สธ. เร่งปูพรมฉีดวัคซีนคอตีบคนไทยอายุ 20 - 50 ปี ฟรี รวม 28 ล้านคน ภายใน เม.ย. นี้ เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา “สมเด็จพระเทพฯ” เผยฉีดแล้วกว่า 5 ล้านคน พร้อมเร่งฉีดให้บุคลากรสาธารณสุข เหตุเป็นกลุ่มเสี่ยงติดโรค ย้ำผู้ใหญ่ควรรีบมาฉีด เหตุป่วยแล้วอาการหนักกว่าเด็กมาก
วันนี้ (4 ก.พ.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) นพ.จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และผู้บริหารร่วมกันเปิดงาน “การรณรงค์ให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฉลิมพระชนมายุครบ 60 พรรษา โดย นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ที่ต้องเร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนคอตีบในผู้ที่มีอายุ 20 - 50 ปี ทุกคนในประเทศไทย เนื่องจากเมื่อปี 2555 พบการระบาดในภาคอีสาน มีผู้ป่วยจำนวน 63 ราย เสียชีวิต 10 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่อยู่ในกลุ่มอายุ 20 - 50 ปี มีภูมิคุ้มกันโรคนี้ในระดับต่ำ หรือภูมิคุ้มกันลดลง
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ในปี 2557 สธ. ได้จัดโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนคอตีบในประชาชนอายุ 20 - 50 ปี ทุกจังหวัดในภาคอีสาน โดยในปี 2558 จึงได้จัดทำเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 60 พรรษา โดยขยายการรณรงค์ทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งประชากรในกลุ่มดังกล่าวมีจำนวน 28 ล้านคน โดยจะให้บริการฉีดฟรีที่โรงพยาบาลสังกัด สธ. ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 30 เม.ย. จนถึงขณะนี้มีผู้ฉีดไปแล้วจำนวน 5.7 ล้านคน สำหรับการรณรงค์ให้วัคซีนคอตีบครั้งนี้ จะฉีดให้บุคลากรในสังกัดทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วย สอบสวนป้องกันควบคุมโรค เนื่องจากเป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนรวมคอตีบและบาดทะยัก
ด้าน นพ.โสภณ กล่าวว่า โรคคอตีบเป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน บางรายมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิต โรคนี้ส่วนใหญ่เข้าใจว่าเกิดขึ้นเฉพาะในเด็ก แต่ที่จริงไม่ใช่ ยิ่งเกิดในผู้ใหญ่ที่ภูมิคุ้มกันต่ำ อาการป่วยจะรุนแรงกว่าในเด็กมาก ทั้งนี้ เชื่อว่าหากปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนในกลุ่มดังกล่าวแล้วจะทำให้ภูมิคุ้มกันโรคของประเทศแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ วัคซีนคอตีบจะเริ่มฉีดตั้งแต่วัยเด็กรวม 6 ครั้ง เริ่มตั้งแต่อายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน ฉีดกระตุ้นซ้ำเมื่ออายุ 1 ปี 6 เดือน อายุ 4 ปี และตอนเรียน ป.6 ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองพาเด็กไปรับวัคซีนตามตารางให้ครบถ้วน ส่วนภายหลังการฉีดควรดูอาการสัก 30 นาที ว่า มีอาการแพ้หรือไม่ ซึ่งอาการแพ้อาจมีทั้งผื่นขึ้น หายใจติดขัด ครั่นเนื้อครั่นตัว ซึ่งถือเป็นอาการปกติของการฉีดวัคซีนทั่วไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (4 ก.พ.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) นพ.จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และผู้บริหารร่วมกันเปิดงาน “การรณรงค์ให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฉลิมพระชนมายุครบ 60 พรรษา โดย นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ที่ต้องเร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนคอตีบในผู้ที่มีอายุ 20 - 50 ปี ทุกคนในประเทศไทย เนื่องจากเมื่อปี 2555 พบการระบาดในภาคอีสาน มีผู้ป่วยจำนวน 63 ราย เสียชีวิต 10 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่อยู่ในกลุ่มอายุ 20 - 50 ปี มีภูมิคุ้มกันโรคนี้ในระดับต่ำ หรือภูมิคุ้มกันลดลง
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ในปี 2557 สธ. ได้จัดโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนคอตีบในประชาชนอายุ 20 - 50 ปี ทุกจังหวัดในภาคอีสาน โดยในปี 2558 จึงได้จัดทำเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 60 พรรษา โดยขยายการรณรงค์ทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งประชากรในกลุ่มดังกล่าวมีจำนวน 28 ล้านคน โดยจะให้บริการฉีดฟรีที่โรงพยาบาลสังกัด สธ. ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 30 เม.ย. จนถึงขณะนี้มีผู้ฉีดไปแล้วจำนวน 5.7 ล้านคน สำหรับการรณรงค์ให้วัคซีนคอตีบครั้งนี้ จะฉีดให้บุคลากรในสังกัดทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วย สอบสวนป้องกันควบคุมโรค เนื่องจากเป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนรวมคอตีบและบาดทะยัก
ด้าน นพ.โสภณ กล่าวว่า โรคคอตีบเป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน บางรายมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิต โรคนี้ส่วนใหญ่เข้าใจว่าเกิดขึ้นเฉพาะในเด็ก แต่ที่จริงไม่ใช่ ยิ่งเกิดในผู้ใหญ่ที่ภูมิคุ้มกันต่ำ อาการป่วยจะรุนแรงกว่าในเด็กมาก ทั้งนี้ เชื่อว่าหากปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนในกลุ่มดังกล่าวแล้วจะทำให้ภูมิคุ้มกันโรคของประเทศแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ วัคซีนคอตีบจะเริ่มฉีดตั้งแต่วัยเด็กรวม 6 ครั้ง เริ่มตั้งแต่อายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน ฉีดกระตุ้นซ้ำเมื่ออายุ 1 ปี 6 เดือน อายุ 4 ปี และตอนเรียน ป.6 ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองพาเด็กไปรับวัคซีนตามตารางให้ครบถ้วน ส่วนภายหลังการฉีดควรดูอาการสัก 30 นาที ว่า มีอาการแพ้หรือไม่ ซึ่งอาการแพ้อาจมีทั้งผื่นขึ้น หายใจติดขัด ครั่นเนื้อครั่นตัว ซึ่งถือเป็นอาการปกติของการฉีดวัคซีนทั่วไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
