ผู้ค้า - ชาวไร่ยาสูบตบเท้าเข้าหารือ สธ. จี้ถอนร่าง กม. คุมบุหรี่ฉบับใหม่ สวนทางนายกฯ สั่งให้ สธ. ชี้แจงทำความเข้าใจ สุดท้ายวอล์กเอาต์ อ้างไม่เป็นธรรมผู้ค้า ชี้ไม่ควรห้ามการแบ่งขายสำหรับคนต้องการเลิกบุหรี่ ด้าน สธ. เมินเสียงค้าน ยันเดินหน้าออกกฎหมายให้ทัน สนช. ชุดปัจจุบัน หวังปกป้องเด็ก - ผู้หญิง เป้าหมายสำคัญธุรกิจบุหรี่โลก
วันนี้ (12 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ตัวแทนสมาคมการค้ายาสูบไทย สมาคมชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศ 9 สมาคม สมาคมผู้ประกอบการค้ายาสูบไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบได้เดินทางมาพบ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อชี้แจงและคัดค้านการเสนอร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยอ้างผลนิด้าโพล ว่า ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้จะมีผลกระทบด้านจัดเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ ทั้งนี้ ก่อนการประชุมได้มีการตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมอย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมทางกลุ่มสมาคมต่างๆ พยายามให้ สธ.ถอนร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ออกจากการเสนอต่อ ครม. แต่ สธ. ยืนยันว่าจะต้องเดินหน้าต่อ ส่งผลให้กลุ่มสมาคมต่างๆ ไม่พอใจ จนสุดท้ายวอล์กเอาท์ออกจากห้องประชุม
นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้บริหารสมาคมใบยาสูบไทย กล่าวว่า ที่ตัดสินใจยุติการประชุมเพราะเห็นว่าหารือไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ซึ่งตนเข้าใจและเห็นด้วยกับการห้ามขายบุหรี่ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่กฎหมายนี้เข้มงวดและไม่เป็นธรรมกับผู้ค้า และเกษตรกร โดยเฉพาะประเด็นการแบ่งขายที่ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ใช่เด็ก แต่เป็นผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่และส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัด อีกทั้งยังบังคับไม่ให้มีการปฏิสัมพันธ์กับหน่วยงานต่างๆ ถือว่าไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ยังไม่มีแผนการว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า กฎหมายฉบับใหม่มีสาระสำคัญเพิ่มเติม เพื่อปกป้องเยาวชนหน้าใหม่จากการเข้าถึงการสูบบุหรี่ สำหรับการประชุมหารือในวันนี้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ สธ. ชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกร และผู้ค้ายาสูบ ซึ่งยืนยันว่าไม่มีผลกระทบกับเกษตรกร และผู้ค้ายาสูบ และไม่กระทบกับกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งตนเสียดายที่ฝ่ายสมาคมฯยุติการประชุม ไม่อยู่ฟังจนจบ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า สธ.จะเดินหน้ากฎหมายนี้ให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะส่งร่างกฎหมายเข้าพิจารณาตามขั้นตอน เพราะหากชะลอตามคำเรียกร้องจะทำให้กฎหมายไม่ทันพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชุดปัจจุบัน แต่ยังไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลา แต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด
นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กฎหมายใหม่จะครอบคลุมถึงบุหรี่ไฟฟ้า บารากู่ และผลิตภัณฑ์บุหรี่ใหม่ๆ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีมาตราใดส่งผลกระทบต่อเกษตรกร และผู้ค้า ที่สำคัญแม้จะห้ามการส่งเสริมการตลาด หรือการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (ซีเอสอาร์) แต่ไม่ได้ห้ามเรื่องการปฏิสัมพันธ์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ จุดประสงค์ของกฎหมายฉบับใหม่ก็เพื่อป้องกันเด็ก เยาวชน และผู้หญิงเข้าถึงการสูบบุหรี่ เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าบริษัทบุหรี่ต่างประเทศประกาศเพิ่มกลุ่มลูกค้า โดยประเทศไทยถือว่ายังมีปัญหาการรณรงค์ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ผล ลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ลงไม่ถึงร้อยละ 10 ต่อปี ที่น่าห่วงคือเด็กและเยาวชน 7 ใน 10 คน สูบแล้วไม่สามารถเลิกได้ เพราะมีผลในการเสพติดสูงกว่าเฮโรอีน ส่วนหญิงไทยก็สูบบุหรี่เพิ่มขึ้น และพบผู้เสียชีวิตที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่สูงถึง 50,000 คนต่อปี มากกว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งปีที่มีประมาณ 24,000 คน
“เราไม่ได้มองว่าคนสูบบุหรี่ หรือผู้ค้าบุหรี่เป็นคนไม่ดี และเราไม่ได้ห้าม ถ้าทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตอนนี้พบกลยุทธ์ทางการตลาดมากมาย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องออกกฎหมายใหม่ให้เท่าทันวิวัฒนาการของโลกและการตลาด” นพ.นพพร กล่าว
นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากนี้จะเป็นการพิจารณาตัวกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ก่อนส่งกลับมาที่ สธ. เพื่อส่งเรื่องต่อไปตามขั้นตอน โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ จะต้องมาพิจารณาผลกระทบกับเกษตรกรว่ามีอะไรบ้างเพื่อจะได้ทำการชดเชย เยียวยา และแก้ปัญหาให้กับชาวไร่ยาสูบ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการพิจารณาแก้ไขเนื้อหา และในขั้นตอนนี้จะไม่มีกลุ่มธุรกิจเข้ามาร่วมแต่อย่างใด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่