ศปถ. เผย 2 วันหยุดยาวสงกรานต์เกิดอุบัติเหตุ 723 ครั้ง ตาย 59 ราย เจ็บ 765 คน สั่งตั้งจุดตรวจเข้ม บังคับใช้กฎหมาย คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยง
วันนี้ (11 เม.ย.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) แถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุวันที่ 2 ของการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2558 โดย พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นวันที่ 2 ในช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์พบว่า เกิดอุบัติเหตุ 399 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 34 ราย ผู้บาดเจ็บ 417 คน โดยเมาสุราและขับรถเร็วเกินกำหนดเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด เกิดขึ้นกับรถจัรยานยนต์มากที่สุด ส่วนช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ 16.01 - 20.00 น. ซึ่งจากการตั้งจุดตรวจหลัก 2,251 จุด มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 86,296 ราย โดยมีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 25,522 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 25,245 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 22 ครั้ง จังหวัดที่ผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชศรีมา 5 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 25 คน สำหรับอุบัติเหตุสะสม 2 วัน เกิดอุบัติเหตุรวม 723 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 59 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 765 คน จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ มี 2 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ และอำนาจเจริญ จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มี 36 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บในช่วง 2 วัน มี 4 จังหวัด ได้แก่ ระยอง สมุทรปราการ หนองคาย และอำนาจเจริญ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 36 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 6 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 40 คน
"ศปถ. ได้กำชับตำรวจให้บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงตามมาตรการ 1ร. 2ส. 3ข. 4ม. โดยเฉพาะการดื่มแล้วขับ การขับรถเร็ว การขับรถในลักษณะเสี่ยงอันตราย ทั้งการตัดหน้ากระชั้นชิด การแซงในที่คับขัน การขับรถย้อนศร การฝ่าสัญญาณไฟจราจร นอกจากนี้ ให้จังหวัดที่เป็นเส้นทางสำคัญออกสู่ภูมิภาคต่างๆ พิจารณาบริหารจัดการจราจรให้เกิดความคล่องตัว ทั้งการเปิดช่องทางพิเศษ การปรับสัญญาณไฟจราจรให้เหมาะสมกับช่วงเวลาในการเดินทางของประชาชน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่บริการให้คำแนะนำเส้นทางลัด เส้นทางเลี่ยงเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและลดปัญหาการจราจรติดขัด รวมถึงป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้” พล.ต.ท.สุวิระ กล่าว
นายไมตรี อินทุสุต รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้จังหวัดเน้นการจัดตั้งจุดตรวจและจุดบริการประชาชนครอบคลุมทั้งเส้นทางสายหลัก สายรองและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เน้นย้ำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนธิกำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านร่วมจัดตั้งด่านสกัดครอบคลุมทุกชุมชน หมู่บ้าน โดยเฉพาะเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อกับถนนสายหลัก ใช้มาตรการทางสังคมในการป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหยุดวันของแรกของเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการเดินทาง จึงได้เน้นย้ำจังหวัดกำชับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยในการเดินทาง ควบคู่ไปกับจุดบริการอำนวยความสะดวก พร้อมพิจารณาปรับแผนจัดตั้งจุดตรวจ จุดบริการให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุ นอกจากนี้ ขณะนี้หลายพื้นที่มีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง จึงขอให้จังหวัดตรวจสอบป้ายโฆษณา สิ่งปลูกสร้างและเสาไฟฟ้าที่อาจล้มกีดขวางเส้นทางจราจร ก่อให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ใช้เส้นทางได้ ส่วนผู้ใช้รถใช้ถนนขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่รถผ่านเส้นทางที่มีฝนตกและพายุลมแรง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ขับเร็ว เมาไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หากมีอาการง่วงนอน ควรจอดรถพักตามสถานีบริการน้ำมัน หรือจุดบริการตามเส้นทางสายต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีความพร้อมในการดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพื่อสร้างความปลอดภัยและมอบความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2558
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวว่า การดื่มแล้วขับหากตรวจพบว่ามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และถูกควบคุมความประพฤติ และตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2557 เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 กรณีผู้ขับขี่ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานในการทดสอบ โทษปรับครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท และกรณีไม่ยินยอมให้ทดสอบปฏิเสธเป่าให้ถือว่าเมาแล้วขับ มีบทลงโทษคือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
