รณรงค์ลดอุบัติเหตุสงกรานต์วันแรก 9 เม.ย. พบตายแล้ว 25 ราย จากอุบัติเหตุ 324 ครั้ง บาดเจ็บ 348 คน เหตุเมาเหล้า ขับรถเร็ว สั่งตั้งจุดตรวจเส้นทางหลัก ทางเลี่ยง ทางลัด เส้นทางขาออกจาก กทม. ออกต่างจังหวัด เหตุประชาชนเร่งเดินทางกลับบ้าน - ท่องเที่ยว สั่งทุกจังหวัดตรวจสอบต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หวั่นฝนตกเสี่ยงล้มเกิดอุบัติเหตุ
วันนี้ (10 เม.ย.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) แถลงข่าวผลการดำเนินการลดอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ 2558 วันแรกคือ วันที่ 9 เม.ย. 2558 เกิดอุบัติเหตุ 324 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 25 ราย ผู้บาดเจ็บ 348 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา และขับรถเร็วเกินกำหนด โดยจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง บนทางหลวงแผ่นดิน ช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. ยังเป็นเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด โดยผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ทั้งนี้ จากการตั้งจุดตรวจหลัก 2,243 จุด มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,621 คน เรียกตรวจยานพาหนะแล้ว 461,530 คัน พบมีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 20,863 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 20,271 ราย
ทั้งนี้ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ นครศรีธรรมราช 16 ครั้ง จังหวัดที่ผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กระบี่ และ เพชรบุรี จังหวัดละ 2 ราย จังหวัดที่มีการบาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา และ นครศรีธรรมราช จังหวัดละ 19 คน จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ มี 9 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครนายก บึงกาฬ สมุทรปราการ สุโขทัย หนองคาย อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 54 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บมี 11 จังหวัด
นายสนิท พรหมวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว คาดว่าถนนสายหลัก โดยเฉพาะเส้นทางขาออกจาก กทม. มุ่งสู่ภาคต่างๆ จะมีปริมาณรถหนาแน่น จึงเน้นย้ำให้จังหวัดต่างๆ กำชับเจ้าหน้าที่ให้อำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัย ตั้งจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก เส้นทางเลี่ยงและเส้นทางลัด ดูแลเข้มข้นจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจรและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการขับรถเร็วเกินกำหนดและดื่มแล้วขับ รวมถึงเข้มงวดรถโดยสารสาธารณะ โดยพนักงานขับรถต้องมีความพร้อม ระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ ตรวจสอบสภาพรถและอุปกรณ์นิรภัยให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย กรณีรถโดยสารวิ่งระยะทางไกลมากกว่า 400 กิโลเมตร ต้องมีพนักงานขับรถผลัดเปลี่ยน เพื่อป้องกันง่วงหลับใน
นายไมตรี อินทุสุต รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การอำนวยความสะดวกการเดินทางแต่ละจังหวัดนั้น กำชับให้จัดระบบจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษและปรับแผนการจราจรให้สอดคล้องกับสถานการณ์และช่วงเวลาในการเดินทางของประชาชนแต่ละพื้นที่ พร้อมประชาสัมพันธ์เส้นทางลัดและเส้นทางเลี่ยงเมือง ส่วนเส้นทางสายรองที่ออกสู่ถนนสายหลักและเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งจุดตรวจ ควบคุมพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการขับรถย้อนศร การฝ่าสัญญาณไฟจราจร การแซงระยะกระชั้นชิด
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ระยะนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อนในลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก ประกอบกับเป็นช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้รถใช้ถนน จึงได้กำชับให้จังหวัดตรวจสอบสภาพเส้นทางให้มีความปลอดภัย โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ที่เสี่ยงต่อการโค่นล้ม รวมถึงป้ายโฆษณาริมข้างทางและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมก่อนการเดินทาง ตรวจสอบสภาพรถ ศึกษาและเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย ขับรถไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฏหมายจราจร มีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวว่า การเดินทางหากสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อไปได้ที่สายด่วนหมายเลขต่างๆ อาทิเช่น ตำรวจทางหลวง (1193) กรมทางหลวง (1586) ตำรวจท่องเที่ยว (1155) หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน (1669) เป็นต้น
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (10 เม.ย.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) แถลงข่าวผลการดำเนินการลดอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ 2558 วันแรกคือ วันที่ 9 เม.ย. 2558 เกิดอุบัติเหตุ 324 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 25 ราย ผู้บาดเจ็บ 348 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา และขับรถเร็วเกินกำหนด โดยจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง บนทางหลวงแผ่นดิน ช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. ยังเป็นเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด โดยผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ทั้งนี้ จากการตั้งจุดตรวจหลัก 2,243 จุด มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,621 คน เรียกตรวจยานพาหนะแล้ว 461,530 คัน พบมีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 20,863 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 20,271 ราย
ทั้งนี้ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ นครศรีธรรมราช 16 ครั้ง จังหวัดที่ผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กระบี่ และ เพชรบุรี จังหวัดละ 2 ราย จังหวัดที่มีการบาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา และ นครศรีธรรมราช จังหวัดละ 19 คน จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ มี 9 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครนายก บึงกาฬ สมุทรปราการ สุโขทัย หนองคาย อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 54 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บมี 11 จังหวัด
นายสนิท พรหมวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว คาดว่าถนนสายหลัก โดยเฉพาะเส้นทางขาออกจาก กทม. มุ่งสู่ภาคต่างๆ จะมีปริมาณรถหนาแน่น จึงเน้นย้ำให้จังหวัดต่างๆ กำชับเจ้าหน้าที่ให้อำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัย ตั้งจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก เส้นทางเลี่ยงและเส้นทางลัด ดูแลเข้มข้นจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจรและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการขับรถเร็วเกินกำหนดและดื่มแล้วขับ รวมถึงเข้มงวดรถโดยสารสาธารณะ โดยพนักงานขับรถต้องมีความพร้อม ระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ ตรวจสอบสภาพรถและอุปกรณ์นิรภัยให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย กรณีรถโดยสารวิ่งระยะทางไกลมากกว่า 400 กิโลเมตร ต้องมีพนักงานขับรถผลัดเปลี่ยน เพื่อป้องกันง่วงหลับใน
นายไมตรี อินทุสุต รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การอำนวยความสะดวกการเดินทางแต่ละจังหวัดนั้น กำชับให้จัดระบบจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษและปรับแผนการจราจรให้สอดคล้องกับสถานการณ์และช่วงเวลาในการเดินทางของประชาชนแต่ละพื้นที่ พร้อมประชาสัมพันธ์เส้นทางลัดและเส้นทางเลี่ยงเมือง ส่วนเส้นทางสายรองที่ออกสู่ถนนสายหลักและเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งจุดตรวจ ควบคุมพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการขับรถย้อนศร การฝ่าสัญญาณไฟจราจร การแซงระยะกระชั้นชิด
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ระยะนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อนในลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก ประกอบกับเป็นช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้รถใช้ถนน จึงได้กำชับให้จังหวัดตรวจสอบสภาพเส้นทางให้มีความปลอดภัย โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ที่เสี่ยงต่อการโค่นล้ม รวมถึงป้ายโฆษณาริมข้างทางและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมก่อนการเดินทาง ตรวจสอบสภาพรถ ศึกษาและเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย ขับรถไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฏหมายจราจร มีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวว่า การเดินทางหากสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อไปได้ที่สายด่วนหมายเลขต่างๆ อาทิเช่น ตำรวจทางหลวง (1193) กรมทางหลวง (1586) ตำรวจท่องเที่ยว (1155) หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน (1669) เป็นต้น
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
