ประชาคม สธ. ทำหนังสือถึงนายกฯ วอนยับยั้ง สปสช. รุกคืบคุมหน่วยงานเคลียริงเฮาส์ข้อมูลการจ่ายเงินทุกกองทุน หวั่นเกิดปัญหาซ้ำซ้อน เหตุ สปสช. ยังเคลียร์ความโปร่งใสไม่ได้ และกำลังถูกตรวจสอบ ชี้หาก สปสช. คุม รพ. ยิ่งกระอัก หึ่ง! วิจารณ์แซดตั้งหน่วยงานใหม่หาที่ลงให้ “หมอวินัย” ก่อนหมดวาระเลขาธิการ สปสช. สมัย 2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ โฆษกประชาคมสาธารณสุข (สธ.) ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา มีข้อสรุปว่าจะเสนอตั้งหน่วยงานข้อมูลสิทธิการรักษาระดับชาติ (เคลียริงเฮาส์) โดยให้อยู่ภายใต้การกำกับของ สปสช. มีใจความโดยสรุปว่า เรื่องดังกล่าวหลักการคือต้องเป็นหน่วยงานกลางอยู่ภายใจ้การกำกับของนายกรัฐมนตรี ไม่ตั้งอยู่ในกองทุนใด เพื่อให้มีอิสระเในการทำงานและเป็นกลาง เพราะเป็นจุดรวมข้อมูลที่เรียกเก็บเงินของโรงพยาบาลทุกแห่งที่ให้การรักษาผู้ป่วยทุกสิทธิ ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม และข้าราชการ ซึ่งจะเห็นข้อมูลทั้งประเทศว่ากองทุนใดตรงไปตรงมา หรือกองทุนใดบิดพริ้วไม่ยอมจ่ายเงิน จะเห็นข้อมูลทุกอย่าง
การที่ สปสช. ดิ้นรนอยากให้หน่วยงานนี้มาอยู่ในกำกับ เพราะ สปสช. มีปัญหาการบริหารจัดการตลอด 12 - 13 ปีที่ผ่านมา มีความไม่โปร่งใส ส่อทุจริต กำลังถูกตรวจสอบ ยังเคลียร์ตัวเองไม่ได้ โรงพยาบาลทั้งประเทศหวาดระแวง จึงขอเรียนให้ช่วยยับยั้งเรื่องนี้ไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน ซ้ำเติมโรงพยาบาล เพราะเพียงกลุ่มแพทย์ชนบทหรือตระกูล ส ทำร้ายจากกองทุนเดียวก็ทำให้โรงพยาบาลหลายร้อยแห่งของ สธ.ทยอยขาดสภาพคล่อง หากหน่วยงานนี้อยู่ในกำมือคนกลุ่มนี้เกรงว่าจะไม่เหลือโอกาสรอดให้โรงพยาบาลทั้งในและนอกสังกัด สธ. อย่าได้ส่งเสริมคนกลุ่มนี้มาทำลาย หากท่านหลงเชื่อรองนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่าน ซึ่งอยู่กลุ่มตระกูล ส. และ สปสช. โรงพยาบาลคงสิ้นหวังและสิ้นซากแน่นอน
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ในแวดวงสาธารณสุขมีการพูดถึงเรื่องนี้กันมาก โดยมองว่าการที่ สปสช. พยายามผลักดันให้เคลียริงเฮาส์ข้อมูลสิทธิการรักษาระดับชาติ มาอยู่ภายใต้การกำกับของ สปสช. นั้น เนื่องจากจะเป็นการหาที่ลงให้ นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. เนื่องจาก นพ.วินัย เป็นเลขาธิการ สปสช. สมัยที่ 2 แล้ว และจะสิ้นสุดวาระลงในปี 2559 ซึ่งไม่มีสิทธินั่งเป็นเลขาธิการ สปสช. อีกต่อไป จึงจำเป็นต้องหาตำแหน่งให้ตัวเอง เพราะอย่าง นพ.พีรพล สุทธิวิเศษศักดิ์ รองเลขาธิการ สปสช. ก็มีทางไปแล้ว คือ ไปดำรงตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
อ่านจดหมายฉบับเต็ม
กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา สืบเนื่องจากรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ข่าวหลังจากประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เมื่อวันที่ 4เมษายน 2558 ว่า จะเสนอเรื่องตั้งหน่วยงานรับข้อมูลการเรียกเก็บเงินค่ารักษาผู้ป่วยในจากทุกกองทุน (National clearing house) ให้อยู่ในการควบคุมกำกับของ สปสช. ซึ่งเดิมเรื่องดังกล่าวได้มีการร่วมตั้งหน่วยงานนี้โดยหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีหลักการว่าต้องเป็นหน่วยงานกลาง อยู่ภายใต้กำกับของนายกรัฐมนตรี ไม่ตั้งอยู่ในกองทุนใด เพื่อให้มีอิสระในการทำงาน และเป็นกลาง หน่วยงานดังกล่าวนี้ จะเป็นจุดรวมของข้อมูลที่เรียกเก็บเงินของทุกหน่วยบริการ (รพ.ทุกแห่ง) ที่ให้การรักษาผู้ป่วยบัตรทอง (สปสช.) บัตรประกันสังคม (ประกันสังคม) และข้าราชการ (กรมบัญชีกลาง) แล้วหน่วยงานนี้จะประสานการเรียกเก็บเงินจากทุกกองทุนดังกล่าวให้กับ รพ. ทุกแห่ง ซึ่งจะเห็นข้อมูลทั้งประเทศว่ากองทุนใดตรงไปตรงมา หรือกองทุนใดบิดพริ้วไม่ยอมจ่ายเงินตามที่ต้องจ่าย เป็นจำนวนเงินเท่าใด และจะต้องทวงเงินจากกองทุนที่บิดพลิ้วนั้นให้ รพ. ที่ไม่ได้รับเงิน จะเห็นข้อมูลแท้จริงทุกอย่าง สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด และนำข้อมูลมาวางแผนแก้ปัญหาในปีต่อๆ มาได้อย่างแท้จริง
ดังนั้น การที่ สปสช. ดิ้นรนอยากให้หน่วยงานนี้มาอยู่ภายใต้การกำกับของ สปสช. ก็เพราะว่า สปสช. มีปัญหาในการบริหารจัดการตลอด 12 - 13 ปีที่ผ่านมา และมีความไม่โปร่งใส ส่อทุจริตกำลังถูกตรวจสอบ ยัง clearing ตัวเองไม่ได้เลย รพ. ทั้งประเทศระแวง ไม่ไว้ใจอยู่แล้ว จึงใคร่ขอเรียนท่านให้ช่วยยับยั้งเรื่องนี้ไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนจาก สปสช. มาซ้ำเติม รพ. ต่างๆ อีก เพราะลำพังกลุ่มคนตระกูล ส. (แพทย์ชนบท) ทำร้ายเราจากกองทุนเดียวก็ทะยอยขาดสภาพคล่องหลายร้อย รพ. ใน สธ. อยู่แล้ว ถ้าหน่วยงานสำคัญนี้อยู่ในมือคนกลุ่มนี้เกรงว่าจะไม่เหลือช่องหายใจให้เรามีโอกาสรอดเลย รพ. ทั้งในและนอก สธ. คงวิกฤตพร้อมกันได้ในทันที (sudden dead) ได้โปรดอย่าส่งเสริมคนกลุ่มนี้มาทำลายพวกเราอีกเลย รมต. และ รองนายกฯ ที่ดูแลสาธารณสุขก็ล้วนแล้วแต่อยู่กลุ่ม ส. นี้ ทั้งนั้น เอียงข้างชัดเจน และช่วยสปสช.ทุกอย่าง เราจึงเหลือที่พึ่งคือท่านเท่านั้นค่ะ ถ้าท่านหลงเชื่อ รองนายกกับรัฐมนตรีทั้งสอง และ สปสช. ก็คงสิ้นหวัง และสิ้นซากของรพ.กระทรวงสาธารณสุขอย่างแน่นอนค่ะ ขอแสดงความเคารพนับถือ อย่างสูง
แพทย์หญิง ประชุมพร บูรณ์เจริญ โฆษกประชาคมสาธารณสุข 5 เมษายน 2558
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่