“หมอณรงค์” ลั่นยังเป็นปลัด สธ. ระบุเคารพนายกฯ พร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง ย้ำอย่าให้ใครฉวยโอกาสกล่าวหาม็อบหมอต้านรัฐบาล ชี้ต้องช่วยรัฐบาลให้เดินหน้า เผยจากนี้จะกอบกู้ศักดิ์ของตัวเอง ครอบครัว ข้าราชการ และปลัดกระทรวง ยันทำงานตามนโยบายรัฐบาล ซัดกลับใครกันแน่ที่ไม่ทำตาม ระบุ 3 สิ่งที่คน สธ. เห็นร่วมกันทั้งเขตสุขภาพ ปฏิรูปการเงินการคลัง และธรรมาภิบาล ให้ตายก็จะทำต่อ
วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 09.10 น. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เดินทางลงมาจากห้องทำงานเพื่อเปิดใจต่อหน้าข้าราชการ พร้อมรับมอบดอกไม้ที่มาให้กำลังใจ ว่า ขณะนี้ตนยังคงเป็นปลัด สธ. เช่นเดิม โดยวันนี้จะเดินทางไปพบรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย เพราะตนเป็นข้าราชการ มีผู้บังคับบัญชา มีเกียรติยศศักดิ์ศรี ก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของนายกฯ ที่ห่วงคืออย่าให้ใครใช้โอกาสนี้มาบิดเบือนว่าเรามาต่อต้านรัฐบาล เพราะเราไม่เคยคิดเช่นนั้น แต่ที่มาคือเพื่อมาบอกว่ากระทรวงเป็นอย่างไร ขอให้นายกฯ ช่วยดูระบบสาธารณสุขบ้างว่าอยู่กันอย่างไร แต่เชื่อว่านายกฯกำลังดูอยู่ แต่ข้อมูลยังมีไม่มาก
“ไม่อยากให้ใครปลุกระดมว่า ม็อบหมอไล่รัฐบาล เราต้องช่วยให้รัฐบาลเดินไปให้ได้ อย่างมีธรรมาภิบาล ซึ่งนายกฯ เองก็เสียสละ แบกความเสี่ยงมากมาย เมื่อตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง คิดว่าทุกคนในประเทศเห็นด้วย ผมกังวลคนที่ไม่เคยต่อสู้อะไรเลย แต่กำลังจะมาชุบมือเปิบ และกำลังจะทำลายนายกฯ ห่วงคนที่ไม่เคยต้องเสี่ยงอะไรเลย เดินไปเดินมาแล้วมาบริหารประเทศ เราต้องให้โอกาสกับนายกฯ ในการทำงานแก้ไขประเทศ” ปลัด สธ. กล่าว
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า หลายคนมองว่าที่ตนถูกย้ายในครั้งนี้ เพราะไม่ทำตามนโยบายรัฐบาลนั้นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเราเดินหน้าเรื่องเขตสุขภาพมาตลอด 2 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เราชาวสาธารณสุขคิดเห็นตรงกัน และเป็นนโยบายในข้อ 5.2 ของรัฐบาล แต่รัฐมนตรีกลับไม่เคยกล้าพูดในเรื่องเขตสุขภาพเลย นอกจากนี้ นายกฯอยากเห็นเด็กไทยฉลาด กำลังปฏิรูปการศึกษา สธ. ก็เสนอให้เดินหน้าในเรื่องพัฒนาการสมวัยของเด็กอายุ 0 - 5 ปี เพราะมีพัฒนาการล่าช้ามากถึง 30% เพื่อส่งมอบเด็กที่มีพัฒนาการสมวัยต่อให้กับโรงเรียนต่อไป แต่นโยบายนี้เพิ่งได้รับการยอมรับเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งที่เคยเสนอให้เป็นของขวัญปีใหม่แต่ถูกปฏิเสธ ใครกันแน่ที่ไม่ทำตามนโยบายรัฐบาล
“สิ่งที่เราชาวสาธารณสุขเห็นตรงกันว่าต้องเดินหน้า คือ เรื่องเขตสุขภาพ การปฏิรูปการเงินการคลัง และธรรมาภิบาล ซึ่งหลายคนบอกว่าตนโดนถูกย้ายเพราะปฏิรูประบบการเงินการคลัง เนื่องจากไปแตะโดนกล่องหัวใจของคนบางกลุ่ม ซึ่งผมเสนอว่าควรมีการแก้ไข เพราะเงินบัตรทองถือเป็นภาษีของประชาชนที่ควรให้หน่วยบริการนำมาบริการประชาชน แต่กลับมีการโอนเงินสิ้นปีงบประมาณพันกว่าล้านบาทให้โรงพยาบาลแล้วโอนกลับ โดยอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือก่อน ถามว่ามีจริงหรือ รวมถึงการเอาเงินไปให้มูลนิธิ เป็นเงินเดือนผู้จัดการ เรื่องนี้ถึงแม้จะเกษียณก็จะตามดูต่อ และอยากขอให้ข้าราชการทุกคนตามดูต่อเช่นกันทุกพื้นที่ ว่าเงินมาถึงเราอย่างไร เต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่ แล้วหายไปไหน และอยากให้ประชาชนช่วยดูเรื่องนี้ว่า กองทุนบัตรทองทำงานอย่างไร มีธรรมาภิบาล ประสิทธิภาพแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 เรื่องนั้นให้ตายก็จะทำต่อไป และย้อนเวลากลับไปได้ก็ไม่เสียใจ และจะเดินหน้าทำเช่นเดิม” ปลัด สธ. กล่าว
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มาเพราะการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ต้องการสร้างธรรมาภิบาล ดังนั้น ต้องตรวจสอบเรื่องงบบัตรทองด้วย เพราะพบว่ามีการใช้เงินกองทุนผิดวัตถุประสงค์ แต่ รมว.สธ. กลับตั้งกรรมการสอบโรงพยาบาลขาดทุนแทน ทั้งที่พวกเราคาดหวังจะเข้ามาดูแนวคิดที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ว่าอะไรไปด้วยกันได้ อะไรไปด้วยกันไม่ได้ เป็นทั้งประธานบอร์ด สปสช. และ รมว.สธ. ควรจะต้องนั่งดูข้อมูลให้รอบด้านแล้วตัดสินใจ เรื่องนี้หลายคนมองว่ากระทรวงพยายามรวบอำนาจ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ เพราะไม่ว่ามีเงินหรือไม่มีเงิน เราก็ให้บริการประชาชนเหมือนเดิม ไม่มีการเอามาเป็นตัวประกัน จึงขอร้องว่า อย่าโยนให้เป็นความขัดแย้งส่วนบุคคล แต่เป็นเพราะหลักการที่ไม่เหมือนกัน
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า จากนี้ต้องกอบกู้ศักดิ์ของตัวเอง และครอบครัวกลับมา กอบกู้ศักดิ์ศรีของข้าราชการประจำ และกอบกู้ศักดิ์ศรีของปลัดกระทรวง ซึ่งอดีตปลัด สธ. หลายท่านโทร.มาบอกว่าห้ามลาออกเด็ดขาดต้องอยู่เพื่อกอบกู้ศักดิ์ของปลัดกระทรวง ซึ่งเป็นศักดิ์ศรีของข้าราชการสูงสุดที่ไม่ควรถูกกระทำย่ำยีเช่นนี้ และคนที่จะมาเป็นปลัดกระทรวงต่อจากนี้ขอให้เข้ามาด้วยเหตุผลว่ามาทำงานจริงๆ อย่ามาเพราะแค่อยากมา อย่ามายืนเอามือกุมเป้าเฉยๆ อย่ามาเพราะแค่ต้องการให้เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลเท่านั้น
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่