xs
xsm
sm
md
lg

เอ็นจีโอหวั่น สป.ดูแลต่างด้าวแทนกรมจัดหางาน ยิ่งเปิดช่องกอบโกย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 
 
“บิ๊กเต่า” เดินหน้าปรับโครงสร้าง กกจ. ลดภาระงานต่างด้าว กระจายอำนาจให้ สป. ช่วยดูแล มุ่งส่งเสริมคนไทยมีงานทำ ด้านเครือข่ายผู้ทำงานหวั่นโอนงานบริหาร เปิดช่องแสวงหาผลประโยชน์ซ้ำ

นายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันการดำเนินภารกิจต่างๆ ของกระทรวงแรงงาน เช่น การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ การแก้ปัญหาค้ามนุษย์ การสนับสนุนด้านแรงงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 5 จังหวัด และการส่งเสริมการมีงานทำในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังขาดความคล่องตัวและมีอุปสรรคในแง่ของกฎหมาย ทำให้เดินหน้าภารกิจได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจึงมีนโยบายให้เพิ่มประสิทธิภาพภารกิจของกระทรวงโดยตั้งคณะทำงานขึ้นมา 4 - 5 ชุด เพื่อศึกษาแนวทางการบูรณาการด้านการปฏิบัติและกฎหมายระหว่างหน่วยงานภายในกระทรวงแรงงานและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องโดยให้มีการรายงานผลการศึกษาทุก 2 สัปดาห์
 
นายอารักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับภารกิจของกรมการจัดหางาน (กกจ.) ในปีหน้า รมว.แรงงาน มีนโยบายเน้นการส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำ เนื่องจากมีแรงงานไทยว่างงานกว่า 3 แสนคน ยังไม่รวมบัณทิตจบใหม่ปีละ 1.5 แสนคน นอกจากนี้ ยังมีแรงงานนอกระบบอีกกว่า 26 ล้านคนได้มีงานทำทั้งในไทยและต่างประเทศจึงต้องกระจายภารกิจการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวโดยมอบอำนาจให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน และสำนักงานแรงงานจังหวัดเข้ามาช่วยดูแลเพื่อลดภาระงานของกรมการจัดหางาน ซึ่งตนเป็นประธานคณะทำงานฯ ทำการศึกษาในเรื่องนี้ก็จะเร่งศึกษา ว่า กกจ. ควรมอบอำนาจการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานในเรื่องใดบ้างจึงจะเหมาะสมและจะเสนอต่อ รมว.แรงงาน ต่อไป ซึ่งปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวอยู่ในระบบเกือบ 3 ล้านคน

ด้านนายอดิศร เกิดมงคล เครือข่ายผู้ทำงานด้านประชากรข้ามชาติ กล่าวว่า หากมีการดำเนินการตามนโยบายข้างต้นจริงอาจจะแก้ปัญหาได้เพียงระยะสั้น และมีทั้งข้อดีข้อเสีย โดยข้อดี จะทำให้การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวมีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากขึ้น เพราะสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานมีการทำงานที่ใกล้ชิดกับรัฐมนตรีมากกว่า กกจ. และการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านทำได้รวดเร็วกว่าส่วนข้อเสียจะมีปัญหาในระดับปฏิบัติเพราะเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดไม่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวและต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องรื้อกันใหญ่เพราะกฎหมายให้อำนาจอธิบดี กกจ. ดูแล รวมทั้งต้องโอนภารกิจการดูแลบริษัทจัดหางานที่นำเข้าแรงงานต่างด้าวมาทำงานในไทยให้สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานดูแลด้วย และจะวางระบบอย่างไรไม่ให้มีการแสวงหาผลประโยชน์จากแรงงานต่างด้าวเกิดขึ้นอีก ที่สำคัญ ในอนาคตหากรัฐมนตรีมาจากการนักการเมืองและทำงานใกล้ชิดกับสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน อาจจะเกิดปัญหาการแสวงหาผลประโยชน์จากแรงงานต่างด้าวขึ้นหรือไม่
 
“หากจะโอนภารกิจการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ให้สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานดูแลแทน พล.อ.สุรศักดิ์ คงต้องทำการบ้านชุดใหญ่ทั้งในเรื่องของบุคลากรระดับปฏิบัติ การแก้ไขกฎหมาย การถ่ายโอนภารกิจและอำนาจต้องศึกษาอย่างละเอียดและรอบคอบให้มากที่สุด ไม่ใช่ศึกษาแค่เวลาสั้นๆ แล้วดำเนินการ และควรเปิดเวทีให้ภาคเอกชนที่ทำงานด้านแรงงานต่างด้าวมาร่วมด้วย เพื่อช่วยกันคิดหาทางอุดช่องโหว่ทั้งในแง่กฎหมายและการปฏิบัติไม่ให้รัฐมนตรีที่มาจากฝ่ายการเมืองและข้าราชการแสวงหาผลประโยชน์จากแรงงานต่างด้าวขึ้นซ้ำรอยเดิม” นายอดิศร กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น