ออกตรวจเรือประมง จ.สมุทรสาคร วืด พบแค่ 1 ลำ เหตุบอกต่อข่าวตรวจจับเรือผิด กม. ไหวตัวหนีออกน่านน้ำจังหวัดอื่น ด้าน ก.แรงงาน โต้ข่าวพบเรือผิด กม. กว่า 4 หมื่นลำ แจงเป็นเรือประมงพื้นบ้าน ระบุ ติดตั้งระบบบนเรือขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป ล่าสุด ติดตั้งแล้ว 50 ลำจาก 4 พันลำ ตั้งเป้าติดตั้งทั้งหมดภายใน 1 ปี คาดช่วยลดปัญหาค้ามนุษย์ได้ร้อยละ 60
นายพีรพัฒน์ พรศิริเลิศกิจ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) และคณะตรวจแรงงานประมงทะเล ได้ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ตรวจสอบเรือประมง เบื้องต้นพบเพียง 1 ลำ คือ เรือ “จุมพลนาวี 55” มีลูกจ้าง 36 คน เป็นแรงงานพม่า 30 คน และแรงงานไทย 6 คน ซึ่งไม่มีสัญญาจ้างงาน ไม่มีทะเบียนลูกจ้าง รวมทั้งนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทตามกฎหมาย ห้องน้ำไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งพนักงานตรวจแรงงานได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกคำสั่งให้ปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว พร้อมชี้แจงกฎกระทรวง แรงงาน ว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในกิจการประมง รับทราบ
ทั้งนี้ ในการตรวจเรือประมงวันนี้ พบเรือประมงค้อนข้างน้อย เนื่องจากมีการบางส่วนมีการบอกกล่าวกันต่อว่าช่วงนี้มีการออกตรวจเรือประมง จึงทำให้มีการนำเรือออกไปหาปลาในน่านน้ำอื่นนอกจังหวัดสมุทรสาครมากขึ้น
นายนพดล กรรณิกา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงข่าวยืนยันกรณีมีข่าวว่ามีเรือประมงที่ยังผิดกฎหมายจำนวน 47,000 ลำ ถูกกฎหมายเพียง 7,000 ลำ ว่า จำนวนเรือประมง 47,000 ลำ เป็นจำนวนที่รวมเรือขนาดใหญ่และเรือประมงพื้นบ้านที่มีขนาดต่ำกว่า 30 ตันกรอส ส่วนเรือประมงที่มีขนาดมากกว่า 30 ตันกรอสขึ้นไปมีจำนวน 4,240 ลำ ทั้งนี้เรือประมงพื้นบ้านไม่จำเป็นต้องติดระบบติดตามเรือ (วีเอ็มเอส) เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงถึงลำละ 45,000 บาท พร้อมค่าใช้จ่ายรายเดือนอีก 1,000 บาท ส่วนเรือขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไปมีการติดตั้งแล้วจำนวน 50 ลำ โดยกรมประมงตั้งเป้าภายในปีนี้ จะติดตั้งระบบติดตามให้ได้ทั้งหมด และจะช่วยแก้ปัญหาการหลบหนีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ได้ เช่น การหนีออกนอกน่านน้ำของไทยและชักธงเป็นเรือประมงของประเทศอื่น เมื่อกลับเข้าฝั่งก็สามารถดำเนินการเอาผิดได้เพราะมีระบบติดตาม
“ขณะนี้กรมประมงและกรมเจ้าท่า กำลังทำงานร่วมกันเพื่อจัดทำข้อมูลทะเบียนเรือทั้งหมดเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากปัจจุบันมีเรือบางลำที่เลิกกิจการไปแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งทำให้ยังมีรายชื่อซ้ำซ้อนกันอยู่” ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน กล่าว
ด้าน นายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กฎหมายปัจจุบันให้อำนาจกรมเจ้าท่าออกข้อบังคับให้เรือที่มีขนาดใหญ่กว่า 60 ตันกรอสขึ้นไปในการติดตั้งระบบติดตามเรือ ซึ่งขณะนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประมง พ.ศ. ... ซึ่งให้อำนาจบังคับเรือขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไปตามข้อแนะนำของคณะกรรมาธิการยุโรปด้านประมงและทะเล
ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าการตรวจเรือประมงให้มีความถี่มากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกัน ปราบปรามการค้ามนุษย์ให้ได้ร้อยละ 60 และจะเร่งขยายให้ครบทุกพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ตรวจเรือประมงไปแล้ว 414 ลำ มีลูกจ้างเกี่ยวข้อง 1,936 คน ดำเนินคดีกับนายจ้างในจังหวัดตราด กรณีใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 1 ราย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายพีรพัฒน์ พรศิริเลิศกิจ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) และคณะตรวจแรงงานประมงทะเล ได้ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ตรวจสอบเรือประมง เบื้องต้นพบเพียง 1 ลำ คือ เรือ “จุมพลนาวี 55” มีลูกจ้าง 36 คน เป็นแรงงานพม่า 30 คน และแรงงานไทย 6 คน ซึ่งไม่มีสัญญาจ้างงาน ไม่มีทะเบียนลูกจ้าง รวมทั้งนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทตามกฎหมาย ห้องน้ำไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งพนักงานตรวจแรงงานได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกคำสั่งให้ปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว พร้อมชี้แจงกฎกระทรวง แรงงาน ว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในกิจการประมง รับทราบ
ทั้งนี้ ในการตรวจเรือประมงวันนี้ พบเรือประมงค้อนข้างน้อย เนื่องจากมีการบางส่วนมีการบอกกล่าวกันต่อว่าช่วงนี้มีการออกตรวจเรือประมง จึงทำให้มีการนำเรือออกไปหาปลาในน่านน้ำอื่นนอกจังหวัดสมุทรสาครมากขึ้น
นายนพดล กรรณิกา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงข่าวยืนยันกรณีมีข่าวว่ามีเรือประมงที่ยังผิดกฎหมายจำนวน 47,000 ลำ ถูกกฎหมายเพียง 7,000 ลำ ว่า จำนวนเรือประมง 47,000 ลำ เป็นจำนวนที่รวมเรือขนาดใหญ่และเรือประมงพื้นบ้านที่มีขนาดต่ำกว่า 30 ตันกรอส ส่วนเรือประมงที่มีขนาดมากกว่า 30 ตันกรอสขึ้นไปมีจำนวน 4,240 ลำ ทั้งนี้เรือประมงพื้นบ้านไม่จำเป็นต้องติดระบบติดตามเรือ (วีเอ็มเอส) เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงถึงลำละ 45,000 บาท พร้อมค่าใช้จ่ายรายเดือนอีก 1,000 บาท ส่วนเรือขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไปมีการติดตั้งแล้วจำนวน 50 ลำ โดยกรมประมงตั้งเป้าภายในปีนี้ จะติดตั้งระบบติดตามให้ได้ทั้งหมด และจะช่วยแก้ปัญหาการหลบหนีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ได้ เช่น การหนีออกนอกน่านน้ำของไทยและชักธงเป็นเรือประมงของประเทศอื่น เมื่อกลับเข้าฝั่งก็สามารถดำเนินการเอาผิดได้เพราะมีระบบติดตาม
“ขณะนี้กรมประมงและกรมเจ้าท่า กำลังทำงานร่วมกันเพื่อจัดทำข้อมูลทะเบียนเรือทั้งหมดเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากปัจจุบันมีเรือบางลำที่เลิกกิจการไปแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งทำให้ยังมีรายชื่อซ้ำซ้อนกันอยู่” ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน กล่าว
ด้าน นายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กฎหมายปัจจุบันให้อำนาจกรมเจ้าท่าออกข้อบังคับให้เรือที่มีขนาดใหญ่กว่า 60 ตันกรอสขึ้นไปในการติดตั้งระบบติดตามเรือ ซึ่งขณะนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประมง พ.ศ. ... ซึ่งให้อำนาจบังคับเรือขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไปตามข้อแนะนำของคณะกรรมาธิการยุโรปด้านประมงและทะเล
ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าการตรวจเรือประมงให้มีความถี่มากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกัน ปราบปรามการค้ามนุษย์ให้ได้ร้อยละ 60 และจะเร่งขยายให้ครบทุกพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ตรวจเรือประมงไปแล้ว 414 ลำ มีลูกจ้างเกี่ยวข้อง 1,936 คน ดำเนินคดีกับนายจ้างในจังหวัดตราด กรณีใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 1 ราย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
