แนะดูแลช่องปากผู้สูงอายุ พบเหงือกอักเสบ มีโรคปริทันต์มาก พบเป็นรุนแรงเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ 2 เท่า เชิ้อในช่องปากแพร่กระจายไปอวัยวะอื่น
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วันที่ 13 เม.ย. ของทุกปี เป็นวันสงกรานต์ และวันผู้สูงอายุแห่งชาติ จึงขอให้ประชาชนให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ โดยเฉพาะช่องปากและฟัน เนื่องจากผลสำรวจสุขภาพช่องปากปี 2555 พบว่า ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปแปรงฟันโดยใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนเพียงร้อยละ 66 พบผู้สูงอายุมีฟันผุร้อยละ 97 และมีฟันผุที่รากฟันถึงร้อยละ 17 ซึ่งสูงกว่ากลุ่มวัยอื่นๆ ครึ่งหนึ่งมีสภาวะเหงือกอักเสบ และมีโรคปริทันต์ที่ต้องการการรักษาเฉพาะทางถึงร้อยละ 32 จากการศึกษายังพบว่าผู้ป่วยโรคปริทันต์รุนแรงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจถึง 2 เท่า และเชื้อโรคในช่องปากสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ทำให้เกิดการติดเชื้อ เช่น ลิ้นหัวใจอักเสบ เป็นต้น ผู้สูงอายุจึงต้องการการดูแลอนามัยช่องปากอย่างเหมาะสม เพื่อคงสภาพเหงือกและฟันที่ดีไว้ เพื่อใช้บดเคี้ยวอาหารให้นานที่สุด
“ที่ผ่านมา ได้แก้ปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ ผ่านโครงการฟันเทียมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล่าสุด ได้ลงนามความร่วมมือกับ สปสช. และ 9 คณะทันตแพทย์ศาสตร์ ในการใส่ฟันเทียมทั้งปากแก่ผู้สูงอายุที่ใช้สิทธิบัตรทอง 2,200 คน สนับสนุนให้แกนนำชมรมผู้สูงอายุเป็นผู้นำในการดูแลอนามัยช่องปาก ปัจจุบันมีชมรมผู้สูงอายุด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก 3,560 ชมรม มีสมาชิกกว่า 700,000 คน เพื่อป้องกันฟันผุ รากฟันผุ เหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์หรือรำมะนาด” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การแปรงฟันที่ถูกต้องเริ่มจากการเลือกแปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่มพอประมาณ ไม่แข็ง หรืออ่อนเกินไป ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ ยึดหลักสูตร 222 คือ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน แปรงให้ทั่วๆ ครบทุกซี่ ทุกด้านของฟัน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 นาที และหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมงไม่ควรกินอะไร เพื่อให้ฟลูออไรด์ได้สัมผัสผิวฟันนานพอที่จะช่วยป้องกันฟันผุได้และอย่าลืมแปรงลิ้นด้วย สำหรับผู้สูงอายุและวัยทำงานพบว่าส่วนใหญ่มีการผุบริเวณซอกฟันและเป็นโรคปริทันต์หรือรำมะนาดได้ง่าย จึงต้องมีการทำความสะอาดซอกฟันโดยใช้ไหมขัดฟันขัดทำความสะอาดซอกฟัน หรือใช้แปรงซอกฟันซึ่งมีรูปร่างคล้ายแปรงล้างขวดนมแต่ขนาดเล็กกว่ามาก ทำความสะอาดเหนือเหงือกที่มีช่องว่างจากเหงือกร่น ส่วนผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ควรมีผู้ดูแล ทำความสะอาดช่องปากให้เป็นประจำ
“สำหรับผู้สูงอายุที่เหลือฟันแท้น้อยกว่า 20 ซี่ และใส่ฟันเทียมทดแทน ต้องถอดออกมาทำความสะอาดหลังอาหารทุกมื้อ ก่อนนอนให้ถอดออกแช่น้ำสะอาดทุกครั้ง และควรไปพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจสภาพ ฟัน เหงือก รวมทั้งเนื้อเยื่อในช่องปากและซ่อมเสริมฟันเทียมให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดีอยู่เสมอ ไม่หลวมหรือคม จนเหงือกและลิ้นเป็นแผล” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วันที่ 13 เม.ย. ของทุกปี เป็นวันสงกรานต์ และวันผู้สูงอายุแห่งชาติ จึงขอให้ประชาชนให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ โดยเฉพาะช่องปากและฟัน เนื่องจากผลสำรวจสุขภาพช่องปากปี 2555 พบว่า ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปแปรงฟันโดยใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนเพียงร้อยละ 66 พบผู้สูงอายุมีฟันผุร้อยละ 97 และมีฟันผุที่รากฟันถึงร้อยละ 17 ซึ่งสูงกว่ากลุ่มวัยอื่นๆ ครึ่งหนึ่งมีสภาวะเหงือกอักเสบ และมีโรคปริทันต์ที่ต้องการการรักษาเฉพาะทางถึงร้อยละ 32 จากการศึกษายังพบว่าผู้ป่วยโรคปริทันต์รุนแรงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจถึง 2 เท่า และเชื้อโรคในช่องปากสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ทำให้เกิดการติดเชื้อ เช่น ลิ้นหัวใจอักเสบ เป็นต้น ผู้สูงอายุจึงต้องการการดูแลอนามัยช่องปากอย่างเหมาะสม เพื่อคงสภาพเหงือกและฟันที่ดีไว้ เพื่อใช้บดเคี้ยวอาหารให้นานที่สุด
“ที่ผ่านมา ได้แก้ปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ ผ่านโครงการฟันเทียมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล่าสุด ได้ลงนามความร่วมมือกับ สปสช. และ 9 คณะทันตแพทย์ศาสตร์ ในการใส่ฟันเทียมทั้งปากแก่ผู้สูงอายุที่ใช้สิทธิบัตรทอง 2,200 คน สนับสนุนให้แกนนำชมรมผู้สูงอายุเป็นผู้นำในการดูแลอนามัยช่องปาก ปัจจุบันมีชมรมผู้สูงอายุด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก 3,560 ชมรม มีสมาชิกกว่า 700,000 คน เพื่อป้องกันฟันผุ รากฟันผุ เหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์หรือรำมะนาด” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การแปรงฟันที่ถูกต้องเริ่มจากการเลือกแปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่มพอประมาณ ไม่แข็ง หรืออ่อนเกินไป ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ ยึดหลักสูตร 222 คือ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน แปรงให้ทั่วๆ ครบทุกซี่ ทุกด้านของฟัน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 นาที และหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมงไม่ควรกินอะไร เพื่อให้ฟลูออไรด์ได้สัมผัสผิวฟันนานพอที่จะช่วยป้องกันฟันผุได้และอย่าลืมแปรงลิ้นด้วย สำหรับผู้สูงอายุและวัยทำงานพบว่าส่วนใหญ่มีการผุบริเวณซอกฟันและเป็นโรคปริทันต์หรือรำมะนาดได้ง่าย จึงต้องมีการทำความสะอาดซอกฟันโดยใช้ไหมขัดฟันขัดทำความสะอาดซอกฟัน หรือใช้แปรงซอกฟันซึ่งมีรูปร่างคล้ายแปรงล้างขวดนมแต่ขนาดเล็กกว่ามาก ทำความสะอาดเหนือเหงือกที่มีช่องว่างจากเหงือกร่น ส่วนผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ควรมีผู้ดูแล ทำความสะอาดช่องปากให้เป็นประจำ
“สำหรับผู้สูงอายุที่เหลือฟันแท้น้อยกว่า 20 ซี่ และใส่ฟันเทียมทดแทน ต้องถอดออกมาทำความสะอาดหลังอาหารทุกมื้อ ก่อนนอนให้ถอดออกแช่น้ำสะอาดทุกครั้ง และควรไปพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจสภาพ ฟัน เหงือก รวมทั้งเนื้อเยื่อในช่องปากและซ่อมเสริมฟันเทียมให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดีอยู่เสมอ ไม่หลวมหรือคม จนเหงือกและลิ้นเป็นแผล” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่