ASTVผู้จัดการรายวัน-"ประยุทธ์"เซ็นย้ายด่วน "หมอณรงค์" พ้นปลัดสาธารณสุขเข้ากรุสำนักนายกรัฐมนตรี ระหว่างรอผลสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีข่าวกระทรวงหมอเกิดความขัดแย้ง ด้าน "รัชตะ" ลงนามแต่งตั้ง "หมอสุรเชษฐ์" รักษาการแทนทันที ด้านประชาคม สธ. เตรียมขนหมอและวิชาชีพต่างๆ กว่า 1,000 คน คัดค้านการโยกย้ายไม่เป็นธรรม ชี้ต้องสอบสวน สปสช.ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2558 ในหนังสือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 75/2558 เรื่องให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 70/2558 ลงวันที่ 5 มี.ค.2558 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีปรากฏข่าวว่าการปฏิบัติราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประสบปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อสนองนโยบายด้านสาธารณสุขของรัฐบาลและนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น เพื่อให้การดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ให้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนสังกัดเดิมไปพลางก่อน โดยให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกรัฐมนตรี เพื่อปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานวิจัยและพัฒนางานด้านการสุขภาพแห่งชาติ
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง นพ.ณรงค์ กรณี สธ.ปรากฎเป็นข่าวจนทำให้สังคมมองว่าเกิดความขัดแย้งขึ้น ซึ่งตรงนี้ จะมีการสอบข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งระหว่างรอผลการสอบสวน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามสั่งย้าย นพ.ณรงค์ ให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.รัชตะ ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนปลัด สธ. ลงวันที่ 11 มี.ค.2558 โดยแต่งตั้ง นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัด สธ. รักษาการแทนปลัด สธ. อีกตำแหน่งหนึ่ง
พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) ในฐานะตัวแทนประชาคมสาธารณสุข กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบธรรม แทนที่จะสอบปลัด สธ. ควรไปสอบสวนเอาผิดสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะดีกว่า เพราะบริหารงานส่งผลต่อโรงพยาบาล ทำให้ขาดทุน แต่กลับมาสอบปลัด สธ. และสั่งย้าย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชน เพราะ นพ.ณรงค์ เป็นผู้เดินหน้านโยบายเขตสุขภาพในการจัดบริการร่วมเพื่อประชาชน ซึ่งไม่รู้ว่าคนที่มาแทนจะเดินหน้าหรือไม่ และยังส่งผลต่อขวัญและกำลังใจบุคลากรสาธารณสุข เพราะแม้จะมีปัญหาภายใน แต่ทุกคนก็ทำงานโดยไม่แบ่งแยกว่านโยบายนี้รัฐมนตรีหรือปลัด
"ปลัดสธ. เป็นเหมือนตัวแทนข้าราชการที่กล้าต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ตั้งแต่ก่อนจะมีการปฏิรูปรัฐบาล จนเกิดรัฐบาลยุคนี้ เรียกว่าเป็นปลัดคนเดียวที่กล้าออกมาแสดงออก คำสั่งดังกล่าวนี้ ยังส่งผลต่อตัวปลัด สธ. และระบบราชการทั้งระบบ เพราะปลัด สธ. เป็นข้าราชการคนหนึ่งทำงานมาตลอด แต่กลับถูกรังแก ที่สำคัญกระทบต่อกฎหมาย พ.ร.บ.การบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 สิ่งที่เกิดขึ้นประชาคมฯ ได้หารือกับทางเครือข่ายโรงพยาบาลทุกระดับ โดยจะนัดเดินทางมาให้กำลังใจปลัด สธ. และเรียกร้องความเป็นธรรมต่อ ศ.นพ.รัชตะ วันที่ 12 มี.ค.ในเวลา 08.00 น. และจะนำปี๊บมาคลุมหัวเรียกร้องธรรมาภิบาลให้คนกระทรวงสาธารณสุข" พญ.ประชุมพร กล่าว
นายสาคร นาต๊ะ นายกสมาคมหมออนามัย กล่าวว่า เครือข่ายชมรมวิชาชีพสาธารณสุข 58 ชมรมในประชาคมสาธารณสุขประมาณ 1,000 คน จะสวมชุดเครื่องแบบวิชาชีพของตัวเองมาที่ สธ. เพื่อคัดค้านการย้าย นพ.ณรงค์ พร้อมแสดงจุดยืนเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า "ข้าราชการที่ดีต้องมีที่ยืน"
ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าใครมีความเห็นอย่างไร แต่ในสายปฏิบัติงานบ้านนอกทั่วประเทศเห็นว่ากระทรวงมีปัญหาเยอะ ทั้งเรื่องคน เงิน สิ่งของ เราสะท้อนเรื่องนี้มาตลอด และปลัด สธ.ก็มารับเรื่อง เพื่อเสนอต่อให้เรา เราเลยมองว่าคนที่กล้าคิด กล้าเสนอ กล้าออกมาส่งเสียงในที่สาธารณะเช่นนี้ ยังโดนอย่างนี้ สะท้อนว่า สธ.ไม่ต้องมาเสนออะไรอีกอย่างนั้นหรือ เพราะที่ปลัดทำก็ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
ด้าน นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ตนได้เห็นคำสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกฯ ผ่านสื่อ แต่คำสั่งทางการยังไม่เห็น ส่วนจะเรียกร้องความเป็นธรรมหรือไม่ ยังไม่ได้คิดอะไร เพราะเป็นเพียงข้าราชการคนหนึ่งเท่านั้น โดยวันที่ 12 มี.ค. จะยังเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานปลัดฯ ก่อน จากนั้นจึงจะคิดว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะตนเป็นข้าราชการก็ต้องทำงาน คงหยุดงานไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะมีคำสั่งให้ย้าย นพ.ณรงค์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า แม้จะปลดตนจากตำแหน่ง แต่ปัญหาของกระทรวงสาธารณสุขจะยังไม่จบ เพราะขณะนี้ข้าราชการกระทรวงได้ตื่น และรับทราบว่าเราต้องแก้ปัญหาด้วยกันในเรื่องของการจัดระบบบริการ โดยหากมีคำสั่งให้ทำอย่างไร ก็ต้องทำและกลับบ้านเท่านั้นเอง และยังระบุด้วยว่า ไม่ได้ขัดแย้งกับใคร เป็นเพียงข้าราชการที่ทำงานตามบทบาทหน้าที่ เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาจากรากเหง้าของระบบ ไม่ได้มาจากตัวบุคคล เป็นเรื่องของหลักการและแนวคิดที่ต่างๆ อย่าโยงเป็นความขัดแย้งระหว่างบุคคล
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และอดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ถ้าการย้ายปลัดสธ. มีประโยชน์กับการบริหารราชการและขับเคลื่อนนโยบายก็อยู่ที่ผู้บังคับบัญชา เพราะว่ารัฐบาลมีเวลาจำกัด เพราะฉะนั้นโดยภาพรวมในกระบวนการทำงานของฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำต้องสอดคล้องกันและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ ที่สโมสรทหารบก นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีกลุ่มประชาคมสาธารณสุขประกาศเคลื่อนไหวต่อต้านการโยกย้ายครั้งนี้ และจะขับไล่รัฐมนตรี ว่า หวังพูดคุยทำความเข้าใจได้ เพราะอยากให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันไปข้างหน้า เพราะเวลารัฐบาลมีจำกัด และไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาบานปลาย ขณะนี้ได้แต่งตั้งนายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ขึ้นมารักษาการแทนแล้ว ส่วนที่ไม่ได้มติครม.เพราะไม่ใช่เป็นการตัดตำแหน่ง เป็นการโยกย้ายมาปฏิบัติราชการเท่านั้น
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการตั้งกรรมการสอบนพ.ณรงค์ ว่า มันมีปัญหาๆ ทางกระทรวงเขาบอกว่ามีปัญหาในการทำงาน ตั้งแต่เข้ามาทำงานนานแล้ว และพร้อมให้มาช่วยงาน ไม่ต้องกังวล อย่าไปปลุกม็อบมา เดี๋ยวจะทำงานกันไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความขัดแย้งภายใน สธ.จนเป็นที่มาของการย้ายปลัด สธ. มาจากกรณีการบริหารจัดการที่เห็นไม่ตรงกับ สปสช. โดยเฉพาะเรื่องการจัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวปี 2558 ซึ่ง สธ.เสนอว่าควรบริหารจัดการที่เขตสุขภาพ ขณะที่ สปสช.เห็นว่าควรบริหารงบตามเดิม แต่มติบอร์ด สปสช.ได้เห็นชอบการจัดสรรงบประมาณแบบใหม่ตามที่คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลังเสนอแล้ว เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเหตุผลหนึ่งที่ต้องปรับการจัดสรรเงิน คือ ภาวะโรงพยาบาลขาดสภาพคล่อง ซึ่ง นพ.ณรงค์ ได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณและการจัดสรรเงินของ สปสช.ด้วย เพราะมีการโอนเงินไปกลับ รวมถึงโอนให้หน่วยงานที่ไม่ใช่หน่วยบริการตามกฎหมาย ซึ่ง สปสช.ก็มีการออกมาตอบโต้เรื่องดังกล่าว ขณะที่ รมว.สาธารณสุข ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสองชุด โดยชุดแรกให้ติดตามแก้ปัญหาเรื่องโรงพยาบาลขาดทุน และอีกชุดเป็นการตรวจสอบข้อมูลการจัดสรรงบประมาณบัตรทอง ทำให้มีการโยงว่าปัญหาเกิดขึ้นจาก นพ.ณรงค์
สำหรับประวัติ นพ.สุรเชษฐ์ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการปลัด สธ. เริ่มรับราชการ 1 เม.ย.2523 อายุราชการ 34 ปี ประวัติการทำงานเคยเป็น ผอ.รพ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ผอ.รพ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ผอ.กองสาธารณสุขภูมิภาค กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี สาธารณสุขนิเทศก์ รักษาการผอ.สำนักระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (ศูนย์นเรนทร) รักษาการเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2558 ในหนังสือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 75/2558 เรื่องให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 70/2558 ลงวันที่ 5 มี.ค.2558 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีปรากฏข่าวว่าการปฏิบัติราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประสบปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อสนองนโยบายด้านสาธารณสุขของรัฐบาลและนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น เพื่อให้การดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ให้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนสังกัดเดิมไปพลางก่อน โดยให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกรัฐมนตรี เพื่อปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานวิจัยและพัฒนางานด้านการสุขภาพแห่งชาติ
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง นพ.ณรงค์ กรณี สธ.ปรากฎเป็นข่าวจนทำให้สังคมมองว่าเกิดความขัดแย้งขึ้น ซึ่งตรงนี้ จะมีการสอบข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งระหว่างรอผลการสอบสวน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามสั่งย้าย นพ.ณรงค์ ให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.รัชตะ ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนปลัด สธ. ลงวันที่ 11 มี.ค.2558 โดยแต่งตั้ง นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัด สธ. รักษาการแทนปลัด สธ. อีกตำแหน่งหนึ่ง
พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) ในฐานะตัวแทนประชาคมสาธารณสุข กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบธรรม แทนที่จะสอบปลัด สธ. ควรไปสอบสวนเอาผิดสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะดีกว่า เพราะบริหารงานส่งผลต่อโรงพยาบาล ทำให้ขาดทุน แต่กลับมาสอบปลัด สธ. และสั่งย้าย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชน เพราะ นพ.ณรงค์ เป็นผู้เดินหน้านโยบายเขตสุขภาพในการจัดบริการร่วมเพื่อประชาชน ซึ่งไม่รู้ว่าคนที่มาแทนจะเดินหน้าหรือไม่ และยังส่งผลต่อขวัญและกำลังใจบุคลากรสาธารณสุข เพราะแม้จะมีปัญหาภายใน แต่ทุกคนก็ทำงานโดยไม่แบ่งแยกว่านโยบายนี้รัฐมนตรีหรือปลัด
"ปลัดสธ. เป็นเหมือนตัวแทนข้าราชการที่กล้าต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ตั้งแต่ก่อนจะมีการปฏิรูปรัฐบาล จนเกิดรัฐบาลยุคนี้ เรียกว่าเป็นปลัดคนเดียวที่กล้าออกมาแสดงออก คำสั่งดังกล่าวนี้ ยังส่งผลต่อตัวปลัด สธ. และระบบราชการทั้งระบบ เพราะปลัด สธ. เป็นข้าราชการคนหนึ่งทำงานมาตลอด แต่กลับถูกรังแก ที่สำคัญกระทบต่อกฎหมาย พ.ร.บ.การบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 สิ่งที่เกิดขึ้นประชาคมฯ ได้หารือกับทางเครือข่ายโรงพยาบาลทุกระดับ โดยจะนัดเดินทางมาให้กำลังใจปลัด สธ. และเรียกร้องความเป็นธรรมต่อ ศ.นพ.รัชตะ วันที่ 12 มี.ค.ในเวลา 08.00 น. และจะนำปี๊บมาคลุมหัวเรียกร้องธรรมาภิบาลให้คนกระทรวงสาธารณสุข" พญ.ประชุมพร กล่าว
นายสาคร นาต๊ะ นายกสมาคมหมออนามัย กล่าวว่า เครือข่ายชมรมวิชาชีพสาธารณสุข 58 ชมรมในประชาคมสาธารณสุขประมาณ 1,000 คน จะสวมชุดเครื่องแบบวิชาชีพของตัวเองมาที่ สธ. เพื่อคัดค้านการย้าย นพ.ณรงค์ พร้อมแสดงจุดยืนเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า "ข้าราชการที่ดีต้องมีที่ยืน"
ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าใครมีความเห็นอย่างไร แต่ในสายปฏิบัติงานบ้านนอกทั่วประเทศเห็นว่ากระทรวงมีปัญหาเยอะ ทั้งเรื่องคน เงิน สิ่งของ เราสะท้อนเรื่องนี้มาตลอด และปลัด สธ.ก็มารับเรื่อง เพื่อเสนอต่อให้เรา เราเลยมองว่าคนที่กล้าคิด กล้าเสนอ กล้าออกมาส่งเสียงในที่สาธารณะเช่นนี้ ยังโดนอย่างนี้ สะท้อนว่า สธ.ไม่ต้องมาเสนออะไรอีกอย่างนั้นหรือ เพราะที่ปลัดทำก็ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
ด้าน นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ตนได้เห็นคำสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกฯ ผ่านสื่อ แต่คำสั่งทางการยังไม่เห็น ส่วนจะเรียกร้องความเป็นธรรมหรือไม่ ยังไม่ได้คิดอะไร เพราะเป็นเพียงข้าราชการคนหนึ่งเท่านั้น โดยวันที่ 12 มี.ค. จะยังเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานปลัดฯ ก่อน จากนั้นจึงจะคิดว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะตนเป็นข้าราชการก็ต้องทำงาน คงหยุดงานไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะมีคำสั่งให้ย้าย นพ.ณรงค์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า แม้จะปลดตนจากตำแหน่ง แต่ปัญหาของกระทรวงสาธารณสุขจะยังไม่จบ เพราะขณะนี้ข้าราชการกระทรวงได้ตื่น และรับทราบว่าเราต้องแก้ปัญหาด้วยกันในเรื่องของการจัดระบบบริการ โดยหากมีคำสั่งให้ทำอย่างไร ก็ต้องทำและกลับบ้านเท่านั้นเอง และยังระบุด้วยว่า ไม่ได้ขัดแย้งกับใคร เป็นเพียงข้าราชการที่ทำงานตามบทบาทหน้าที่ เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาจากรากเหง้าของระบบ ไม่ได้มาจากตัวบุคคล เป็นเรื่องของหลักการและแนวคิดที่ต่างๆ อย่าโยงเป็นความขัดแย้งระหว่างบุคคล
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และอดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ถ้าการย้ายปลัดสธ. มีประโยชน์กับการบริหารราชการและขับเคลื่อนนโยบายก็อยู่ที่ผู้บังคับบัญชา เพราะว่ารัฐบาลมีเวลาจำกัด เพราะฉะนั้นโดยภาพรวมในกระบวนการทำงานของฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำต้องสอดคล้องกันและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ ที่สโมสรทหารบก นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีกลุ่มประชาคมสาธารณสุขประกาศเคลื่อนไหวต่อต้านการโยกย้ายครั้งนี้ และจะขับไล่รัฐมนตรี ว่า หวังพูดคุยทำความเข้าใจได้ เพราะอยากให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันไปข้างหน้า เพราะเวลารัฐบาลมีจำกัด และไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาบานปลาย ขณะนี้ได้แต่งตั้งนายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ขึ้นมารักษาการแทนแล้ว ส่วนที่ไม่ได้มติครม.เพราะไม่ใช่เป็นการตัดตำแหน่ง เป็นการโยกย้ายมาปฏิบัติราชการเท่านั้น
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการตั้งกรรมการสอบนพ.ณรงค์ ว่า มันมีปัญหาๆ ทางกระทรวงเขาบอกว่ามีปัญหาในการทำงาน ตั้งแต่เข้ามาทำงานนานแล้ว และพร้อมให้มาช่วยงาน ไม่ต้องกังวล อย่าไปปลุกม็อบมา เดี๋ยวจะทำงานกันไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความขัดแย้งภายใน สธ.จนเป็นที่มาของการย้ายปลัด สธ. มาจากกรณีการบริหารจัดการที่เห็นไม่ตรงกับ สปสช. โดยเฉพาะเรื่องการจัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวปี 2558 ซึ่ง สธ.เสนอว่าควรบริหารจัดการที่เขตสุขภาพ ขณะที่ สปสช.เห็นว่าควรบริหารงบตามเดิม แต่มติบอร์ด สปสช.ได้เห็นชอบการจัดสรรงบประมาณแบบใหม่ตามที่คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลังเสนอแล้ว เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเหตุผลหนึ่งที่ต้องปรับการจัดสรรเงิน คือ ภาวะโรงพยาบาลขาดสภาพคล่อง ซึ่ง นพ.ณรงค์ ได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณและการจัดสรรเงินของ สปสช.ด้วย เพราะมีการโอนเงินไปกลับ รวมถึงโอนให้หน่วยงานที่ไม่ใช่หน่วยบริการตามกฎหมาย ซึ่ง สปสช.ก็มีการออกมาตอบโต้เรื่องดังกล่าว ขณะที่ รมว.สาธารณสุข ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสองชุด โดยชุดแรกให้ติดตามแก้ปัญหาเรื่องโรงพยาบาลขาดทุน และอีกชุดเป็นการตรวจสอบข้อมูลการจัดสรรงบประมาณบัตรทอง ทำให้มีการโยงว่าปัญหาเกิดขึ้นจาก นพ.ณรงค์
สำหรับประวัติ นพ.สุรเชษฐ์ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการปลัด สธ. เริ่มรับราชการ 1 เม.ย.2523 อายุราชการ 34 ปี ประวัติการทำงานเคยเป็น ผอ.รพ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ผอ.รพ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ผอ.กองสาธารณสุขภูมิภาค กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี สาธารณสุขนิเทศก์ รักษาการผอ.สำนักระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (ศูนย์นเรนทร) รักษาการเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
