สธ. เผยสูตรลดอ้วน ฟื้นฟูร่างกาย หลังฉลองจัดหนักอาหาร - เครื่องดื่ม - ขนมช่วงปีใหม่ แนะคุมอาหารด้วยการกินอาหารสูตร ผักสด 2 ส่วนแป้ง 1 ส่วน โปรตีน 1 ส่วน เน้นผักสด ผลไม้รสหวานน้อย เพื่อปรับระบบร่างกาย แนะกินอาหารให้คบทุกมื้อ ห้ามอดอาหาร
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่จนถึงขณะนี้ ประชาชนยังคงจัดงานพบปะสังสรรค์และรับประทานอาหารปริมาณมาก ทั้งในงานเลี้ยงฉลอง อาหารของฝาก กระเช้าของขวัญปีใหม่ ที่มักประกอบไปด้วยเค้ก คุกกี้ ขนมหวาน อาหารทอด อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มสำเร็จรูปต่างๆ รวมถึงอาหารปรุงสำเร็จ ซึ่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานมาก เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ 1 ถุงใหญ่ ขนาด 57 กรัม ให้พลังงาน 320 กิโลแคลอรี น้ำอัดลม 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 200 กิโลแคลอรี เป็นต้น เมื่อรับประทานเข้าไปในปริมาณมากจะส่งผลให้น้ำหนักเพิ่ม ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคอ้วน โรคความดันโลโลหิต และโรคเบาหวาน
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ประชาชนจึงต้องดูแลสุภาพโดยออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกินออกไป เช่น เล่นฮูลาฮูป 30 นาที เผาผลาญพลังงานได้ถึง 210 กิโลแคลอรี ปั่นจักรยาน 30 นาที เผาผลาญพลังงานได้ถึง 240 กิโลแคลอรี เป็นต้น และควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วันๆ ละ 30 นาที นอกจากนี้ ควรควบคุมน้ำหนักของตนเองด้วยการใช้แบบจำลองอาหารหรือที่รู้จักกันคือ เมนู 2:1:1 โดยแบ่งจานอาหารออกเป็น 4 ส่วนเท่าๆ กัน สองส่วนแรกเป็นผักสดชนิดต่างๆ หรือผักสุกมากกว่า 2 ชนิดขึ้นไป ได้แก่ กะหล่ำปลี แตงกวา มะเขือเทศ คะน้า ตำลึง ใบบัวบก ถั่วพู อีกส่วนหนึ่งเป็นข้าว แป้ง ควรเลือกข้าวที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต ลูกเดือย และส่วนสุดท้ายเป็นประเภทโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ไม่ติดมัน ไม่ติดหนัง เนื้อปลา ถั่วเมล็ดแห้ง อาหารทะเลสลับกับเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ถั่วเหลือง เต้าหู้ และโปรตีนเกษตร
ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หากต้องการให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควรกินผลไม้สดที่ไม่หวานมาก 1 จานเล็กร่วมด้วย เพื่อเป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร งดผลไม้แปรรูป เช่น กวน แช่อิ่ม ทอดกรอบ อบแห้ง และดอง เน้นผักผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะแม้ผักผลไม้ให้กากใยปริมาณมาก แต่บางชนิดมีน้ำตาลสูง จะทำให้ได้รับพลังงานจากการรับประทานมากเกินกว่าที่ใช้พลังงานไปจนเกิดการสะสมเป็นไขมันส่วนเกินในร่างกาย ส่วนผักควรเป็นผักสดจะดีกว่าปรุงสุก เนื่องจากผักสดมีคุณค่าสารอาหารมากกว่า ถ้ามีการปรุงอาหารที่ต้องใช้น้ำมัน ควรใช้น้ำมันพืชในการปรุง โดยปริมาณน้ำมันไม่เกิน 2 ช้อนชาต่อมื้อ และอาจเพิ่มการดื่มนมได้แต่ควรเลือกนมชนิดไม่ปรุงแต่งรส ดื่มนมจืด นมพร่องมันเนย นมขาด มันเนยแทน แต่หากรับประทานตามหลักเมนู 2:1:1 ทั้ง 3 มื้อ ใน 1 วัน ต้องดื่มนมพร่องมันเนย 1 แก้ว เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน
“ทั้งนี้ การกินอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ควรงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง แต่ต้องรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อโดยควบคุมปริมาณให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดหนัง ติดมัน อาหารทอด และเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลายชนิดเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่จนถึงขณะนี้ ประชาชนยังคงจัดงานพบปะสังสรรค์และรับประทานอาหารปริมาณมาก ทั้งในงานเลี้ยงฉลอง อาหารของฝาก กระเช้าของขวัญปีใหม่ ที่มักประกอบไปด้วยเค้ก คุกกี้ ขนมหวาน อาหารทอด อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มสำเร็จรูปต่างๆ รวมถึงอาหารปรุงสำเร็จ ซึ่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานมาก เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ 1 ถุงใหญ่ ขนาด 57 กรัม ให้พลังงาน 320 กิโลแคลอรี น้ำอัดลม 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 200 กิโลแคลอรี เป็นต้น เมื่อรับประทานเข้าไปในปริมาณมากจะส่งผลให้น้ำหนักเพิ่ม ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคอ้วน โรคความดันโลโลหิต และโรคเบาหวาน
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ประชาชนจึงต้องดูแลสุภาพโดยออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกินออกไป เช่น เล่นฮูลาฮูป 30 นาที เผาผลาญพลังงานได้ถึง 210 กิโลแคลอรี ปั่นจักรยาน 30 นาที เผาผลาญพลังงานได้ถึง 240 กิโลแคลอรี เป็นต้น และควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วันๆ ละ 30 นาที นอกจากนี้ ควรควบคุมน้ำหนักของตนเองด้วยการใช้แบบจำลองอาหารหรือที่รู้จักกันคือ เมนู 2:1:1 โดยแบ่งจานอาหารออกเป็น 4 ส่วนเท่าๆ กัน สองส่วนแรกเป็นผักสดชนิดต่างๆ หรือผักสุกมากกว่า 2 ชนิดขึ้นไป ได้แก่ กะหล่ำปลี แตงกวา มะเขือเทศ คะน้า ตำลึง ใบบัวบก ถั่วพู อีกส่วนหนึ่งเป็นข้าว แป้ง ควรเลือกข้าวที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต ลูกเดือย และส่วนสุดท้ายเป็นประเภทโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ไม่ติดมัน ไม่ติดหนัง เนื้อปลา ถั่วเมล็ดแห้ง อาหารทะเลสลับกับเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ถั่วเหลือง เต้าหู้ และโปรตีนเกษตร
ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หากต้องการให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควรกินผลไม้สดที่ไม่หวานมาก 1 จานเล็กร่วมด้วย เพื่อเป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร งดผลไม้แปรรูป เช่น กวน แช่อิ่ม ทอดกรอบ อบแห้ง และดอง เน้นผักผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะแม้ผักผลไม้ให้กากใยปริมาณมาก แต่บางชนิดมีน้ำตาลสูง จะทำให้ได้รับพลังงานจากการรับประทานมากเกินกว่าที่ใช้พลังงานไปจนเกิดการสะสมเป็นไขมันส่วนเกินในร่างกาย ส่วนผักควรเป็นผักสดจะดีกว่าปรุงสุก เนื่องจากผักสดมีคุณค่าสารอาหารมากกว่า ถ้ามีการปรุงอาหารที่ต้องใช้น้ำมัน ควรใช้น้ำมันพืชในการปรุง โดยปริมาณน้ำมันไม่เกิน 2 ช้อนชาต่อมื้อ และอาจเพิ่มการดื่มนมได้แต่ควรเลือกนมชนิดไม่ปรุงแต่งรส ดื่มนมจืด นมพร่องมันเนย นมขาด มันเนยแทน แต่หากรับประทานตามหลักเมนู 2:1:1 ทั้ง 3 มื้อ ใน 1 วัน ต้องดื่มนมพร่องมันเนย 1 แก้ว เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน
“ทั้งนี้ การกินอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ควรงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง แต่ต้องรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อโดยควบคุมปริมาณให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดหนัง ติดมัน อาหารทอด และเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลายชนิดเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่