม่บาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ไทยยังคงดำเนินตามภารกิจเดิมทั้ง 4 ด้านอยู่ คือ 1.การให้บริการทางการแพทย์ 2.การให้บริการสาธารณสุขเชิงรุก ทั้งการควบคุมโรค อนามัยสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม และสุขภาพจิต 3.การสร้างระบบสุขภาพชุมชนร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อพัฒนาหน่วยบริการและกำลังคนให้เข้มแข็ง และ 4.การถอดบทเรียนข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย นอกจากนี้ สธ.เนปาลและองค์การอนามัยโลกที่ตั้งศูนย์อยู่ที่กรุงกาฐมาณฑุ ยังเพิ่มอีก 1 ภารกิจให้ทีมแพทย์ไทยคือ เป็นศูนย์ประสานทีมแพทย์นานาชาติที่เข้ามายังพื้นที่ ซิปปะกัต เพราะเป็นปากทางในการขึ้นเทือกเขาหิมาลัย
นพ.วชิระ กล่าวว่า สำหรับทีมแพทย์ชุดที่สอง ขณะนี้ได้รายชื่อแล้ว 24 คน จะจัดพิธีปฐมนิเทศเพื่อเตรียมความพร้อมในวันที่ 6 พ.ค. เวลา 10.00 น. และจะเดินทางไปกรุงกาฐมาณฑุในวันที่ 7 พ.ค. ด้วยเครื่องบินของการบินไทย เวลา 10.00 น. และไปรับมอบภารกิจต่อจากทีมแพทย์ชุดแรกที่ ต.ซิปปะกัตทันที โดยทีมแพทย์ชุดแรกทั้ง 19 คน หลังจากส่งต่อภารกิจแล้ว จะเดินทางออกจากพื้นที่ในวันที่ 8 พ.ค. โดยมาพักที่กรุงกาฐมาณฑุก่อน จากนั้นจึงเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 9 พ.ค. ส่วนการเปิดทีมใหม่ในการขยายพื้นที่ไปยังพาชคาลนั้นยังไม่สามารถกำหนดเวลาได้ เพราะรัฐบาลเนปาลยังต้องการให้ทีมแพทย์ไทยดูแลอยู่ในพื้นที่เดิมไปก่อน อย่างไรก็ตาม จะยังมีการประสานกันอย่างต่อเนื่องว่าจะเพิ่มภารกิจใดๆ ให้กับไทยอีกบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีทางการเนปาลขอให้ทีมแพทย์นานาชาติงดส่งทีมช่วยเหลือ นพ.วชิระ กล่าวว่า สาเหตุดังกล่าวเพราะขณะนี้ทีมแพทย์นานาชาติที่มาตั้งโรงพยาบาลสนามมีเป็นจำนวนมากแล้วถึง 58 แคมป์ น่าจะเพียงพอ ทั้งนี้ หากมีภารกิจเพิ่มเติมที่จะมอบหมายก็จะมีการประสานมอบหมายให้ สำหรับทีมที่อยากให้กลับคือทีมกู้ชีพกู้ภัย
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ที่เนปาลยังไม่มีโรคใดระบาดเป็นพิเศษ ดังนั้น ในการเฝ้าระวังทีมแพทย์ไทยที่เดินทางกลับมาก็จะเน้นในเรื่องของอาการไข้ โรคติดต่อนำโดยแมลง หรือโรคในระบบทางเดินอาหาร สำหรับก่อนเดินทางไปกรมฯ จะมีการฉีดวัคซีนให้ก่อนตามมาตรฐาน ส่วนผู้สื่อข่าวที่เดินทางกลับมาก็ขอให้สังเกตอาการไข้เป็นหลักเช่นกัน หากมีอาการก็ให้พบแพทย์แล้วแจ้งประวัติการเดินทาง
**สื่อสารมช.จับมือจังหวัดจัด"ฮอมน้ำใจ๋"
ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรม"ฮอมน้ำใจ๋"จากชาวเชียงใหม่สู่เนปาล"PRAY for NEPAL" ซึ่งสถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) ร่วมกับจังหวัด ภาครัฐและเอกชนในเชียงใหม่ จัดขึ้นเพื่อระดมเงินบริจาคส่งไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว
ทั้งนี้ นายชนะนำผู้ร่วมกิจกรรมยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต พร้อมมอบเสื้อและเข็มกลัดให้แก่นักศึกษาเนปาล ที่มาศึกษาอยู่ที่มช. เพื่อส่งกำลังใจไปให้ชาวเนปาล
ขณะที่กิจกรรมยในงานนอกจากตั้งกล่องรับบริจาค และจำหน่ายสินค้า เช่น เข็มกลัด เสื้อยืด ยังมีการประมูลของรักคนดัง ทั้งนักกีฬา และศิลปิน เช่น "น้องเมย์-รัชนก อินทนนท์" แชมป์หญิงเดี่ยวแบดมินตันเอเชีย 2015 และแชมป์โลกหญิงเดี่ยว "บัวขาว บัญชาเมฆ" นักมวยชื่อดัง และ"ฟอร์ด-สบชัย ไกรยูรเสน" นักร้อง ตลอดจนมีการเสวนา"ถอดบทเรียนวิกฤติแผ่นดินไหว"โดยนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว
นายชนะ กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดมีผู้ร่วมบริจาคเงินเแล้วกว่า 1 ล้านบาท และน่าจะมียอดเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะรวบรวมส่งมอบแก่กาชาดสากลต่อไป
**รำลึกครบรอบ1ปีแผ่นดินไหวเชียงราย
ฝ่ายปกครองและหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวใน จ.เชียงราย ร่วมกับเครือข่ายจัดการภัยพิบัติภาคประชาชน จ.เชียงราย จัดกิจกรรมเนื่องในวันครบรอบ 1 ปีเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 57 ขนาด 6.3 แมกนิจูด ศูนย์กลางอยู่ที่ต.ทรายขาว อ.พาน ส่งผลกระทบใน 7 อำเภอ บ้านเรือนเสียหาย 11,173 หลัง เสียหายทั้งหลัง 400 หลัง วัด 151 แห่ง โบสถ์คริสต์ 9 แห่ง โรงเรียน 123 แห่ง สถานบริการสาธารณสุข 44 แห่ง สาธารณประโยชน์ 12 แห่ง โรงงาน6 แห่ง สถานที่ราชการ 8 แห่ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 900 ล้านบาท
โดยกระทรวงมหาดไทย จ่ายเงินช่วยเหลือแล้วประมาณ 90 ล้านบาท ภาคเอกชนบริจาคประมาณ 200 ล้านบาท ปัจจุบันยังคงปรากฎร่องรอยของเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ โดยเฉพาะรอยแยกของแผ่นดินที่อ.แม่ลาว และอาคารสถานที่ต่างๆ
***เนปาลชี้สถานการณ์เริ่มกลับสู่ปกติ
รัฐบาลเนปาลแถลงเมื่อวันอังคาร (5พ.ค.) ว่า ขณะนี้ ทหารและตำรวจรวมกว่า 131,500 นาย ได้เข้าร่วมปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่ โดยได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ต่างชาติกว่า 100 ทีม
แม้รัฐบาลยอมรับว่า ตื่นตะลึงกับความเสียหายใหญ่หลวงจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน และมีเสียงร้องเรียนอึงมี่เรื่องความล่าช้าในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทว่า ในที่สุด กระทรวงมหาดไทยระบุว่า สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว และเริ่มกลับสู่ภาวะปกติทีละน้อย เนื่องจากสิ่งของบรรเทาทุกข์จัดส่งถึงมือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ขณะที่รัฐบาลระดมทรัพยากรทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่า ประชาชนจะได้รับความช่วยเหลือตราบเท่าที่ต้องการ
คำแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สำนักงานปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันจนถึงวันอังคารอยู่ที่ 7,557 ราย และบาดเจ็บ 14,536 คน
อย่างไรก็ดีแม้มีความคืบหน้าในการกระจายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ห่างไกล แต่ผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปี อาจจะยังไม่จบลงง่ายๆ
ทางด้าน “คณะกรรมการรับมือภัยพิบัติฉุกเฉิน” (ดิสแซสเตอร์ส อิเมอร์เจนซี คอมมิตตี หรือ ดีอีซี) ของอังกฤษ แถลงเตือนว่า การที่เหยื่อภัยพิบัติแผ่นดินไหวในเนปาลประสบปัญหาขาดแคลนที่พักอาศัย ต้องใช้น้ำที่ปนเปื้อน และเผชิญความลำบากในการรักษาสุขอนามัย อาจจะนำไปสู่การระบาดของโรคอหิวาต์ บิด และโรคที่ติดต่อทางน้ำอื่นๆ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการจัดการปัญหานี้โดยเร่งด่วน ก่อนที่ฤดูฝนจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายน
ดีอีซี ซึ่งเป็นองค์การที่เกิดจากการรวมตัวกันขององค์กรการกุศล 12 แห่ง เสริมว่า ในหลายๆ พื้นที่ ประชาชนกินอยู่และขับถ่ายในพื้นที่กลางแจ้ง ไม่มีห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะใช้
โฆษกของดีอีซีสำทับว่า ขณะนี้ มีรายงานการระบาดของโรคท้องร่วงและโรคติดเชื้อในปอดแล้ว
ปัจจุบัน สมาชิกของดีอีซี อาทิ ออกซ์แฟม กำลังดำเนินการเพื่อจัดหาที่พักอาศัยฉุกเฉินที่ดีขึ้น รวมถึงทำให้แน่ใจว่า น้ำดื่มและระบบสุขอนามัยเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการรับมือเหตุฉุกเฉินในเนปาล
จนถึงขณะนี้ ดีอีซีสามารถระดมเงินช่วยเหลือเนปาลได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้เป็นการสมทบของรัฐบาลอังกฤษ 7 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นลอนดอนยังรับปากจัดหาความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมอีก 27.5 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษเป็นผู้บริจาคความช่วยเหลือสูงสุดโดยมียอดรวมทั้งสิ้น 34.65 ล้านดอลลาร์.
วานนี้ (5 พ.ค.) นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว (วอร์รูม) ที่ประเทศเนปาล ว่า ได้รับรายงานจากทีมแพทย์ไทยที่ตั้งโรงพยาบาลสนามประจำอยู่ ต.ซิปปะกัต อ.สินธุ ปาโชค ว่า ผู้ป่วยมีจำนวนน้อยลง ทั้งที่บาดเจ็บและไม่บาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ไทยยังคงดำเนินตามภารกิจเดิมทั้ง 4 ด้านอยู่ คือ 1.การให้บริการทางการแพทย์ 2.การให้บริการสาธารณสุขเชิงรุก ทั้งการควบคุมโรค อนามัยสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม และสุขภาพจิต 3.การสร้างระบบสุขภาพชุมชนร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อพัฒนาหน่วยบริการและกำลังคนให้เข้มแข็ง และ 4.การถอดบทเรียนข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย นอกจากนี้ สธ.เนปาลและองค์การอนามัยโลกที่ตั้งศูนย์อยู่ที่กรุงกาฐมาณฑุ ยังเพิ่มอีก 1 ภารกิจให้ทีมแพทย์ไทยคือ เป็นศูนย์ประสานทีมแพทย์นานาชาติที่เข้ามายังพื้นที่ ซิปปะกัต เพราะเป็นปากทางในการขึ้นเทือกเขาหิมาลัย
นพ.วชิระ กล่าวว่า สำหรับทีมแพทย์ชุดที่สอง ขณะนี้ได้รายชื่อแล้ว 24 คน จะจัดพิธีปฐมนิเทศเพื่อเตรียมความพร้อมในวันที่ 6 พ.ค. เวลา 10.00 น. และจะเดินทางไปกรุงกาฐมาณฑุในวันที่ 7 พ.ค. ด้วยเครื่องบินของการบินไทย เวลา 10.00 น. และไปรับมอบภารกิจต่อจากทีมแพทย์ชุดแรกที่ ต.ซิปปะกัตทันที โดยทีมแพทย์ชุดแรกทั้ง 19 คน หลังจากส่งต่อภารกิจแล้ว จะเดินทางออกจากพื้นที่ในวันที่ 8 พ.ค. โดยมาพักที่กรุงกาฐมาณฑุก่อน จากนั้นจึงเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 9 พ.ค. ส่วนการเปิดทีมใหม่ในการขยายพื้นที่ไปยังพาชคาลนั้นยังไม่สามารถกำหนดเวลาได้ เพราะรัฐบาลเนปาลยังต้องการให้ทีมแพทย์ไทยดูแลอยู่ในพื้นที่เดิมไปก่อน อย่างไรก็ตาม จะยังมีการประสานกันอย่างต่อเนื่องว่าจะเพิ่มภารกิจใดๆ ให้กับไทยอีกบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีทางการเนปาลขอให้ทีมแพทย์นานาชาติงดส่งทีมช่วยเหลือ นพ.วชิระ กล่าวว่า สาเหตุดังกล่าวเพราะขณะนี้ทีมแพทย์นานาชาติที่มาตั้งโรงพยาบาลสนามมีเป็นจำนวนมากแล้วถึง 58 แคมป์ น่าจะเพียงพอ ทั้งนี้ หากมีภารกิจเพิ่มเติมที่จะมอบหมายก็จะมีการประสานมอบหมายให้ สำหรับทีมที่อยากให้กลับคือทีมกู้ชีพกู้ภัย
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ที่เนปาลยังไม่มีโรคใดระบาดเป็นพิเศษ ดังนั้น ในการเฝ้าระวังทีมแพทย์ไทยที่เดินทางกลับมาก็จะเน้นในเรื่องของอาการไข้ โรคติดต่อนำโดยแมลง หรือโรคในระบบทางเดินอาหาร สำหรับก่อนเดินทางไปกรมฯ จะมีการฉีดวัคซีนให้ก่อนตามมาตรฐาน ส่วนผู้สื่อข่าวที่เดินทางกลับมาก็ขอให้สังเกตอาการไข้เป็นหลักเช่นกัน หากมีอาการก็ให้พบแพทย์แล้วแจ้งประวัติการเดินทาง
**สื่อสารมช.จับมือจังหวัดจัด"ฮอมน้ำใจ๋"
ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรม"ฮอมน้ำใจ๋"จากชาวเชียงใหม่สู่เนปาล"PRAY for NEPAL" ซึ่งสถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) ร่วมกับจังหวัด ภาครัฐและเอกชนในเชียงใหม่ จัดขึ้นเพื่อระดมเงินบริจาคส่งไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว
ทั้งนี้ นายชนะนำผู้ร่วมกิจกรรมยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต พร้อมมอบเสื้อและเข็มกลัดให้แก่นักศึกษาเนปาล ที่มาศึกษาอยู่ที่มช. เพื่อส่งกำลังใจไปให้ชาวเนปาล
ขณะที่กิจกรรมยในงานนอกจากตั้งกล่องรับบริจาค และจำหน่ายสินค้า เช่น เข็มกลัด เสื้อยืด ยังมีการประมูลของรักคนดัง ทั้งนักกีฬา และศิลปิน เช่น "น้องเมย์-รัชนก อินทนนท์" แชมป์หญิงเดี่ยวแบดมินตันเอเชีย 2015 และแชมป์โลกหญิงเดี่ยว "บัวขาว บัญชาเมฆ" นักมวยชื่อดัง และ"ฟอร์ด-สบชัย ไกรยูรเสน" นักร้อง ตลอดจนมีการเสวนา"ถอดบทเรียนวิกฤติแผ่นดินไหว"โดยนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว
นายชนะ กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดมีผู้ร่วมบริจาคเงินเแล้วกว่า 1 ล้านบาท และน่าจะมียอดเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะรวบรวมส่งมอบแก่กาชาดสากลต่อไป
**รำลึกครบรอบ1ปีแผ่นดินไหวเชียงราย
ฝ่ายปกครองและหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวใน จ.เชียงราย ร่วมกับเครือข่ายจัดการภัยพิบัติภาคประชาชน จ.เชียงราย จัดกิจกรรมเนื่องในวันครบรอบ 1 ปีเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 57 ขนาด 6.3 แมกนิจูด ศูนย์กลางอยู่ที่ต.ทรายขาว อ.พาน ส่งผลกระทบใน 7 อำเภอ บ้านเรือนเสียหาย 11,173 หลัง เสียหายทั้งหลัง 400 หลัง วัด 151 แห่ง โบสถ์คริสต์ 9 แห่ง โรงเรียน 123 แห่ง สถานบริการสาธารณสุข 44 แห่ง สาธารณประโยชน์ 12 แห่ง โรงงาน6 แห่ง สถานที่ราชการ 8 แห่ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 900 ล้านบาท
โดยกระทรวงมหาดไทย จ่ายเงินช่วยเหลือแล้วประมาณ 90 ล้านบาท ภาคเอกชนบริจาคประมาณ 200 ล้านบาท ปัจจุบันยังคงปรากฎร่องรอยของเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ โดยเฉพาะรอยแยกของแผ่นดินที่อ.แม่ลาว และอาคารสถานที่ต่างๆ
***เนปาลชี้สถานการณ์เริ่มกลับสู่ปกติ
รัฐบาลเนปาลแถลงเมื่อวันอังคาร (5พ.ค.) ว่า ขณะนี้ ทหารและตำรวจรวมกว่า 131,500 นาย ได้เข้าร่วมปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่ โดยได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ต่างชาติกว่า 100 ทีม
แม้รัฐบาลยอมรับว่า ตื่นตะลึงกับความเสียหายใหญ่หลวงจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน และมีเสียงร้องเรียนอึงมี่เรื่องความล่าช้าในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทว่า ในที่สุด กระทรวงมหาดไทยระบุว่า สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว และเริ่มกลับสู่ภาวะปกติทีละน้อย เนื่องจากสิ่งของบรรเทาทุกข์จัดส่งถึงมือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ขณะที่รัฐบาลระดมทรัพยากรทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่า ประชาชนจะได้รับความช่วยเหลือตราบเท่าที่ต้องการ
คำแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สำนักงานปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันจนถึงวันอังคารอยู่ที่ 7,557 ราย และบาดเจ็บ 14,536 คน
อย่างไรก็ดีแม้มีความคืบหน้าในการกระจายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ห่างไกล แต่ผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปี อาจจะยังไม่จบลงง่ายๆ
ทางด้าน “คณะกรรมการรับมือภัยพิบัติฉุกเฉิน” (ดิสแซสเตอร์ส อิเมอร์เจนซี คอมมิตตี หรือ ดีอีซี) ของอังกฤษ แถลงเตือนว่า การที่เหยื่อภัยพิบัติแผ่นดินไหวในเนปาลประสบปัญหาขาดแคลนที่พักอาศัย ต้องใช้น้ำที่ปนเปื้อน และเผชิญความลำบากในการรักษาสุขอนามัย อาจจะนำไปสู่การระบาดของโรคอหิวาต์ บิด และโรคที่ติดต่อทางน้ำอื่นๆ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการจัดการปัญหานี้โดยเร่งด่วน ก่อนที่ฤดูฝนจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายน
ดีอีซี ซึ่งเป็นองค์การที่เกิดจากการรวมตัวกันขององค์กรการกุศล 12 แห่ง เสริมว่า ในหลายๆ พื้นที่ ประชาชนกินอยู่และขับถ่ายในพื้นที่กลางแจ้ง ไม่มีห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะใช้
โฆษกของดีอีซีสำทับว่า ขณะนี้ มีรายงานการระบาดของโรคท้องร่วงและโรคติดเชื้อในปอดแล้ว
ปัจจุบัน สมาชิกของดีอีซี อาทิ ออกซ์แฟม กำลังดำเนินการเพื่อจัดหาที่พักอาศัยฉุกเฉินที่ดีขึ้น รวมถึงทำให้แน่ใจว่า น้ำดื่มและระบบสุขอนามัยเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการรับมือเหตุฉุกเฉินในเนปาล
จนถึงขณะนี้ ดีอีซีสามารถระดมเงินช่วยเหลือเนปาลได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้เป็นการสมทบของรัฐบาลอังกฤษ 7 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นลอนดอนยังรับปากจัดหาความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมอีก 27.5 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษเป็นผู้บริจาคความช่วยเหลือสูงสุดโดยมียอดรวมทั้งสิ้น 34.65 ล้านดอลลาร์.
