อย.- มกอช. ลงตรวจแอปเปิลนำเข้าหน้าห้าง ยันไม่มีการนำเข้าล็อตที่เป็นปัญหา ระบุหากมีล็อตตรงกับที่สหรัฐฯแจ้งเตือนจะตีกลับสินค้าทันที ส่วนล็อตอื่นๆ ที่ไม่ตรงตามแจ้งเตือนจะสุ่มตรวจเฝ้าระวังตามปกติ พร้อมสุ่มตรวจสินค้าหน้าห้างจนถึง มี.ค. เผยแอปเปิลเคลือบคาราเมลไม่มีการนำเข้า
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ห้างเทสโก้ โลตัส สาขาแคราย นสพ.ศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) พร้อมด้วย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และเจ้าหน้าที่จากทั้งสองหน่วยงาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสินค้าแอปเปิลนำเข้าจากต่างประเทศที่วางขายในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) หลังจากที่องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ได้แจ้งเตือนมายังประเทศไทยให้ตรวจสอบและเรียกเก็บแอปเปิลสายพันธุ์กาล่าและแกรนนี่สมิธ ภายใต้เครื่องหมายการค้า Big B และ Granny's Best จากบริษัท Bidart Bros. เนื่องจากพบความสัมพันธ์กับการก่อโรคลิสเทอริโอซิส ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียลิสเทอเรีย ซึ่งเป็นอันตรายต่อหญิงตั้งครรภ์ เด็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
นพ.ไพศาล กล่าวว่า โดยปกติการนำเข้าแอปเปิลจะต้องมีใบนำส่งระบุเครื่องหมายการค้า สายพันธุ์ ล็อตการผลิตอยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถตรวจเช็กได้ว่าแอปเปิลที่นำเข้ามานั้นตรงกับรายละเอียดล็อตที่ อย. สหรัฐฯ แจ้งเตือนหรือไม่ โดยมาตรการที่ อย. จะดำเนินการนั้นคือ 1. หากแอปเปิลมีรายละเอียดตรงกับที่แจ้งเตือน คือ เป็นสายพันธุ์กาล่าและแกรนนี่สมิธในเครื่องหมายการค้า Big B และ Granny' Best จะส่งคืนสินค้าทันที 2. หากเป็นแอปเปิล 2 สายพันธุ์ดังกล่าวที่นำเข้าจากสหรัฐฯ แต่ไม่ใช่เครื่องหมายการค้าดังกล่าว จะไม่มีการสั่งอายัด แต่จะขอความร่วมมือจากบริษัทนำเข้าว่าอย่างเพิ่งกระจายสินค้าจนกว่าจะมีการตรวจหาเชื้อโรคแล้วเสร็จ และ 3. ตรวจสอบหาเชื้อโรคในแอปเปิลทุกสายพันธุ์ ทุกยี่ห้อ จากทุกประเทศที่นำเข้า
“แอปเปิลที่เข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา จำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์นั้น มีตู้หนึ่งที่เป็นสายพันธุ์กาล่า และแกรนนี่สมิธ แต่ไม่ใช่ยี่ห้อของบริษัท Bidart Bros. อย. จึงได้มีการสุ่มเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสอบหาเชื้อเช่นกัน คาดว่า น่าจะทราบผลประมาณ 4 - 5 วัน” รองเลขาธิการ อย. กล่าว
ด้าน นสพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า แอปเปิลที่มีการแจ้งเตือนนั้นจากการตรวจสอบยังไม่มีการนำเข้ามาในประเทศไทย ส่วนแอปเปิลที่เพิ่งนำเข้ามาเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่ท่าเรือแหลมฉบังนั้นเป็นคนละบริษัทกัน แต่ มกอช. ก็มีการสุ่มตรวจเฝ้าะรัวงสินค้าตามปกติ แต่ในช่วงนี้จะมีการสุ่มตรวจเพื่อเฝ้าระวังที่เข้มข้นขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการสุ่มเก็บตัวอย่างแอปเปิลที่วางขายตามโมเดิร์นเทรด จำนวน 10 ตัวอย่าง มาตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการด้วย และจะสุ่มตรวจเช่นนี้ต่อไปจนถึง มี.ค. 2558
นสพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า สำหรับการป่วยด้วยโรคลิสเทอริโอซิสในสหรัฐฯนั้น จากการตรวจสอบของสหรัฐฯพบว่าเกิดจากการบริโภคแอปเปิลเคลือบคาราเมล และเมื่อสอบสวนเชิงลึกต่อไปจึงพบว่าเชื้ออยู่ในแอปเปิล ซึ่งมาจากฟาร์มขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในมลรัฐแคลิฟอเนีย ซึ่งส่งสินค้าให้กับบริษัท Bidart Bros. อย่างไรก็ตาม อัตราการป่วย 30 กว่าคน และเสียชีวิตเพียงไม่กี่รายถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เล็กมาก เพราะเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในแคลิฟอร์เนียแล้วถือว่าจำนวนคนมากกว่าประเทศไทยมาก จึงได้มีการแจ้งเตือนมายังประเทศปลายทาง
“สาเหตุที่ทำให้คนอเมริกันป่วยนั่นเป็นเพราะมั่นใจในระบบเกษตรกรรมและการผลิตของตัวเองมากว่าได้มาตรฐาน จึงรับประทานโดยไม่ล้างก่อน ยิ่งเมื่อแอปเปิลที่มีเชื้อปนเปื้อนนำไปเคลือบคาราเมล ก็ยิ่งไม่เกิดการล้างก่อนรับประทานอีก ทำให้ได้รับเชื้อได้ อย่างไรก็ตาม แอบเปิลเคลือบคาราเมลไม่ได้มีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย" เลขาธิการ มกอช. กล่าวและว่า สำหรับแอปเปิลนำเข้านั้น ประเทศไทยนำเข้าจากประเทศจีนมากที่สุดถึงร้อยละ 80 ส่วนที่เหลือนำเข้าจากสหรัฐฯ นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้ เป็นต้น
ด้านเทสโก้โลตัส ออกแถลงการณ์กรณีเรื่องแอปเปิลว่า ไม่มีการนำแอปเปิลสายพันธุ์กาล่า และแกรนนี่สมิธ ภายใต้เครื่องหมายการค้า Big B และ Granny's Best นอกจากนี้ ยังมีการสุ่มตรวจสารเคมีตกค้างเมื่อสินค้ามาถึงศูนย์กระจายสินค้าและมาถึงสาขาด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่