วันนี้ (24 ก.พ.) ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย สมาคมหมออนามัย สมาคมวิชาชีพการสาธารณสุข มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย และตัวแทนสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) กว่า 500 คน เดินทางมาประชุมปฏิรูประบบสาธารณสุขปฐมภูมิ เพื่อเสนอข้อคิดเห็นต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยยืนยันชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยในการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไปอยู่สังกัดกระทรวงมหาดไทยแทน ตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542
ทั้งนี้ ทางกลุ่มยังร่วมกันชูป้ายไวนิลข้อความเพื่อให้กำลังใจ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข และ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. โดยระบุว่า "พวกเราสนับสนุนคนดี มือสะอาด" "จงร่วมยืนหยัดเพื่อสุขภาพคนไทย ขอเป็นกำลังใจให้กับท่าน"
"กระแสที่ว่ามาให้กำลังใจปลัด สธ.นั้น เราไม่ได้จัดตั้งม็อบ แต่เดินทางมาร่วมประชุม ซึ่งเราก็ให้กำลังใจทั้ง 2 ท่าน ทั้ง รมว.สธ.และปลัด สธ. ซึ่งทั้งสองคนล้วนเป็นคนดี อย่าง ศ.นพ.รัชตะถือเป็นคนดีและเก่ง ส่วน นพ.ณรงค์ เป็นคนกล้า เห็นได้จากช่วงตอนปฏิรูปการเมือง ก็เป็นปลัดกระทรวงเดียวที่กล้ามออกมาต่อต้านการโกง พวกเราเห็นว่าทั้งสองท่านมีความลงตัว ผสมผสาน เพียงแต่การทำงานอาจยังไม่เข้าใจกัน เพราะ ศ.นพ.รัชตะมาจากสายการศึกษา แต่ นพ.ณรงค์เติบโตมาจากกระทรวงฯ ซึ่งพวกเราอยากเห็นการทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของประชาชนและบุคลากร ให้ขับเคลื่อนงานออกไปได้ ไม่อยากให้มาจับประเด็นว่าขัดแย้งกัน" นายปรเมษฐ์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลต่อการทำงานในระดับพื้นที่ รพ.สต.ยังคงเดินหน้าตามนโยบายของ รมว.สธ.ในเรื่องหมอครอบครัว และการกระจายอำนาจของปลัด สธ. โดยทำอย่างเต็มที่ ไม่มีเกียร์ว่าง
ด้าน นายสุรศักดิ์ ชัยชนะ สสอ.เมืองพะเยา กล่าวว่า ขอสนับสนุน นพ.ณรงค์ ในการทำหน้าที่ปลัดสธ.ต่อไปอย่างตลอดรอดฝั่ง เนื่องจากเป็นผู้ที่มีเจตนาดี มีความสุจริตใจในการรักษาศักดิ์ศรีข้าราชการไทย ไม่อยากเห็นข้าราชการประจำถูกข้าราชการการเมืองหรือคนอื่นมารังแก ถ้าตำแหน่งปลัดกระทรวงที่เปรียบเสมือนปู่ของคนสธ.แล้วข้าราชการตัวเล็กๆอย่างพวกเราจะไม่ถูกรังแกหรืออย่างไร อยากให้ นพ.ณรงค์ยืนหยัดและต่อสู้เพื่อ สธ.และสุขภาพของประชาชนต่อไป เชื่อว่าการสนับสนุนแบบนี้ไม่ได้ผิดกฎหมายหรือต่อต้านใคร แต่ถ้าผู้ที่กล้ารุกขึ้นมานำในการเปลี่ยนแปลงระบบสาธารณสุขยังถูกกลั่นแกล้ง จะทำให้ไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็น ระบบสาธารณสุขก็จะกลับสู่วังวนเดิมๆ