กสร. เร่งแก้ปัญหาสัญญาทาสแรงงานนอกระบบภาคเกษตรพันธสัญญา ชงเรื่องให้ คกก.คุ้มครองผู้รับงานฯ ตีความกลุ่มดังกล่าวเข้าข่ายรับงานไปทำที่บ้านหรือไม่ หากใช้พร้อมดูแลเรื่องสัญญา รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
วันนี้ (5 ก.พ.) นายพีรพัฒน์ พรศิริเลิศกิจ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยม การคุ้มครองแรงงานนอกระบบของบริษัท ไพโอเนีย ไฮเบรก สำนักงานใหญ่นิคมอุตสาหกรรมลำพูน จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ว่า ที่ผ่านมา มีเสียงร้องเรียนจากผู้นำแรงงานว่าแรงงานนอกระบบ ในกลุ่มเกษตกรพันธสัญญาถูกนายจ้างเอาเปรียบ กสร. จึงจะนำปัญหาในเรื่องนี้ เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน ว่า จะมีการตีความกฎหมายคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้านให้ครอบคลุมไปถึงกลุ่มเกษตกรพันธสัญญา และพิจารณาออกกฎกระทรวงรองรับ โดยคณะกรรมการมีจำนวนทั้งหมด 15 คน ประกอบด้วย ฝ่ายผู้จ้างงาน ผู้รับงานไปทำที่บ้านซึ่งมีปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธาน แต่ยังขาดกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 คน โดยจะเร่งคัดเลือกผู้ที่เหมาะสม เสนอต่อ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อดำเนินการแต่งตั้งต่อไป นอกจากนี้ จะศึกษาสัญญาจ้างงานของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ หากตีความว่าเกษตรพันธสัญญาเข้าข่ายการรับงานไปทำที่บ้านก็จะเข้าไปดูแลเรื่องสัญญาจ้างให้เป็นธรรมและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ด้านนายดุสิต กุลสันติวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายผลิต บริษัท ไพโอเนีย ไฮเบรก กล่าวว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรพันธสัญญาในเครือข่าย ซึ่งจ้างงานในรูปแบบการทำสัญญาเป็นฤดูกาลประมาณ 10,000 ครัวเรือน เป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดทั้งหมด 20,000 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดลำปาง เชียงใหม่ อุตรดิตถ์และที่อำเภอแม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน โดยเป็นการทำสัญญากับตัวเกษตกรโดยตรงไม่ผ่านนายหน้า และมีการประกันราคารับซื้อตามการคาดการณ์ของราคาตลาดโลก ประมาณ 13,000 - 15,000 บาทต่อไร่ จากต้นทุนไร่ละ 3,500 บาท ใช้ระยะเวลาการปลูก 3 เดือน ซึ่งมีการอำนวยความสะดวกด้านเมล็ดพันธุ์ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมีเครื่องมือการเกษตรในราคาต้นทุน นอกจากนี้ ยังมีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวพันธุ์ข้าวโพด วิธีการปลูก การดูแล ด้านความปลอดภัยในการทำงาน และดูแลไม่ให้ใช้แรงงานเด็ก ไม่ใช้แรงงานข้ามชาติ รวมทั้งเตรียมหน่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นในกรณีฉุกเฉินพร้อมนำส่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (5 ก.พ.) นายพีรพัฒน์ พรศิริเลิศกิจ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยม การคุ้มครองแรงงานนอกระบบของบริษัท ไพโอเนีย ไฮเบรก สำนักงานใหญ่นิคมอุตสาหกรรมลำพูน จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ว่า ที่ผ่านมา มีเสียงร้องเรียนจากผู้นำแรงงานว่าแรงงานนอกระบบ ในกลุ่มเกษตกรพันธสัญญาถูกนายจ้างเอาเปรียบ กสร. จึงจะนำปัญหาในเรื่องนี้ เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน ว่า จะมีการตีความกฎหมายคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้านให้ครอบคลุมไปถึงกลุ่มเกษตกรพันธสัญญา และพิจารณาออกกฎกระทรวงรองรับ โดยคณะกรรมการมีจำนวนทั้งหมด 15 คน ประกอบด้วย ฝ่ายผู้จ้างงาน ผู้รับงานไปทำที่บ้านซึ่งมีปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธาน แต่ยังขาดกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 คน โดยจะเร่งคัดเลือกผู้ที่เหมาะสม เสนอต่อ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อดำเนินการแต่งตั้งต่อไป นอกจากนี้ จะศึกษาสัญญาจ้างงานของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ หากตีความว่าเกษตรพันธสัญญาเข้าข่ายการรับงานไปทำที่บ้านก็จะเข้าไปดูแลเรื่องสัญญาจ้างให้เป็นธรรมและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ด้านนายดุสิต กุลสันติวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายผลิต บริษัท ไพโอเนีย ไฮเบรก กล่าวว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรพันธสัญญาในเครือข่าย ซึ่งจ้างงานในรูปแบบการทำสัญญาเป็นฤดูกาลประมาณ 10,000 ครัวเรือน เป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดทั้งหมด 20,000 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดลำปาง เชียงใหม่ อุตรดิตถ์และที่อำเภอแม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน โดยเป็นการทำสัญญากับตัวเกษตกรโดยตรงไม่ผ่านนายหน้า และมีการประกันราคารับซื้อตามการคาดการณ์ของราคาตลาดโลก ประมาณ 13,000 - 15,000 บาทต่อไร่ จากต้นทุนไร่ละ 3,500 บาท ใช้ระยะเวลาการปลูก 3 เดือน ซึ่งมีการอำนวยความสะดวกด้านเมล็ดพันธุ์ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมีเครื่องมือการเกษตรในราคาต้นทุน นอกจากนี้ ยังมีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวพันธุ์ข้าวโพด วิธีการปลูก การดูแล ด้านความปลอดภัยในการทำงาน และดูแลไม่ให้ใช้แรงงานเด็ก ไม่ใช้แรงงานข้ามชาติ รวมทั้งเตรียมหน่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นในกรณีฉุกเฉินพร้อมนำส่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่