xs
xsm
sm
md
lg

ประชาคม สธ.จ่อยื่น จม.“บิ๊กตู่” แจงชัด “รัชตะ” ต้นเหตุ สธ.ทำงานสับสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประชาคม สธ. ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง “บิ๊กตู่” แจงชัด “หมอรัชตะ” ต้นเหตุทำ ขรก. สับสน สั่งงานข้ามหน้าปลัด สธ. ชี้ไม่เคยพูดเรื่องเขตสุขภาพ แต่หลังย้ายปลัดเข้ากรุกลับเร่งรัด แถมมีท่าทีปกป้อง สปสช. เสนอเรียก 53 วิชาชีพให้ข้อมูลที่แท้จริง พร้อมร่อน จม. ถึงปลัดพาณิชย์เร่งรัดผลสอบปลัด สธ. ย้ำผลสอบ สปสช. ไม่ควรเอามาพ่วงผลสอบปลัด สธ.

วันนี้ (25 มี.ค.) นพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ในฐานะรักษาการประธานประชาคมสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมกรรมการประชาคมฯ ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณี นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถูกย้ายไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยได้ข้อสรุปว่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล 1111 ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เดิม ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 14.30 น. ของวันที่ 25 มี.ค. เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ จากนั้นจะไปยื่นหนังสือต่อ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการสอบฯปลัด สธ. ด้วย ว่า ขอให้เร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม ในฐานะที่เป็นข้าราชการเช่นเดียวกัน เพราะการสอบสวนปลัด สธ. นั้น ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของข้าราชการ สธ. อย่างมาก

“พวกเราอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากนายกฯ เพราะสิ่งที่ปลัด สธ. ดำเนินการมานั้นก็เป็นนโยบายตามรัฐบาล จึงอยากให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างโปร่งใส เพราะปัญหาในวงการสาธารณสุขเป็นปัญหาเชิงระบบ ไม่ใช่ตัวบุคคล ถึงแม้ว่าปลัด สธ. จะไม่อยู่ แต่ระบบไม่ได้แก้ไขปัญหาก็จะยังคงอยู่ นั่นเป็นเพราะคนถือเงินหรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่รับฟังความเห็นผู้ให้บริการ ซึ่งเมื่อพวกเราเดือดร้อนก็จำเป็นที่จะต้องสะท้อนปัญหาออกมาเพื่อการปฏิรูป โดยการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง สปสช. จะต้องให้คนกลางมาเป็นดำเนินการ” นพ.สุทัศน์ กล่าว

นพ.ธานินทร์ สีวราภรณ์สกุล ผอ.รพ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า คำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงปลัด สธ. ลงเมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้ผ่านไปแล้ว 20 วัน แต่เท่าที่ทราบประธานคณะกรรมการฯยังไม่มีการเรียกประชุมเพื่อหารือประเด็นสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งที่โดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้วการสอบสวนข้อเท็จจริงต้องทำให้เสร็จภายใน 30 วัน เพราะหากมีมูลก็จะได้สอบสวนในประเด็นอื่นต่อด้วย เช่น สอบสวนทางวินัยข้าราชการ ซึ่งการสอบสวนว่าไม่ปฏิบัติตามสนองนโยบายรัฐบาล และ รมว.สาธารณสุข เอง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากที่จะหาข้อมูล ซึ่งพวกเราที่ทำงานในระดับพื้นที่ก็พร้อมให้ข้อมูลเสมอ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาคมฯไม่สบายใจ ก็คือ การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สปสช. นั้น มีการเอาผลการสอบสวนไปผูกกับคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบฯปลัด สธ. ด้วย ซึ่งจะยิ่งทำให้เกิดความล่าช้าขึ้นไปอีก

พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) กล่าวว่า ไม่ควรเอาผลสอบทั้งสองเรื่องมาผูกเกี่ยวกัน เพราะจะยิ่งทำให้ล่าช้า ซึ่งการสอบสวน สปสช. ควรดำเนินการให้เสร็จใน 90 วันตามธรรมเนียม ซึ่งสามารถเร่งรัดให้เสร็จเร็วขึ้นได้ เนื่องจากกังวลว่าจะมีการยืดเรื่องไปจนถึงปลัด สธ. เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ จากการหารือกันในแต่ละวงวิชาชีพ จะมีการส่งจดหมายถึงนายกฯ เพื่อขอให้ฟังความเห็นว่าแต่ละวิชาชีพมีความกังวลในเรื่องใด เช่น กรรมการตั้งสอบไม่โปร่งใส การเดินหน้าทำงานของ สธ. ที่ยังคงมีความขัดแย้งกันอยู่ สปสช.มีอะไรเหตุใดจึงขัดแย้ง ซึ่ง รมว.สาธารณสุข ระบุว่า จับมือทำงานร่วมกับ สปสช. แล้ว หมายถึงให้เรายอมรับการถูกกระทำหรือไม่ ล้วนเป็นสิ่งที่กังวลและอยากให้นายกฯได้รับทราบเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งการยื่นจดหมายเหล่านี้มีการลงชื่อที่อยู่ชัดเจน ไม่ใช่บัตรสนเท่ห์แน่นอน ส่วนการแต่งตั้ง นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.สาธารณสุข และ โฆษก สธ. เป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการสอบทั้ง 2 ชุดนั้น จะถือว่าไม่ใช่กรรมการได้อย่างไร ตำแหน่งที่ตั้งขึ้นนั้นก็เพียงการระบุในหนังสือคำสั่ง แต่จริงๆ แล้วก็ถือว่าเป็นกรรมการ

นายปรเมษฐ์ จินา ประธานชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ชมรมฯ ทำหนังสือลงวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา ขอความร่วมมือปลัดกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งรัดการสอบข้อเท็จจริงปลัด สธ. ใน 30 วัน ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ หากครบกำหนด 30 วันแล้ว ยังไม่มีการสอบสวนและชี้แจงให้รับทราบ ก็คงจะต้องมีมาตรการอารยะขัดขืน จริงๆ แล้วถ้านายกฯ เห็นใจ อยากให้ท่านเป็นผู้นำเชิญตัวแทน 53 วิชาชีพด้านสาธารณสุขมาให้ข้อมูล ร่วมกับ รมว.สาธารณสุข รมช.สาธารณสุข และที่ปรึกษารับมนตรีเลยว่าจะแก้ปัญหาและจบลงอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ นั้น มีใจความโดยสรุปส่วนหนึ่งว่า สธ. เดินหน้าปฏิรูประบบบริการสุขภาพผ่านเขตสุขภาพตั้งแต่ก่อนที่จะมีการตั้ง ครม. ซึ่งสุดท้ายเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แต่นโยบายของ รมว.สาธารณสุข กลับไม่มีเนื้อหาในเรื่องนี้ เนื่องจากมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาที่อยู่ในเครือข่ายแพทยชนบท และไม่มีแนวคิดสนับสนุนในเรื่องนี้ ที่สำคัญ รัฐมนตรีและทีมงานมีการเรียกประชุมข้ามปลัด สธ. ไปยังรองปลัด สธ. อธิบดีกรมต่างๆ ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติโดยตรง ทำให้เกิดความสับสนในหมู่ข้าราชการ และหลังจากที่ย้ายปลัด สธ. ไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข กลับมาเดินหน้าในเรื่องระบบบริการเขตสุขภาพ ทั้งที่ไม่เคยประกาศเป็นโยบาย โดยยืนยันว่าความขัดแย้งเป็นความแตกต่างของแนวคิดการทำงาน ไม่ใช่ตัวบุคคล ซึ่ง รมว.สาธารณสุข มีท่าทีปกป้อง สปสช. มาตลอด แทนที่จะสนใจตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อปกป้องเงินภาษีของประชาชน

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น