สธ.ยก รพ.หนองคายแห่งที่ 2 ต้นแบบการจัดบริการปฐมภูมิ ช่วยลดแออัด รพ.ขนาดใหญ่ เผยประชาชนพอใจ ลดรอคอยจาก 146 นาทีเหลือ 23 นาที ส่วนทำหัตถการใช้เวลาเฉลี่ย 50 นาทีต่อราย หนุน รพ.สต. ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง เปิดคลินิกโรคเรื้อรัง
วันนี้ (20 ก.พ.) นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยม รพ.หนองคายแห่งที่ 2 รพ.โพนพิสัย และ รพ.เฝ้าไร่ ว่า สธ.ส่งเสริมการพัฒนาหน่วยบริการปฐมภูมิให้มีศักยภาพ เมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อยสามารถรักษาใกล้บ้านได้ ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ อย่างหนองคายได้เปิด รพ.หนองคายแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลระดับปฐมภูมิ เพื่อดูแลประชาชนในเขตเมือง ที่เจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไป โดยผลการดำเนินงานในรอบ 2 ปี พบว่า ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้มากขึ้น มีผู้เข้ารับบริการวันละ 200-300 คน ช่วยให้โรงพยาบาลจังหวัดสามารถให้บริการระดับทุติยภูมิและระดับตติยภูมิได้อย่างเต็มศักยภาพ ลดระยะเวลารอคอย จากเดิมใช้เวลาในการเข้ารับบริการเฉลี่ย 146 นาที เหลือเพียง 23 นาที กรณีไม่ได้ทำหัตถการ ส่วนกรณีทำหัตถการใช้เวลา 50 นาที ต่อ 1 ราย สร้างความสะดวกและพึงพอใจให้ผู้รับบริการอย่างมาก
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้จัดระบบคลินิกโรคเรื้อรังใน รพ.สต. โดยพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ให้มีพยาบาลเวชปฏิบัติ จัดระบบให้คำปรึกษากับแพทย์ ทั้งทางโทรศัพท์ และโปรแกรมไลน์ รวมทั้งจัดแพทย์ เภสัชกร หมุนเวียนไปตรวจรักษา แนะนำการใช้ยาทุกเดือน จัดระบบส่งต่อ-ส่งกลับที่มีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจให้ผู้ป่วย ตัดสินใจ ที่จะใช้บริการใกล้บ้าน โดยขณะนี้สามารถส่งผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่คุมอาการได้ดี ไม่มีโรคแทรกซ้อน ไปดูแลต่อที่ รพ.สต.ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองเครือข่าย ทั้ง 20 แห่ง ได้ถึงร้อยละ 60 ประชาชนเข้าถึงบริการสะดวก และมั่นใจในระบบบริการ ส่งผลให้ความพึงพอใจของผู้รับบริการในตึกผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 79 เป็นร้อยละ 89
"สำหรับโรงพยาบาลเฝ้าไร่ เป็นโรงพยาบาลเปิดใหม่มีบริการเฉพาะผู้ป่วยนอก รับผิดชอบประชากร 5 หมื่นกว่าคน ตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อ ต.ค. 2557 ซึ่งจากข้อมูลเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2558 มีผู้ป่วยเข้ารับบริการเกือบ 2 หมื่นราย เฉลี่ยวันละ 165 ราย และมีแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยเข้ารับบริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่พึ่งของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล นับเป็นตัวอย่างในการเพิ่มบริการเชิงรุกเข้าไปให้ในชุมชน ให้ความสะดวกในการเข้าถึงบริการ" รมช.สธ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (20 ก.พ.) นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยม รพ.หนองคายแห่งที่ 2 รพ.โพนพิสัย และ รพ.เฝ้าไร่ ว่า สธ.ส่งเสริมการพัฒนาหน่วยบริการปฐมภูมิให้มีศักยภาพ เมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อยสามารถรักษาใกล้บ้านได้ ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ อย่างหนองคายได้เปิด รพ.หนองคายแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลระดับปฐมภูมิ เพื่อดูแลประชาชนในเขตเมือง ที่เจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไป โดยผลการดำเนินงานในรอบ 2 ปี พบว่า ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้มากขึ้น มีผู้เข้ารับบริการวันละ 200-300 คน ช่วยให้โรงพยาบาลจังหวัดสามารถให้บริการระดับทุติยภูมิและระดับตติยภูมิได้อย่างเต็มศักยภาพ ลดระยะเวลารอคอย จากเดิมใช้เวลาในการเข้ารับบริการเฉลี่ย 146 นาที เหลือเพียง 23 นาที กรณีไม่ได้ทำหัตถการ ส่วนกรณีทำหัตถการใช้เวลา 50 นาที ต่อ 1 ราย สร้างความสะดวกและพึงพอใจให้ผู้รับบริการอย่างมาก
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้จัดระบบคลินิกโรคเรื้อรังใน รพ.สต. โดยพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ให้มีพยาบาลเวชปฏิบัติ จัดระบบให้คำปรึกษากับแพทย์ ทั้งทางโทรศัพท์ และโปรแกรมไลน์ รวมทั้งจัดแพทย์ เภสัชกร หมุนเวียนไปตรวจรักษา แนะนำการใช้ยาทุกเดือน จัดระบบส่งต่อ-ส่งกลับที่มีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจให้ผู้ป่วย ตัดสินใจ ที่จะใช้บริการใกล้บ้าน โดยขณะนี้สามารถส่งผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่คุมอาการได้ดี ไม่มีโรคแทรกซ้อน ไปดูแลต่อที่ รพ.สต.ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองเครือข่าย ทั้ง 20 แห่ง ได้ถึงร้อยละ 60 ประชาชนเข้าถึงบริการสะดวก และมั่นใจในระบบบริการ ส่งผลให้ความพึงพอใจของผู้รับบริการในตึกผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 79 เป็นร้อยละ 89
"สำหรับโรงพยาบาลเฝ้าไร่ เป็นโรงพยาบาลเปิดใหม่มีบริการเฉพาะผู้ป่วยนอก รับผิดชอบประชากร 5 หมื่นกว่าคน ตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อ ต.ค. 2557 ซึ่งจากข้อมูลเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2558 มีผู้ป่วยเข้ารับบริการเกือบ 2 หมื่นราย เฉลี่ยวันละ 165 ราย และมีแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยเข้ารับบริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่พึ่งของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล นับเป็นตัวอย่างในการเพิ่มบริการเชิงรุกเข้าไปให้ในชุมชน ให้ความสะดวกในการเข้าถึงบริการ" รมช.สธ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่