วัดใจ! คกก. ควบคุมเหล้าไฟเขียวกฎหมายห้ามขายเหล้าวันปีใหม่ “หมอรัชตะ” บอกให้รอฟังเสียงที่ประชุมก่อน ขณะที่นายกแพทยสภาเผยห้ามขายเหล้าปีใหม่ไม่มีชาติไหนทำ เหตุต่างชาติควบคุมบังคับใช้กฎหมายเอาจริง เมาแล้วขับจับปรับลงโทษทันที แต่ไทยไม่เอาจริง ยก ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ไม่ต้องตั้งด่านเป่า ขับเซเรียกจับทันควัน
วันนี้ (8 ธ.ค.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค (คร.) เตรียมผลักดันกฎหมายห้ามขายเหล้าช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า วันที่ 19 ธ.ค. นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะมีการพิจารณาการออกประกาศควบคุมในประเด็นดังกล่าวด้วย คือ ช่วงปีใหม่วันที่ 31 ธ.ค. และ 1 ม.ค. รวมถึงสงกรานต์คือ วันที่ 13 - 15 เม.ย. อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็นของหลายๆ ฝ่าย โดยต้องยึดหลักความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก แต่มาตรการด้านกฎหมายเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ซึ่ง สธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังมีการรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผู้สื่อข่าวถามว่ากฎหมายดังกล่าวถือเป็นเรื่องสุดโต่งเกินไปหรือไม่ ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า อย่าลืมว่ากฎหมายยังไม่ออก ต้องรอการพิจารณาในคณะกรรมการก่อน ที่สำคัญ การควบคุมและป้องกันปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องมีหลายมาตรการดำเนินการควบคู่กัน ทั้งกฎหมายและการรณรงค์
เมื่อถามว่า สธ. ยังยืนยันว่าอุบัติเหตุจากท้องถนนมาจากการดื่มเหล้าใช่หรือไม่ ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ขอให้รอการพิจารณาของคณะกรรมการที่ตนเป็นประธานก่อน อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุจากการเมาเป็นสาเหตุสำคัญ แต่ยังมีสาเหตุอื่นๆ เช่น สภาพคนขับไม่พร้อม ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ง่วง สภาพถนนไม่ดี และไม่สวมหมวกกันน็อกสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมในวันที่ 19 ธ.ค. นี้ จะต้องเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติที่รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อชี้ขาดหรือไม่ ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ใช่ แต่ยังไม่ได้บอกว่าคณะกรรมการชุดที่ตนเป็นประธานจะมีมีมติเห็นชอบแล้ว ต้องรอการประชุมชุดนี้ก่อน
ด้าน ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวที่จะออกมาควบคุมการขายเช่นนี้ ไม่มีที่ไหนเขาดำเนินการ เพราะอย่างสหรัฐอเมริกา หรือ ญี่ปุ่น เขาจะจริงจังกับการดำเนินการทางกฎหมายมาก ถ้าพบว่าเมาแล้วขับก็จับปรับลงโทษหนักทันที และถูกบันทึกเป็นประวัติเสียหายไปตลอดชาติ ส่วนของประเทศไทยถือว่าการควบคุมบังคับใช้กฎหมายไม่จริงจังและเข้มแข็งพอ มาตรการควบคุมต่างๆ ที่แล้วมาจึงไม่ได้ผล ของต่างประเทศแทบไม่ต้องรณรงค์เรื่องเมาไม่ขับเลย แต่เขารณรงค์ให้ความรู้ในเรื่องของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนการตั้งด่านเป่าลมหายใจวัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ที่ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ไม่มีการดำเนินการ เพราะเพียงแค่ขับรถแล้วเซก็ถูกจับเอาผิดทันที
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่