ภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 100 ปี นับแต่สมัย ร.6 ในพระอุโบสถวัดราชาฯ ชำรุดหนัก มีทั้งรอยร้าว แผ่นปูนกะเทาะ เหตุเพราะน้ำรั่วซึม หวั่นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สำคัญของชาติพัง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ ชี้เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วาดด้วยเทคนิคเฟรสโก มีเพียงหนึ่งเดียวในไทย แจงที่ผ่านมาบูรณะแต่ภายนอก เผยเตรียมทำเรื่องไปยังกรมศิลป์ - สำนักงานทรัพย์สินฯ เร่งหาทางบูรณะ
วันนี้ (12 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเทพวิสุทธิกวี (เกษม สญฺญโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสราชวรวิหาร ได้นำคณะสื่อมวลชนตรวจดูความเสียหายจุดต่างๆ ของภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ ซึ่งพบความเสียหายและมีรอยร้าวขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้วัดราชธิวาสราชวรวิหารได้จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2557 - 1 มกราคม 2558 ซึ่งมีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่าภายหลังร่วมกิจกรรมดังกล่าวผู้ที่มาร่วมสวดมนต์ข้ามปีได้มีเผยแพร่ภาพจิตกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถทางสื่อออนไลน์ ระบุว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดราชาฯ กำลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก
พระเทพวิสุทธิกวี กล่าวภายหลังการตรวจดูภาพจิตรกรรมทั้งหมดว่า ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถวัดราชาฯ จะเป็นเรื่องพระเวสสันดรชาดก ซึ่งเขียนขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงร่างภาพทั้ง 4 ด้านของผนัง ครบทั้ง 13 กัณฑ์ และได้ให้ นายซีริโกลี จิตรกรชาวอิตาลีเป็นผู้ลงสี โดยนายซีริโกลีนี้ เป็นคนเดียวกันกับผู้ที่เขียนภาพบนเพดานโดมในพระที่นั่งอนันตสมาคมด้วย ทั้งนี้ จิตรกรรมฝาผนังทั้งหมดภายในพระอุโบสถเขียนขึ้นด้วยเทคนิคปูนเปียก หรือ เฟรสโก โดยระบายสีลงบนผนังที่ปูนฉาบผนังยังไม่แห้ง ซึ่งวิธีนี้แตกต่างจากจิตรกรรมไทยประเพณีในช่วงดังกล่าว ซึ่งมักเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังด้วยสีฝุ่น (Tempera) การนำวิธีการวาดแบบตะวันตกเข้ามานี้ ทำให้สีของจิตรกรรมติดทนทานไม่กะเทาะล่อนง่าย ขณะเดียวกัน รูปร่างหน้าตาของพระเวสสันดรและคนอื่นๆ ในภาพจิตรกรรมฝาผนังดังกล่าว จะออกแนวลูกครึ่งระหว่างคนไทยกับชาวตะวันตก รวมถึงรูปร่างของคนก็มีขนาดใหญ่เหมือนชาวต่างชาติ แต่มีการแสดงท่าทางที่ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามดูมีมิติ ถือได้ว่าเป็นภาพจิตกรรมฝาผนังที่พบได้แห่งเดียวในประเทศไทย
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาฯ กล่าวต่อว่า ความเสียหายของภาพจิตรกรรมนั้นเกิดขึ้นจากการที่มีน้ำรั่วซึม สะสมกันมานาน ส่งผลให้ภาพเกิดรอยร้าวขึ้นในทุกภาพภายในพระอุโบสถ บางภาพถึงขนาดที่ปูนกระเทาะออกมาแล้ว และปัจจุบันตรวจพบความเสียหายภายในภาพมากขึ้น จึงเกรงว่าต่อไปอาจจะเกิดปัญหาภาพเสียหายกระเทาะออกมาทั้งภาพก็ได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ต่อภาพจิตรกรรมฝาผนังเทคนิคเฟรสโกในพระอุโบสถแห่งเดียวในประเทศไทยได้ ทั้งนี้ พระอุโบสถวัดราชาฯ ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประมาณ พ.ศ. 2454 จากนั้นจึงมีการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 โดยที่ผ่านมามีแต่การบูรณะภายนอกมาโดยตลอด แต่ภายในยังไม่เคยได้รับการบูรณะ ซึ่งภาพจิตกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถแต่ละภาพล้วนมีอายุมากกว่า 100 ปี
“ทางวัดมีความกังวลในเรื่องนี้มาก แต่ทางวัดไม่สามารถจะไปดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากวัดราชาฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากทางกรมศิลปากร การบูรณะใดๆ จึงไม่สามารถดำเนินการได้ทันที ต้องขออนุญาตจากทางกรมศิลปากรก่อน ดังนั้นเบื้องต้นจะมีการรายงานไปยังกรมศิลปากร รวมทั้งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อหารือถึงแนวทางในการบูรณะภาพจิตรกรรมฝาผนังดังกล่าวโดยเร็วที่สุด” พระเทพวิสุทธิกวี กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (12 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเทพวิสุทธิกวี (เกษม สญฺญโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสราชวรวิหาร ได้นำคณะสื่อมวลชนตรวจดูความเสียหายจุดต่างๆ ของภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ ซึ่งพบความเสียหายและมีรอยร้าวขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้วัดราชธิวาสราชวรวิหารได้จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2557 - 1 มกราคม 2558 ซึ่งมีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่าภายหลังร่วมกิจกรรมดังกล่าวผู้ที่มาร่วมสวดมนต์ข้ามปีได้มีเผยแพร่ภาพจิตกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถทางสื่อออนไลน์ ระบุว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดราชาฯ กำลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก
พระเทพวิสุทธิกวี กล่าวภายหลังการตรวจดูภาพจิตรกรรมทั้งหมดว่า ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถวัดราชาฯ จะเป็นเรื่องพระเวสสันดรชาดก ซึ่งเขียนขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงร่างภาพทั้ง 4 ด้านของผนัง ครบทั้ง 13 กัณฑ์ และได้ให้ นายซีริโกลี จิตรกรชาวอิตาลีเป็นผู้ลงสี โดยนายซีริโกลีนี้ เป็นคนเดียวกันกับผู้ที่เขียนภาพบนเพดานโดมในพระที่นั่งอนันตสมาคมด้วย ทั้งนี้ จิตรกรรมฝาผนังทั้งหมดภายในพระอุโบสถเขียนขึ้นด้วยเทคนิคปูนเปียก หรือ เฟรสโก โดยระบายสีลงบนผนังที่ปูนฉาบผนังยังไม่แห้ง ซึ่งวิธีนี้แตกต่างจากจิตรกรรมไทยประเพณีในช่วงดังกล่าว ซึ่งมักเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังด้วยสีฝุ่น (Tempera) การนำวิธีการวาดแบบตะวันตกเข้ามานี้ ทำให้สีของจิตรกรรมติดทนทานไม่กะเทาะล่อนง่าย ขณะเดียวกัน รูปร่างหน้าตาของพระเวสสันดรและคนอื่นๆ ในภาพจิตรกรรมฝาผนังดังกล่าว จะออกแนวลูกครึ่งระหว่างคนไทยกับชาวตะวันตก รวมถึงรูปร่างของคนก็มีขนาดใหญ่เหมือนชาวต่างชาติ แต่มีการแสดงท่าทางที่ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามดูมีมิติ ถือได้ว่าเป็นภาพจิตกรรมฝาผนังที่พบได้แห่งเดียวในประเทศไทย
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาฯ กล่าวต่อว่า ความเสียหายของภาพจิตรกรรมนั้นเกิดขึ้นจากการที่มีน้ำรั่วซึม สะสมกันมานาน ส่งผลให้ภาพเกิดรอยร้าวขึ้นในทุกภาพภายในพระอุโบสถ บางภาพถึงขนาดที่ปูนกระเทาะออกมาแล้ว และปัจจุบันตรวจพบความเสียหายภายในภาพมากขึ้น จึงเกรงว่าต่อไปอาจจะเกิดปัญหาภาพเสียหายกระเทาะออกมาทั้งภาพก็ได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ต่อภาพจิตรกรรมฝาผนังเทคนิคเฟรสโกในพระอุโบสถแห่งเดียวในประเทศไทยได้ ทั้งนี้ พระอุโบสถวัดราชาฯ ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประมาณ พ.ศ. 2454 จากนั้นจึงมีการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 โดยที่ผ่านมามีแต่การบูรณะภายนอกมาโดยตลอด แต่ภายในยังไม่เคยได้รับการบูรณะ ซึ่งภาพจิตกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถแต่ละภาพล้วนมีอายุมากกว่า 100 ปี
“ทางวัดมีความกังวลในเรื่องนี้มาก แต่ทางวัดไม่สามารถจะไปดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากวัดราชาฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากทางกรมศิลปากร การบูรณะใดๆ จึงไม่สามารถดำเนินการได้ทันที ต้องขออนุญาตจากทางกรมศิลปากรก่อน ดังนั้นเบื้องต้นจะมีการรายงานไปยังกรมศิลปากร รวมทั้งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อหารือถึงแนวทางในการบูรณะภาพจิตรกรรมฝาผนังดังกล่าวโดยเร็วที่สุด” พระเทพวิสุทธิกวี กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่