นายกฯ ร่วมงานวันครู เผยนึกถึงแม่ ซึ่งเป็นครูและสอนให้เป็นคนดีจนทุกวันนี้ ย้ำตั้งใจทำงานแก้ปัญหาทุกเรื่อง ส่วนปัญหาหนี้สินครู ให้ ศธ. ไปดูแนวทางแก้ปัญหา ย้ำแก้ไม่ได้ในคราวเดียว แนะให้ดูเรื่องใช้ไม้เรียว เพราะการสอนเด็กต้องใช้ไม้อ่อน - ไม้แข็ง คู่กันและต้องพัฒนานักเรียนให้ได้ตามศักยภาพ โดยช่วงท้าย นายกฯ ชวนผู้เข้าร่วมงานร้องเพลง “แม่พิมพ์ของชาติ” ด้าน “ครูบุญมา - ครูวิจิตรา” เผยอยากให้ทุกคนให้กำลังใจนายกฯ เพราะตั้งใจทำงานเพื่อประเทศ ไม่อยากให้มีการยกนิ้วอะไรอีก และอยากให้นายกฯรักษาสุขภาพ
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่หอประชุมคุรุสภา ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มีการจัดงานวันครู พ.ศ. 2558 ครั้งที่ 59 ภายใต้หัวข้อ “ครูดีศรีแผ่นดิน” ณ บริเวณหอประชุมคุรุสภาและสนามหญ้าหน้ากระทรวงศึกษาธิการ โดยในเวลา 07.30 น. ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา บุคลากรทางการศึกษาอื่น ข้าราชการครู และประชาชน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร โดยมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ นายกฤษณพงศ์ กีรติกร และพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ และผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ. ร่วมในพิธี
ต่อมาเวลา 09.00 น. รมว.ศึกษาธิการ ทำพิธีสักการะพระพฤหัสบดีและเข้าสู่หอประชุมคุรุสภา พร้อมถวายเครื่องสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และประกอบพิธีสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้น นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัด ศธ. ประธานอนุกรรมการจัดงานวันครู อ่านโองการอัญเชิญบูรพาจารย์ และ นางจุไรรัตน์ แสงบุญนำ ครูอาวุโสนอกประจำการ กล่าวนำสวดคำฉันท์ระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ทำนองสรภัญญะ ต่อมา นายชัยอนันต์ แก่นดี ครูอาวุโสในประจำการนำผู้ร่วมชุมนุมกล่าวคำปฎิญาณตน
จากนั้นเวลา 10.30 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงหอประชุมคุรุสภา เข้าสู่พิธีการงานวันครู ถวายเครื่องสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 วางพวงมาลัยสักการะปฐมบูรพาจารย์ และประกอบพิธีสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้คาราวะครูอาวุโส สมัยเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดนวลนรดิศ ได้แก่ ครูบุญมา รัตนอุบล และครูวิจิตรา ไชยภัฎ ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีมอบรางวัลแก่ ผู้มีคุนูปการต่อการศึกษาของชาติ และผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ได้รับรางวัลคุรุสภา
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่ง ว่า วันนี้ถือเป็นวันมงคล ตนตื่นตอนเช้าและรู้ว่าวันนี้เป็น วันครู สิ่งแรกที่ตนนึกถึงคือ นึกถึงคุณแม่ เพราะแม่เป็นครู ที่สอนให้ตนเป็นคนดีมาจนถึงวันนี้ และมีโอกาสได้พบกับครูที่สอนวิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ รวมถึงได้พบกับครูที่ได้รับรางวัล ถือเป็นตัวแทนของครูทั่วประเทศ และวันนี้เป็นวันครูของแผ่นดิน พระบาทสมเด็กพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานแนวทางและแนวคิดไว้แล้วแต่ปัญหาคือ จะนำไปสู่การปฏิบัติและขับเคลื่อนอย่างไรไม่ให้เกิดความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไป การศึกษาต้องก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลก และทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ส่วนตัวตั้งใจเข้ามาแก้ปัญหาในทุกเรื่อง โดยขณะที่มอบรางวัลให้ครู ก็มีครูบางคนมากระซิบอยากให้ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินและสวัสดิการครู ซึ่งเรื่องนี้ ได้มอบหมายให้ ศธ.ไปรื้อดูว่าจะแก้อะไรได้อย่างไร แต่คงแก้ไม่ได้ทั้งหมด ในคราวเดียวกัน จะวางแนวทางไว้ให้โดยดูลำดับความสำคัญและต้องมองภาพรวมทั้งประเทศ รวมถึงปัญหาในเรื่องอื่น ๆ ที่ต้องไปดูทั้งเวลาของครูที่หายไปจากห้องเรียน ทั้งที่เกณฑ์ไปรับผู้ใหญ่ เสียเวลาไปกับการประเมิน ซึ่งต้องไปแก้ระบบให้ได้ ให้ครูเสียเวลาไปกับเรื่องเหล่านี้น้อยที่สุด ส่วนเรื่องปัญหาการกวดวิชา ไม่ได้ห้าม แต่ไม่ใช่ว่าเด็กไปกวดวิชาเพราะไม่มีการสอนอย่างเพียงพอในห้องเรียน แต่มีการสอบ ซึ่งแบบนี้ศธ. ต้องไปแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับผู้ปกครอง
“รัฐบาลเป็นตัวกำหนดนโยบาย โดยมีศธ. เป็นตัวขับเคลื่อนให้ครู นักเรียนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ให้มีความเป็นพลวัต แต่อย่าทำให้พลวัน ซึ่งต้องไปคิดว่า จะสร้างคนอย่างไรให้มีคุณภาพทัดเทียมนานาชาติให้ได้รับการศึกษาเท่าเทียมกันตามศักยภาพ ทั้งที่เรียนระดับขั้นพื้นฐาน เรียนเพื่อการแข่งขัน และระดับหัวกะทิ ประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าได้ ต้องอาศัย ศธ. เป็นเจ้าภาพหลัก ในการสร้างคนให้มีความรู้คู่คุณธรรม มีเหตุมีผล ไม่ถูกชักนำไปได้ง่าย การสอนเด็กต้องใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง ซึ่งเมื่อก่อนผมก็ถูกตี ถึงโตขึ้นมาเป็นตนทุกวันนี้ และเรียนรู้ว่าถ้าเราไม่ทำผิดก็จะไม่ถูกตี แต่เดี๋ยวนี้ครูตีเด็กไม่ได้ เพราจะฟ้องร้อง ดังนั้นศธ.ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่าจะทำอะไรได้บ้าง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า ส่วนเรื่องการขึ้นเงินเดือนครู จะขึ้นให้เฉพาะครูไม่ได้ เพราะต้องอิงกับระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)แต่อาจจะสามารถทำได้ในรูปแบบการให้ค่าตอบแทนพิเศษ ศธ. ไปจัดทำข้อมูลเสนอมาให้พิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า ในช่วงท้ายของการปราศัย นายกฯ ได้ขอให้ครูในห้องประชุม ร่วมกันร้องเพลงแม่พิมพ์ของชาติ และกล่าวขึ้นบนเวทีว่า เมื่อฟังแล้วน้ำตาจะไหล คิดถึงแม่ พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดเพลงพระคุณที่สาม ให้ผู้ที่มาร่วมงานในหอประชุมฟัง และบอกว่า อยากให้ศธ. เผยแพร่เพลงเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ด้าน ครูบุญมา รัตนอุบล สอนวิชาคณิตศาสตร์ พล.อ.ประยุทธ์ ในสมัยม.ต้น กล่าวว่า ตอนที่นายกฯ มาคาราวะครูอวยพรให้ท่านนายกฯทำงานให้ดี ช่วยชาติบ้านเมือง ซึ่งไม่ได้ฝากอะไร เพราะทุกวันนี้มีคนฝากปัญหาถึงนายกฯ มากแล้ว แต่ก็อยากเรียกร้องให้เราทุกคนช่วยกันให้กำลังใจนายกฯ ในการทำงานเพราะท่านเข้ามาช่วยดูแลประเทศ และอย่ายกนิ้วอะไรให้ท่านอีกเลย และจากที่ได้นั่งฟังนายกฯ กล่าวปราศัยกับครูเกือบ 2 ชั่วโมง รู้สึกซาบซึ้งและคิดว่าสุดยอดจริง ๆ ที่สำคัญท่านก็มีแม่เป็นครู ภรรยาก็เป็นครู จึงเชื่อว่านายกฯพร้อมที่จะช่วยเหลือครูแน่นอน แต่ครูก็ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการทำหน้าที่ของครูให้ดีที่สุด
ขณะที่ ครูวิจิตรา ไชยภัฎ อดีตครูสอนภาษาอังกฤษ กล่าวว่า ครูบอกกับนายกฯว่า ครูภูมิใจและขอให้รักษาสุขภาพ
นายนิวัตร นาคะเวช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา มอบข้อเสนอเพื่อการพัฒนาวิชาชีพต่อนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันครู 16 ม.ค.58 โดยสภาวิชาชีพขอการสนับสนุนและผลักดันจาก พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อยกระดับวิชาชีพครูให้สูงขึ้น ดังนี้ 1.คืนความสุขให้นักเรียน ด้วยการกำหนดนโยบายห้ามครูทอดทิ้งงานสอนไปทำหน้าที่อื่นในระหว่างที่มีภาระงานสอน พร้อมให้มีการตรากฎหมายกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของสื่อ ตำราเรียน สื่ออิเลคทรอนิกส์ ครุภัณฑ์และสภาพแวดล้อมทางกายภาพอื่นๆทั้งภายในและนอกห้องเรียน 2.คืนความสุขให้สังคม ด้วยการกำหนดนโยบายให้บรรจุนักศึกษาทุนครูมืออาชีพไปสอนยังโรงเรียนที่คุณภาพต่ำ และเร่งพัฒนาโรงเรียนทุกโรงให้มีคุณภาพเท่าเทียมกัน กำหนดนโยบายเร่งด่วนให้มีการติดตั้งอินเตอร์เน็ตสาธารณะความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ครู และคนไทยทุกคนได้เข้าถึงสารสนเทศเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา และ3.คืนความสุขให้ครู ด้วยการกำหนดนโยบายให้ครูเอกชนมีวิทยฐานะเช่นเดียวกับครูสังกัดอื่น กำหนดนโยบายให้ข้าราชการครูและคณาจารย์เกษียณอายุราชการตามปีการศึกษา เพื่อให้สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกำหนดนโยบายให้ครูมีบัญชีเงินเดือนให้เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูงเช่นเดียวกับบัญชีเงินเดือนของข้าราชอัยการหรือตุลากร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีสารเนื่องในโอกาสวันครู 16 มกราคม 2558ใจความว่า ในโอกาสที่ตนเข้ามารับผิดชอบบริหารงานใน ศธ.ได้ให้ความสำคัญกับครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างมากมีนโยบายเพื่อพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ในหลาย ๆ เรื่อง อาทิ การส่งเสริมและยกสถานะให้วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงในสังคม มีฐานะและคุณภาพชีวิตที่ดี สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน พัฒนาระบบค่าตอบแทนที่เหมาะสมและสร้างมาตรการด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนสำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย จะปรับโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาทักษะด้านภาษา จัดให้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางการศึกษากับต่างประเทศเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มุ่งเน้นการพัฒนาระบบการผลิตครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพ ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ เพิ่มโอกาสให้คนดี คนเก่งมีช่องทางเข้ามาประกอบวิชาชีพครู ลดภาระงานที่ไม่จำเป็นให้ครูทำหน้าที่ครูเต็มที่ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเป็น ครูมืออาชีพ ยึดมั่นในจรรยาบรรณ และการมีจิตวิญญาณของความเป็นครูที่แท้จริง
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น