นักวิชาการร่วมหนุนกฎหมายห้ามซื้อบุหรี่แบบแบ่งซองขาย ยกผลสำรวจชี้เด็กกว่า 2 แสนคน ซื้อบุหรี่แบบแยกมวน เหตุกำลังเงินซื้อต่ำ วอนสมาคมการค้ายาสูบเห็นแก่อนาคตชาติ อย่าเห็นแก่กำไรบาป
ดร.ศรัณญา เบญจกุล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เห็นควรว่าจะต้องห้ามแบ่งซองขายบุหรี่เป็นรายมวน เพื่อลดจำนวนนักสูบหน้าใหม่ในกลุ่มเยาวชน เนื่องจากมีผลสำรวจเมื่อปี 2554 พบว่าเด็กไทยอายุ 15 - 18 ปี สูบบุหรี่กว่า 4 แสนคน ซึ่งเกือบ 3 แสนคน สูบบุหรี่ซิกาแรตเพียงอย่างเดียว โดยเด็กจำนวนกว่า 2 แสนคนซื้อบุหรี่แบบแบ่งขาย เพราะเด็กมีอำนาจซื้อต่ำ ทั้งนี้ แต่ละวันนั้นบุหรี่จำนวนกว่า 1.6 ล้านมวน ถูกสูบโดยเด็กและเยาวชน
รศ.ดร.นันทวรรณ วิจิตรวาทการ อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เรียกร้องให้สมาคมการค้ายาสูบไทยเห็นแก่อนาคตของเด็กๆ และหยุดคัดค้านบทบัญญัติที่ห้ามแบ่งซองขายบุหรี่ ในร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ฉบับใหม่ เพราะในความเป็นจริง ยอดขายของการซื้อบุหรี่ในเด็กวัย 15 - 18 ปี ปีละ 1,800 ล้านบาท ซึ่งกำไรของร้านค้าปลีกและบริษัทบุหรี่จากการขายให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นกำไรที่ผิดกฎหมายและเรียกได้ว่าเป็นกำไรบาป เพราะการขายบุหรี่แบบแบ่งซองขายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กๆ ติดบุหรี่ ที่สำคัญ การขายบุหรี่แบบเป็นรายมวนทำให้เด็กๆ ไม่เห็นคำเตือนบนซองบุหรี่ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้งให้เด็กมีความอยากซื้อน้อยลง โดยขณะนี้มี 97 ประเทศทั่วโลก ที่มีกฎหมายห้ามแบ่งซองขายแล้วรวมถึงเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาว เมียนมาร์ สิงคโปร์ และบรูไน จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ค้าปลีกได้เห็นแก่อนาคตของเด็กและยอมเสียสละกำไรที่ผิดกฎหมายจากการขายบุหรี่เป็นมวนๆ แก่เด็กๆ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
