เปิดโปรเจกต์งบปี 2559 สปสช. เตรียมตั้งกองทุนผู้สูงอายุ 4,900 ล้านบาท แยกงบพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินทั้งระบบอีก 17,000 ล้านบาท เพิ่มงบพัฒนาการแพทย์แผนไทยอีก 100 ล้านบาท เป็น 480 ล้านบาท หวังเป็นการแพทย์ทางเลือกรองรับเออีซี ไม่ใช่แค่การรักษาคู่ขนาน
![นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/558000000168801.JPEG)
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สิ่งที่ สปสช. จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2559 นั้น จะเพิ่มในส่วนของกองทุนผู้สูงอายุ จำนวนกว่า 4,900 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือในส่วนของคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง เพื่อนำข้อเสนอดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด สปสช. เพื่อดูแลผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง ส่วนในปี 2558 นี้ จะอาศัยกลไกของงบประมาณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการดูแลผ่าน Care Giver หรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ โดยจะขยายครอบคลุมให้ครบทุกจังหวัด นอกจากนี้ จะพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินทั้งระบบ เพื่อให้คนไทยมั่นใจในระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของภาครัฐ ลดข้อจำกัดในเรื่องของเงิน การใช้เส้นสาย และเวลา โดยจะแยกเป็นกองทุนเฉพาะออกมาต่างหากจากงบผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และส่งเสริมสุขภาพ โดยใช้งบประมาณ 17,000 ล้านบาท ในการพัฒนาห้องฉุกเฉิน การเชื่อมต่อกับระบบของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ผลิตคนและฝึกอบรมบุคลากรให้มีระบบที่ดี และระบบส่งต่อ
นพ.วินัย กล่าวว่า นอกจากนี้ จะเดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำในระบบกองทุนสุขภาพ ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้ว เพื่อออกแบบระบบให้เสร็จสิ้นภายใน 3 - 4 เดือน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำสิทธิประโยชน์และการรับบริการของแต่ละกองทุนสุขภาพ และสุดท้ายคือการพัฒนาการแพทย์แผนไทย โดยจะตั้งงบประมาณเพิ่มจาก 380 ล้านบาท เป็น 480 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสถานพยาบาลในการพัฒนาคลินิกแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลสังกัด สธ. ทั่วประเทศ และจะร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สนับสนุนให้แพทย์แผนไทยเป็นเป็นแพทย์ทางเลือก ไม่ใช่การรักษาคู่ขนานกับแพทย์แผนปัจจุบันอย่างที่ผ่านมา เพื่อเตรียมพร้อมกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านให้ความสนใจเรื่องนี้ และแต่ละประเทศก็มีการพัฒนาการแพทย์ทางเลือกของตัวเอง
นพ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สปสช. จะร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ เดินหน้าสนับสนุนการบรรจุยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มเติม จากปัจจุบันมีกว่า 70 รายการ นอกจากนี้ จะสนับสนุนในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) มีระบบโลจิติกส์ที่ดีสำหรับการจัดส่งยาแพทย์แผนไทยอีกด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สิ่งที่ สปสช. จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2559 นั้น จะเพิ่มในส่วนของกองทุนผู้สูงอายุ จำนวนกว่า 4,900 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือในส่วนของคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง เพื่อนำข้อเสนอดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด สปสช. เพื่อดูแลผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง ส่วนในปี 2558 นี้ จะอาศัยกลไกของงบประมาณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการดูแลผ่าน Care Giver หรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ โดยจะขยายครอบคลุมให้ครบทุกจังหวัด นอกจากนี้ จะพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินทั้งระบบ เพื่อให้คนไทยมั่นใจในระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของภาครัฐ ลดข้อจำกัดในเรื่องของเงิน การใช้เส้นสาย และเวลา โดยจะแยกเป็นกองทุนเฉพาะออกมาต่างหากจากงบผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และส่งเสริมสุขภาพ โดยใช้งบประมาณ 17,000 ล้านบาท ในการพัฒนาห้องฉุกเฉิน การเชื่อมต่อกับระบบของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ผลิตคนและฝึกอบรมบุคลากรให้มีระบบที่ดี และระบบส่งต่อ
นพ.วินัย กล่าวว่า นอกจากนี้ จะเดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำในระบบกองทุนสุขภาพ ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้ว เพื่อออกแบบระบบให้เสร็จสิ้นภายใน 3 - 4 เดือน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำสิทธิประโยชน์และการรับบริการของแต่ละกองทุนสุขภาพ และสุดท้ายคือการพัฒนาการแพทย์แผนไทย โดยจะตั้งงบประมาณเพิ่มจาก 380 ล้านบาท เป็น 480 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสถานพยาบาลในการพัฒนาคลินิกแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลสังกัด สธ. ทั่วประเทศ และจะร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สนับสนุนให้แพทย์แผนไทยเป็นเป็นแพทย์ทางเลือก ไม่ใช่การรักษาคู่ขนานกับแพทย์แผนปัจจุบันอย่างที่ผ่านมา เพื่อเตรียมพร้อมกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านให้ความสนใจเรื่องนี้ และแต่ละประเทศก็มีการพัฒนาการแพทย์ทางเลือกของตัวเอง
นพ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สปสช. จะร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ เดินหน้าสนับสนุนการบรรจุยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มเติม จากปัจจุบันมีกว่า 70 รายการ นอกจากนี้ จะสนับสนุนในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) มีระบบโลจิติกส์ที่ดีสำหรับการจัดส่งยาแพทย์แผนไทยอีกด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่